ไม่มีใครพัฒนาสุพรรณบุรีให้เจริญได้ดีเท่าคนสุพรรณบุรีอีกแล้ว
ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน การเดินทางของผู้คนที่อยู่ต่างจังหวัดไม่ได้สะดวกสบายเหมือนคนในเมืองที่จะมีรถส่วนตัว หรือ รถประจำทางที่พร้อมจะไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา การเดินทางส่วนมากก็จะเป็นรถสองแถวบ้าง นั่งเรือเมล์ หรือแม้กระทั่งเดินข้ามอำเภอ ข้ามตำบลก็ตาม ถนนหนทางก็ยังไม่สะดวกรกร้างการเดินทางแต่ละครั้งจะไปสักที่หนึ่งใช้เวลาเป็นวันๆ และยิ่งสำหรับการเดินทางเข้าเมืองของชาวสุพรรณที่ไปกรุงเทพในแต่ละครั้งก็แสนจะลำบาก คุณเอก ปทุมรัตน์ แชร์ข้อมูลและเรียบเรียงไว้ จึงข้อหยิบยกมานำเสนอให้เห็นถึงภาพว่าจังหวัดสุพรรณบุรี ในอดีตในอดีตถึงปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร
วันหนึ่งนายบรรหาร ศิลปอาชา เห็นโครงการก่อสร้างงบประมาณแผ่นดินขัดแย้งกันเรื่องถนนวงแหวนในกรุงเทพฯ จึงแปรญัตติสร้างถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี หรือเรียกง่ายๆว่า ทางหลวงหมายเลข ๓๔๐ ลดระยะทางเดินทางเหลือเพียง ๑๐๐ กิโลเมตรจากกรุงเทพฯสู่สุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเมืองเกษตรกรรม สมัยก่อนโจรผู้ร้ายชุกชุม จนเป็นตำนานสามเสือเมืองสุพรรณ (เสือใบ,เสือดำ,เสือมเหศวร) นายบรรหารสร้างบ้านแปลงเมืองให้สุพรรณบุรีเจริญก้าวหน้าด้วยสังคมที่อบอุ่น จนได้รับจัดอันดับเป็นเมืองน่าอยู่ติดระดับประเทศ นายบรรหารวางผังเมืองสุพรรณบุรี เป็นวงแหวนล้อมวงกลมรอบตัวเมืองสุพรรณบุรีเรียกว่า "ทางหลวง ๓๕๗" เป็นถนนสี่เลน จนฝ่ายค้านสาธกว่าเป็น "ถนนควายเดิน" กล่าวหาลงทุนไม่คุ้มค่า แต่ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าคือวิสัยทัศน์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ลงทุนคุ้มค่าเงินงบประมาณ เขื่อนป้องกันน้ำท่วมเมืองสุพรรณบุรีงบประมาณกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง แก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจได้ดีเสมอมา ในตัวเมืองฝั่งแม่น้ำท่าจีนนายบรรหาร ไม่ยอมให้สุพรรณบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมเหมือนอยุธยากรุงเก่า ที่ไม่ได้วางผังเมืองรองรับ พอความเจริญเข้าไปมากๆ อำเภออุทัย ของอยุธยา ผสมผสานระหว่างชุมชนเก่าและชุมชนเมืองเกิดปัญหาอาชญากรรม และ คดีความมากมาย ผิดกับสุพรรณบุรีที่เจริญด้วยการเป็นศูนย์กลางการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว นายบรรหาร เนรมิตเรือนจำเก่า เป็นหอคอยบรรหารแจ่มใส เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรี มีน้ำพุเต้นระบำเหมือนสิงคโปร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและการควบคุมบรรเทาภัยในมุมสูงนายบรรหารเนรมิตบึงน้ำเป็นบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ มีอควาเรียมน้ำทะเล แม้บ้านเราไม่มีพรมแดนติดทะเลแต่เลี้ยงปลาฉลามได้ และสวนสัตว์บึงฉวาก เป็นมากกว่าสวนสัตว์ ทำหน้าที่บริหารจัดการสัตว์ป่าของกลางในคดี และเลี้ยงดูสัตว์ไปจนวันตาย สามารถเลี้ยงเสือที่อายุยืนยาวที่สุดในโลกได้ ดังนั้นบึงฉวากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้ สองข้างทางของสุพรรณบุรี ชาวไร่ชาวสวนนำพืชผักผลผลิตทางการเกษตรมาขายโดยตรงจากมือผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคไข่เป็ดไล่ทุ่ง มะม่วงตามฤดูกาล แห้ว กระจับต้ม ปลาช่อนนาเค็ม ศัตรูพืชอย่างนกหนูงูเห่า ถูกนำมาขายข้างทางเป็นเมนูเปิดพิสดารให้นักท่องเที่ยว...."มังกรสวรรค์" เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของไทยและจีน ทำให้เมืองสุพรรณบุรีคึกคักจากนักท่องเที่ยวมหาศาล หลาย สิบปีที่ผ่านมา พรรคชาติไทยพัฒนา ได้รังสรรค์สุพรรณพัฒนาเป็นการถาวร เราทำได้แล้ว...และจะทำต่อไป
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรีให้เจริญมาถึงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ดังนั้นการพัฒนาสุพรรณบุรีก็ต้องเป็นคนสุพรรณบุรี เลือดสุพรรณบุรีที่เข้าใจและเข้าถึงคนสุพรรณบุรีอย่างแท้จริง และในช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายพรรคการเมืองบางพรรคที่จะเข้ามาปลุกปั่นคนสุพรรณให้มาเกลียดนั่งเกลียดชังกันเองแต่ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยพัฒนาอะไรให้ดีขึ้น คงมีแต่พรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น ที่ยืนหยัดและเคียงข้างชาวสุพรรณมาตลอด และพร้อมที่จะพัฒนาสุพรรณบุรีให้เจริญมากขึ้นกว่าเดิมต่อไป ดังนั้นคนสุพรรณจะเลือกใคร ถ้าไม่ใช่คนสุพรรณด้วยกันเอง คือพรรคชาติไทยพัฒนานั้นเอง