หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สังคมเกย์ในช่วงปี 2535-2553

เนื้อหาโดย minigun

ในช่วงปี 2535-2553 เป็นช่วงที่วัฒนธรรมเกย์ค่อยๆเติบโตช้าๆ เป็นสังคมที่คนทั่วไปอาจจะมองไม่เห็น ไม่เข้าใจ ในตอนนั้นยังเป็นสังคมปิดมาก การเที่ยวยังเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม แต่ก็รับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามาก เห็นได้จาก การเติบโตของสถานที่เที่ยวเกย์ เช่น ดิสโก้เทค ผับบาร์  ซาวน่า ที่เข้ามาในบ้านเรา โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพมหานคร สังคมเกย์ของเกย์ในยุคนั้นได้ค่อยๆ หลอมรวมกัน และส่งต่อไปยังวัฒนธรรมเกย์รุ่นใหม่ แม้ว่าสังคมภายนอก จะยังไม่ยอมรับชายรักชายก็ตาม

ผมได้เติบโตมาในช่วงวัยรุ่นในช่วงเวลาที่กำลังพูดถึงพอดี (พศ. 2535-2553) ในยุคนี้ เกย์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมทั่วไป เกย์ส่วนใหญ่จึงมักเป็นเกย์ไม่แสดงออก ดูปกติเหมือนชายทั่วไป อาจจะเป็นเพราะสภาพสังคมที่ทำให้เกย์ยุคนี้ จำเป็นต้องปกปิดตัวเอง เพื่อไม่ให้ใครรู้ ทั้งพ่อแม่ เพื่อนฝูง หรือ แม้กระทั่งตัวเอง ภายใต้การปกปิดความเป็นเกย์ มีสถานที่หลายแห่งที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้เกย์เหล่านี้ สามารถมีสังคมเล็กๆ ในแบบของตัวเองได้ 

ผมรู้จักเกย์ในยุคนั้นผ่านหนังสือเกย์ตามแผงหนังสือ มันยังไม่มีสื่อชนิดอื่นในช่วงนั้น อินเตอร์เน็ตยังไม่มี ผมรู้จักหนังสือเกย์ เช่น ศาลาคนเศร้า ชีวิตเศร้าชาวเกย์ นีออน มรกต ห้องห้าเหลี่ยม มีการนัดเจอส่งจดหมายหากันทางไกล ผมยังเด็กมากในตอนนั้น น่าจะ 14-16 เอง อ่านไปก็แปลกดี ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ด้วยซ้ำ แล้วเขานัดเจอกันทำไม ทำไมชีวิตเกย์มันเหงาขนาดนั้นเลยเหรอ 

จากความสงสัยอยากรู้ ผมไปเดินเที่ยวที่ห้างดังกลางกรุงในสมัยนั้น คือ ห้างมาบุญครอง ผมเดินเที่ยวทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เดินคนเดียว ไปตั้งแต่ห้างเปิดจนถึงช่วงบ่ายถึงเย็น ผมเริ่มเห็นว่า คนที่เดินเที่ยวในห้าง โดยเฉพาะในบางชั้น เช่น ชั้นขายเฟอร์นิเจอร์ มีความเงียบสงัดต่างจากชั้นอื่น ผมไปเดินชั้นนั้นบ่อยมากเพราะเงียบ เดินสบาย สังเกตเห็นว่า มีเกย์ไม่แสดงออกรุ่นอายุมากกว่าผม มาเดินที่นี่มากมาย 

ผมกลายเป็นเด็กที่ยังไม่รู้จักอะไร ผมได้เจอเพื่อนรุ่นพี่ (อายุรุ่น 25-30 มากกว่าผมในตอนนั้น) จนถึงรุ่นพ่อ (อายุ 40-45) เข้ามาคุยกับผม เริ่มเรียนรู้ชีวิตเกย์จากคนที่แก่กว่า 

หลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปไม่สามารถมาเที่ยวแบบนี้ได้อีก ผมเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย หลังเลิกเรียน ผมยังมาเดินเล่นที่นี่อยู่จนห้างปิด ได้รู้จักเพื่อนรุ่นอายุใกล้กันมากขึ้น (รุ่นอายุ 16-25) ในที่สุดก็นำมาสู่การเจอแฟนคนแรกที่ห้างแห่งนี้ 

ผมรู้มาว่า ห้างที่ผมไปเที่ยว เป็นแหล่งที่เกย์เที่ยวเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีห้างดังอีกหลายห้างในกรุงเทพ เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ห้างบิ๊กซี หลายสาขา โดยเฉพาะสาขาในเมือง รวมไปถึงสวนสาธารณะชื่อดังอย่าง สวนลุมพินี หรือ ย่านวังสราญรมย์ สนามหลวง ด้วย ผมเป็นนักผจญภัย ชอบการพิสูจน์แสวงหา ผมก็ไปเดินตามจุดหมายที่เกย์ไปเที่ยวทุกที่ ก็พอได้รู้ได้เห็นวิถีเกย์ในยุคนั้นๆ 

ผมเริ่มเห็นชีวิตเกย์ในอีกมุมหนึ่งที่ต่างไปจากเดิม ในยุคนั้นยังมีโรงหนังที่เกย์ไปเที่ยวอีกจำนวนมากกระจายทั่วในกรุงเทพ ส่วนใหญ่เป็นโรงหนังที่ฉายหนังควบวนทั้งวัน แบบแนวไทย จีน ญี่ปุ่น ค่าเข้า 40 บาท แน่นอนว่า ผมเริ่มไปเที่ยวสถานที่พวกนี้ เช่น ประดิพัทธ์เธียเตอร์ พหลโยธินรามา ย่านสะพานควาย รวมไปถึง ผับบาร์เกย์ ในยุคนั้น ชื่อดังๆ เช่น ครัวสีลม ซุปเปอร์เล็ก บาร์ตะวัน ทไวไลท์ หนวดอินเตอร์ จูปิเตอร์ พูดแล้วยอมรับว่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆมาก ในช่วงหลังกว่านั้น ก็มี ดีเจ สเตชั่น ที่ดังมากแถวสีลมซอย 2 

ในยุคนั้น เริ่มมีซาวน่าดังอย่าง บาบิลอน (สาทร), โอเบลิสต์ (ทองหล่อ), เดอะบีช (พระโขนง), เดอะโคโลนี (เอกมัย), สุโขทัยซาวน่า (สามเสน) นับเป็นซาวน่ายุคแรกๆ ของเมืองไทยเลย ผมเริ่มไปเที่ยวซาวน่าพวกนั้น ในวันหยุด ไปกับแฟนผมบ่อยมาก แทบทุกอาทิตย์เลย โดยเฉพาะ โอเบลิสต์ ซาวน่าชื่อดังในอดีตที่ปิดกิจการไปแล้ว ชีวิตช่วงนี้ แม้จะสนุก รู้จักความรัก รู้จักเซกส์ของเกย์  

เวลาผ่านมาจนผมอายุ 30 ต้นๆ แม้การงานการเงินจะดีขึ้น สังคมก็เปลี่ยนไปมากในยุคนี้ เริ่มมีการขยายตัวของซาวน่าเกย์มาก ในช่วงระหว่างปี 2542-2552 ถือได้ว่าเป็นช่วง 10 ปีที่รุ่งเรืองที่สุดของเกย์ในยุค '90 เลยก็ว่าได้

เพราะมีซาวน่าเกิดใหม่จำนวนมาก เช่น เดอะโซน หรือเดอะทรอย (ลาดพร้าว), เดอะดอร์ (ลาดพร้าว), เกสรซาวน่า (ลาดพร้าว), มัฟฟิลซาวน่า (บางกะปิ), ฟารอสซาวน่า (สะพานควาย, รามคำแหง), ครุยซิ่งซาวน่า (รัชโยธิน), ฉกรรจ์ (ซอยอารีย์), ตอปิโด (บางกะปิ),  เคเพลส (สะพานควาย),  พาราไดซ์ (งามวงศ์วาน), ภุมรินทร์ซาวน่า (รังสิต), ซาวน่ามาเนีย (ศาลาแดง), เดวิดซาวน่า (สนามหลวง),  บ้านไทย (ดินแดง),  39 อันเดอร์กราวด์ (สะพานควาย), เฮพเวน (มเหสักข์) และอื่นๆอีกเพียบ

