10 ข้อดีของการ “ทำงานโรงงาน”
ชีวิตของ “หนุ่มสาวโรงงาน” หากใครไม่เคยสัมผัสอาจไม่รู้ว่ามันมีเรื่องดีแค่ไหนซ่อนอยู่ในรั้วโรงงาน ก่อนผันตัวเองเป็นฟรีแลนซ์ ผู้เขียนเองทำในสายงานออฟฟิศแบบเต็มตัวมานับสิบปี และเดินทางติดต่อคลุกคลีกับโรงงานแบบทะลุปรุโปร่ง เกิดมุมมองเทียบกับชีวิตหนุ่มออฟฟิศของตัวเอง มองเห็นข้อดีของการ “ทำงานโรงงาน” แท้จริงแล้วมีข้อดีซ่อนอยู่จนน่าอิจฉา กับอาชีพหน้าสายการผลิตที่หลายคนเข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็นงานเงินเดือนน้อย แต่หากมองอย่างรอบด้านกลับเป็นงานคุ้มค่า เป็นข้อมูลตัดสินใจหากใครกำลังตัดสินใจว่าอาชีพหนุ่มสาวโรงงานเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า เราไปดู 10 ข้อดีของอาชีพ หนุ่มสาวโรงงาน
10 ข้อดีของการ “ทำงานโรงงาน”
1. เลิกงานคือจบ!
เสียงกริ่งดังนั่นคือลั้ลลาใช้ชีวิตอิสระได้ทันที ไม่มีใครไลน์มาตามงาน ไม่ต้องกังวลกับเสียงโทรศัพท์หัวหน้า หรือลูกค้าโทรมาถามนู่นนี่จนไม่มีเวลาส่วนตัว จะกินข้าวดูหนังต้องคอยชำเลืองดูหน้าจอโทรศัพท์ว่ามีไลน์กลุ่มแจ้งเตือนอะไรหรือเปล่า จะปิดโทรศัพท์ก็โดนด่าทั้งที่เลิกงานแล้วแท้ ๆ จนหลายคนเกิดความเครียดสะสม แต่หนุ่มสาวโรงงานไม่ต้องกังวลกับเสียงโทรศัพท์เรื่องงานเลย ถึงเวลาเข้างาน เลิกก็คือเลิก ใช้ชีวิตหลังจากนั้นอย่างอิสระไม่ต้องใช้บ้านเป็นที่ทำงาน
2. ทำต่อมี OT
ไม่มีนะโรงงานเลิก 5 โมง หัวหน้ามีงานให้ทำต่อถึง 1 ทุ่มโดยไม่ได้ค่าจ้าง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายแรงงานมีค่าล่วงเวลารายชั่วโมง วันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็คูณ 2 แรง ต่างจากออฟฟิศทำงานยันดึกดื่นปิดไฟคนสุดท้ายเป็นเรื่องของความ “เสียสละ” เงินเดือนได้ตายตัว วันหยุดพักผ่อนกับครอบครัวมีขอสรุปงานด่วนให้ แบบนี้อาชีพหนุ่มสาวโรงงานเค้าไม่เจอกัน ถ้ามีงานวันหยุดคือต้องได้ค่าแรง
3. สวัสดิการแบบจัดเต็ม แทบไม่จำเป็นต้องใช้เงิน
งานในโรงงานมักจะมาพร้อมกับสวัสดิการมากมาย เช่น การรักษาพยาบาล แผนการเกษียณอายุ และสิทธิพิเศษอื่นๆ ของพนักงาน ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
4. ค่าตอบแทนสูง
เป็นความเข้าใจผิดมาก ๆ ว่าเป็นงานรายได้ต่ำ แต่หากได้มาคลุกคลีคนทำงานจริงพบว่าผลตอบแทนมากจนน่าอิจฉา หากมองแค่เงินเดือนอาจดูไม่สูง แค่เค้าได้โบนัสกัน 5 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้าง แถมบวกเงินพิเศษให้อีก เคยเข้าไปโรงงานใหญ่ที่มีข่าวสหภาพประท้วงว่าได้แค่ 3 เดือน ถึงกับอุทานว่า “เฮ้ย! ตั้ง 3 เดือนเลยหรอ” เพราะออฟฟิศได้กัน 1-2 เดือนก็ยิ้มกันแล้ว เอาแบบตามตรงแค่ได้ก็ดีใจ แต่ชาวโรงงานได้กันมากกว่านั้นคือเรื่องปกติซึ่งถ้าเอามาหารเฉลี่ยต่อเดือนนี่ไม่น้อย และอย่าลืมว่าโอกาสเงินรั่วไหลแต่ละวันค่อนข้างยาก (ถ้าไม่ใช้จ่ายเกินตัวเอง) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนกลุ่มนี้มีเงินก้อนส่งกลับบ้านเกิดได้ตลอดเวลา
