ต้นกำเนิดสัญญาณไฟจราจรแห่งแรกของโลก
สัญญาณไฟจราจร มีไว้เพื่อควบคุมการจราจรบนท้องถนน ซึ่งปรากฏให้เห็นตามแยกถนน ทางเดินเท้า ซึ่งไฟจราจรทำหน้าที่แสดงสัญญาณไฟให้คนขับรถและคนเดินเท้าปฏิบัติตามกฏจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
สัญญาณไฟจราจร ประกอบด้วย ไฟเขียว หมายถึงอนุญาตให้สัญจรไปได้ ไฟแดงคือให้หยุดการจราจร และไฟเหลือง หรือไฟส้ม เป็นสัญญาณเตือนให้ระวังว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นไฟแดง
ซึ่งต้นกำเนิดสัญญาณจราจร แห่งแรกของโลก เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1868 อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเจ้าของผลงานคือคุณเจ.พี. ไนต์ วิศวกรชาวอังกฤษ เป็นผู้คิดค้นและสร้างไฟสัญญาณจราจรอันแรกของโลกขึ้น
ซึ่งการสร้างสัญญาณไฟจราจรในครั้งนั้น ก็เพื่อใช้ควบคุมจราจรของรถม้า และผู้คนที่เดินเท้าผ่านไปมาบริเวณสี่แยก ซึ่งเต็มไปด้วยจำนวนคนที่พลุกพล่าน กลางสี่แยกเมืองลอนดอน หน้ารัฐสภาของอังกฤษ
ต่อมาสัญญาณไฟจราจรก็ถูกพัฒนาเป็นแบบพลังงานไฟฟ้า และติดตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปี ค.ศ.1890 และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของต้นกำเนิดสัญญาณไฟจราจรที่ใช้กันทั่วโลก
ซึ่งแต่เดิมนั้นสัญญาณไฟจราจร มีแค่สองสี คือสีแดงและสีเขียว และต้องใช้คนกดสัญญาณไฟ ต่อมาจึงได้พัฒนาเพิ่มสีเหลือง หรือสีส้มเข้ามาจนกลายเป็นสามสี โดยวิลเลี่ยม พอตต์ นายตำรวจเมืองดีทรอยต์ ปัจจุบันสัญญาณไฟจราจรถูกพัฒนาให้เป็นสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติ ดังที่เราเห็นในปัจจุบัน