แน่นอนว่า ผมไปเที่ยวมาทุกที่ที่พูดมา ซาวน่าที่มีมากขึ้นเริ่มแย่งลูกค้ากันเอง ซาวน่าเก่าๆ ในยุคก่อนหน้า เริ่มหายไป แต่ก็ยังมีซาวน่าเก่าๆ ที่รอดจากการแข่งขันที่ดุเดือด เห็นจะมี เดอะบีช, บาบิลอน, จีจีซาวน่า เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน 

ในช่วงนี้ เริ่มมีการเกิดขึ้นของ Hi5, MSN, ICQ, Camfrog ตอนนั้นยังไม่มี facebook, twitter, instagram นะครับ จะว่าไป แฟนคนปัจจุบันผมก็รู้จักกันแรกๆ ผ่านช่องทาง Hi5, MSN ครับ (ราวปี 2550-2551) ตอนนั้นยังไม่มีพวกแอพเกย์เหมือนในยุคปัจจุบัน พวกนี้เกิดตามมาหลังจากนั้นอีกหลายปี ในยุคที่มีการเติบโตของโซเชียล ซาวน่าก็เริ่มหายไป ชื่อซาวน่าที่ผมเล่ามา เหลือเพียงไม่กี่แห่ง คนเริ่มเที่ยวซาวน่าลดลงจากการเข้าตรวจค้นของตำรวจบ่อยครั้งขึ้น มีข่าวการตรวจค้นจับกุมของตำรวจบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในซาวน่าบางที่ เช่น R3 (รัชดาภิเษก), ฟารอส ซาวน่า สาขา 2 (รามคำแหง) หรือ เดอะ บีช (พระโขนง) เป็นต้น

จากการแพร่ระบาดของโควิดในช่วงปี 2019 ถึงปัจจุบัน 2023 ยิ่งซ้ำเติมธุรกิจซาวน่าในบ้านเรา จนปิดกิจการไปหลายที่ รวมไปถึงพวกผับบาร์ด้วย รวมถึงเริ่มมีการเติบโตของแอพพลิเคชั่นเกย์หลายแอพมาแทนที่ เข้าถึงสังคมเกย์ได้ง่ายจากมือถือ ทั้ง Blue, Hornet, Jack'd, Grindr เป็นต้น จึงเป็นการปิดฉากอย่างถาวรของชีวิตเกย์ยุค '90 ปัจจุบันเกย์ในยุคนั้น มีอายุ ราว 50-60 ปีกันหมดแล้วครับ พอเกย์ยุคใหม่มีคนลดลงมากจากเดิม เนื่องจากประชากรเด็กและวัยรุ่นที่ลดลง ซาวน่าเกย์ก็กลายเป็นแค่อดีต

เนื้อหาโดย: minigun
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
minigun's profile


โพสท์โดย: minigun
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: bemygon, อีเจ้สารพัดพิษ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
วิธีต้มไข่แบบประหยัดไฟและน้ำ"ฉบับญี่ปุ่น"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไม้เรียวอยู่ไหนสวนป่าไผ่ชื่อดังของไต้หวัน ถูกลิงแสมบุกทำลายชาวบ้านสุดทน!ร้องน้ำเน่าในสวนหลวงร.9 กระทบสุขภาวะของชุมชน และท่องเที่ยวคอนเสิร์ต AREA 52 "แบมแบม" สุดยิ่งใหญ่ ราชมังแตกเลยจ้า
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ประสบการณ์ ชีวิตเกย์
ขนาดสำคัญไหม สำหรับเกย์เทคนิคการร่วมรักของเกย์มีแต่พวกหลอกลวงในแอพมีรักแท้ของlกย์ไหม
ตั้งกระทู้ใหม่