5. ทุกคนอยู่ในสังคมเดียวกัน
งานออฟฟิศมีค่าสังคมสูง งานแต่งใส่ซองแค่ 500 ยังนับว่าดูถูกกัน ไม่นับรวมค่าเดินทางแต่ละวัน (โรงงานรถรับส่งฟรี) ซึ่งถ้าเอามาหารเงินเดือนที่ว่าเยอะนี่เหลือไม่กี่บาท หันมาทางโรงงานสังคมของเค้าแทบไม่มีใครใช่ชีวิต “ติดหรู” จนแตกต่างจากคนอื่น เลิกงานจะใส่เสื้อยืดตัวละ 20 จะลากรองเท้าแตะอะไรไม่มีใครมองว่าดูแปลกปลอม เพราะทุกคนทำอย่างนี้กันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาเงินไปหาเสื้อผ้าแพง ๆ มาใส่แข่งกันเพราะทุกคนมียูนิฟอร์ม ไม่ต้องเสียไปกับของพวกนี้ เงินเก็บแต่ละเดือนจึงเยอะตามไปด้วย
6. เงินเดือนใครว่าน้อย
เรามักบอกว่าออฟฟิศได้เดือนละ 3-4 หมื่น โรงงานได้หมื่นกว่าบาทเอง แต่ต้องนับรายได้รวมทั้งหมดรวมสวัสดิการจิปาถะอย่างแย่สุดเด็กเข้าใหม่ได้หมื่นต้น ๆ พวกอยู่มานานแตะ 2 หมื่น หรือ 2 หมื่นอัพ แต่ถ้าเอางานออฟฟิศเงินเดือน 3 หมื่นมาเทียบกับโรงงาน 1 หมื่นมันก็ไม่แฟร์ เพราะถ้าออฟฟิศ 3 หมื่นอย่างน้อยต้องไม่ใช่ระดับปฏิบัติการ ถ้าเทียบระดับ หัวหน้า-หัวหน้า พบว่าโรงงานมีค่าตอบแทนสูงจนน่าตกใจ ส่วนงานออฟฟิศถ้าจบใหม่สตาร์ตเงินเดือนขั้นต่ำ หักค่าเดินทางค่ากินอยู่ เงินเหลือแต่ละเดือนอาจไม่ได้เยอะถ้าเทียบกับค่าครองชีพในโรงงานข้าวราดแกง 20 บาท
7. โอกาสก้าวหน้ามีมาก
โรงงานหลายแห่งมีโครงสร้างเส้นทางอาชีพและเสนอโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ด้วยความทุ่มเทและพัฒนาทักษะพนักงานสามารถก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นภายในองค์กรได้
8. ไม่ต้องกลัวตกงาน
หากพัฒนาตัวเองจนมีฝีมือในสายงาน แทบไม่ต้องกลัวเลยว่าออกจากที่เก่าจะหางานไม่ได้ เราอาจเคยได้ยินข่าวว่าโรงงานเจ๊ง! ลอยแพพนักงาน แต่ข่าวกลับไม่รายงานว่าอาทิตย์ต่อมาโดนซัพต้อนเข้าโรงงานใหม่แล้ว แรงงานมีฝีมือไม่ต้องสอนงานใหม่ใครก็ชอบ ต่างจากงานออฟฟิศหากออกไปแล้วต้องฟาดฟันกับเด็กจบใหม่นั่งอัดกันหน้าห้องสัมภาษณ์ ทัศนคติการมองคนประสบการณ์สูงกลายเป็น “พวกนี้รู้เยอะ” ต่างกับการสัมภาษณ์งานสายการผลิตหากเคยทำที่นั่นที่นี่มาก่อนโอกาสปฏิเสธน้อยมาก “เคยทำที่อื่นมายิ่งเยอะยิ่งดี”
9. สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงงานดี
โรงงานมักจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเพื่อให้มั่นใจถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงพื้นที่ทำงานที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี พื้นที่พักผ่อน และมาตรการด้านความปลอดภัย
10. ความปลอดภัยสูงมาก
โรงงานต่างๆ มักจะให้ความสำคัญกับโปรโตคอลความปลอดภัยและจัดให้มีการฝึกอบรมอย่างครอบคลุมเพื่อลดอันตรายในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าข้อดีของการทำงานในโรงงานอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม บริษัท และแต่ละสถานการณ์



















