หลุมดำอันตรายที่สุดในไทย
แสมสารขึ้นชื่อสถานที่ที่มีความสวยที่สุดเหมือนกัน แต่ใครจะรู้ไหมว่าที่แห่งนี้มีความลึกถึง85เมตรเลยทีเดียว เป็นจุดที่ลึกที่สุดเลยก็ว่าได้
ว่ากันตามภูมิศาสตร์ที่ตั้งทางทะเลก่อน
จุดดำน้ำเรือจมลำนี้ ที่ผมบอกว่ามีความเสี่ยงเพราะ เอาแน่ เอานอนอะไรไม่ได้ จากประสบการณ์ดำน้ำของผมที่ผ่านมา
1.เนื่องจากน้ำที่แสมสารเป็นระบบน้ำที่พิเศษมาก คือมีลักษณะของน้ำแบบ
"น้ำผสมชนิดน้ำเดี่ยว (Mixed, Diurnal dominant)"
เป็นลักษณะของน้ำขึ้น 1 ครั้ง และน้ำลง 1 ครั้งต่อวัน เป็นส่วนมาก
แต่มีบางขณะที่น้ำขึ้น 2 ครั้ง น้ำลง 2 ครั้งต่อวัน ซึ่งระบบน้ำแบบนี้จะทำให้ความสูง
และเวลาน้ำขึ้น-ลงจะแตกต่างกันมาก
จุดนี้จึงทำให้การคำนวณมาตราน้ำล่วงหน้า (ตารางน้ำ) ทำได้ยากมาก
และมักไม่แม่นยำตรงกับเวลาจริง
หรือบางครั้งคลาดเคลื่อนออกไปจนไม่ตรงกับตารางเลยก็มี
2.อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก เช่นลักษณะของพื้นทะเลในบริเวณนั้น ที่เสียรูปไปจากเดิม
ด้วยหลุมระเบิดขนาดใหญ่ช่วงสมัยสงครามเวียดนาม(Ammunition dumping ground) ทำให้พื้นทะเลเป็นหลุมลึก ผิดรูปเกิดการกระโชกตัวรุนแรงของกระแสน้ำเป็นบางครั้ง
นักดำน้ำหลายท่าน เคยเล่าถึงประสบการณ์นี้เอาไว้ สืบค้นจากข้อมูลเก่า บางท่านบอกว่าโดนดูดลงไป บางท่านบอกว่าโดนดันกลับขึ้นมา บางท่านบอกว่าจากจุดที่สงบนิ่งก็เปลี่ยนเป็นไหลรุนแรงทันที(ในประเด็นนี้ ผมเองเคยเจออยู่บ่อยๆที่จุดดำน้ำนี้
ช่องแคบใต้ทะเลระหว่างเกาะ 2 เกาะ เป็นตัวช่วงเร่งความเร็วของกระแสน้ำขึ้นไปอีก
ซึ่งเราวัดความเร็วของกระแสน้ำ เป็นหน่วย Knot (นอต) ไม่ใช่ "เด (ที่มาจาก เดซิเมตร)"
โดยความเร็วของกระแสน้ำนั้น "ไม่" สามารถประเมินได้ทั้งหมดจาก "สูงต่ำ ของตารางน้ำ"ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
เพียงแต่เราสามารถใช้ตารางน้ำขึ้น น้ำลง เป็นตัวช่วยประกอบการพิจารณาได้เท่านั้น
4.ส่วนความเร็ว และความเร็วเฉลี่ยของกระแสน้ำในแต่ละพื้นที่
ต้องวัดด้วยเครื่องมือวัดความเร็วน้ำเท่านั้น (Flow meter) ซึ่งมีความยุ่งยากมาก
เพราะอัตราการไหลที่ผิวน้ำ กับที่กลางน้ำ และที่พื้นน้ำก็ไม่เท่ากันอีกด้วย
ซึ่งตัวเลขความเร็วเฉลี่ยทั้งปีเหล่านั้น จะมีระบุอยู่บนแผนที่ทางทะเล(ประกอบการเดินเรือ) จัดทำฐานข้อมูลโดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือครับ
5.(ต่อ) วิเคราะห์ลักษณะการจม และตำแหน่งที่จมลงไปดังนี้ครับ
เรือลำนี้ถูกระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ก่อนที่จะจมลง
โดยเอาทางด้านกาบขวาของเรือนอนลงสู่พื้นทะเล โดยหัวเรือหันไปทางเกาะจวง
และจมขวางร่องน้ำพอดี ที่ความลึกพื้นทะเลเฉลี่ย 28 เมตร