ท่องโลกดึกดำบรรพ์: โคโลราโดในป่าดิบชื้น (ยุคจูราสสิก)
รัฐโคโลราโด สถานที่ของนักตื่นทองในอดีตที่เดินทางมายังแม่น้ำรีโอแกรนด์เพื่อหาเม็ดทอง แถมยังมีแกรนแคนยอน หนึ่งในศิลปะจากธรรมชาติอันเลื่องชื่อ รัฐแห่งทองคำอันยิ่งใหญ่นี้ ครั้งหนึ่งเมื่ออดีต เคยปกคลุมไปด้วยต้นสนสูงชะลูด แป๊ะก๋วยนานาชนิด และก็ ยังมีไดโนเสาร์เดินหากินอยู่ตามพื้นป่าหลายชนิด
ย้อนไปในช่วง 199 ล้านปีที่แล้ว เป็นช่วยเปลี่ยนเข้าสู่ยุคจูราสสิค อากาศของโลกอบอุ่นขึ้นมากๆ อย่างต่อเนื่อง และตอนนั้นเองทวีปต่างๆ แยกตัวออกจากกันเล็กน้อย อเมริกาใต้แยกออกมาแต่ก็ยังเชื่อมต่อกับแอฟริกา แอนตาร์ติกาและออสเตรเลียเชื่อมติดกัน แต่ก็แยกจากสองทวีปก่อนหน้าไปแล้ว ส่วนในยุโรปและเอเชีย เกิดการแตกตัวของทวีปเป็นหมู่เกาะเล็กๆ มากมายนอกราวขอบแผ่นดินใหญ่ แต่อเมริกาเหนือยังคงเป็นทวีปที่ใหญ่โตอยู่เช่นเดิม โคโลราโด้เป็นแผ่นดินทางใต้ แต่ไม่ได้เป็นทุ่งหญ้าแพรี่แบบที่คุ้นเคย ไม่มีควายไบซันหรือกวางมูส ไม่มีชาวพื้นเมืองในกระโจม และไม่มีโคบาลกับเหล่านักตื่นทองที่มาแสวงโชคหางานทำ มันปกคลุมไปด้วยป่าดิบที่มีต้นสนจำนวนมาก
คุณเดินเข้ามาสำรวจในป่าแห่งนี้ ยังไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่าไหร่นัก แต่บนกองใบไม้ที่พื้นป่ามีบางสิ่งกระโดดเด้งออกมาจากพื้นดิน นั่นคือบรรพบุรุษของกบนอนซ่อนตัวอยู่ มันคือ โนโธบราเชคัส (Nothobrachacus) จริงอยู่ที่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเริ่มหมดความหลากหลายลงตั้งแต่ยุคไทรแอสซิก แต่พวกกบวิวัฒนาการขนาดตัวที่เล็กลง แลกกับหางที่ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อไปเพิ่มกับขนาดขาหลังให้มากขึ้นช่วยในการกระโดด ปากที่กว้างและกระเพาะที่ใหญ่และสั้นช่วยให้สามารถย่อยเนื้อสัตว์และเปลือกแข็งของแมลงได้ง่ายขึ้น พวกมันปรับตัวได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในโลกที่มีนักล่าขนาดใหญ่จำนวนมาก
และแล้ว ปรากฏคอยาวเหยียดยื่นออกมาจากพุ่มไม้พลางขย่มต้นปรงโน้มใบลงมากิน มีสัตว์รูปร่างคล้ายๆ กันอีกหลายตัวเดินออกมาอย่างช้าๆ จนคุณสังเกตุเห็นได้ นั่นคือ ซาราห์ซอรัส (Sarahsaurus) และ แองชิซอรัส (Anchisaurus) พวกมันคือซอโรโพโดมอร์ฟ หรือพวกคอยาวแรกเริ่ม ภาพจำของไดโนเสาร์คอยาวซอโรพอดที่เราคุ้นเคยมักจะต้องเดินสี่ขาและมีคอที่ยาว แต่พวกซอโรโพโดมอร์ฟยังไม่ได้วิวัฒนาการถึงขั้นนั้นอย่างชัดเจน ร่างกายของพวกมันมีขาหลังยาวเป็นเสา แต่ขาหน้ามีอุ้งมือและเล็บแหลมยกสูงจากพื้น มันสามารถก้มเดินได้ทั้งสองขาและสี่ขา สรีระแบบนี้ทำให้ถ่ายเทน้ำหนักได้ต่างจากลูกหลานในสายวิวัฒนาการเดียวกัน
คุณเริ่มหิวน้ำจากอากาศร้อนชื้นที่ทำให้เสียน้ำจนต้องปาดเหงื่อ จึงเริ่มเดินไปเรื่อยๆ จนพบกับสระน้ำกลางป่า คุณก้มตัวลงและเริ่มวักน้ำขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็วเพื่อดับกระหาย หากมองดูดีๆ ในน้ำ คุณเห็นได้ว่ามีวัตถุทรงกลมเล็กๆ ว่ายผ่านดงพืชน้ำ นั่นคือด้วงดิ่งหรือแมลงตับเต่า (Diving Beetles) แมลงเหล่านี้เริ่มวิวัฒนาการได้แปลกและเริ่มมีรูปร่างประหลาดต่างจากที่เราคาดคิดเอาไว้ พวกมันเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่สืบเชื้อสายจนถึงยุคปัจจุบัน และเมื่อมองลงไปอีก กุ้งเครฟิชจำนวนหนึ่งเดินกันขวักไขว่ที่ก้นบ่อน้ำ
ข้างๆ บ่อน้ำมีไดโนเสาร์ขนาดเล็กที่ยืนสองขา ผิวหนังทั้งแผ่นหลังมีแผ่นกระดูก นี่คือ สกูเทโลซอรัส (Scutellosaurus) พวกมันตัวเล็กและอ่อนแอ จึงวิวัฒนาการหนามขึ้นมาป้องกันตัวจากนักล่า พวกมันมีสะโพกแบบนกจึงคล่องแคล่วยามวิ่งหนีอันตราย และยังเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่ง ยามอาหารขาดแคลนที่ไม่มีอะไรกิน พวกมันสามารถขุดเอาเมล็ดสนมากิน หรือจะใช้ปากแทะแล้วดึงเปลือกไม้ออกมากินก็ทำได้เช่นกัน แต่ถ้าจะถามว่านักล่าแบบไหนกันที่ครองป่าแห่งนี้อยู่น่ะเหรอ รออีกสักหน่อยมันก็จะมาแล้วล่ะ
คุณเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ของบางสิ่ง เมื่อคุณมองขึ้นมา คุณก็พบกับไดโนเสาร์ท่าทางเจ้าเล่ห์ มันยืนสองขา มีฟันคมเต็มปาก ที่หัวมีหงอนสองข้างแปลกๆ ที่แบนลู่และตั้งฉากไปกับหัวยาวๆ นี่คือ ไดโลโฟซอรัส (Dilophosaurus) พวกมันมีชื่อเสียงในฐานะตัวร้ายพ่นพิษที่กินสมองมนุษย์จากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิค ปาร์กในปี 1996 แต่ในชีวิตจริง พวกมันตัวใหญ่กว่าในภาพยนตร์มาก โดยสูงถึงสองเมตรและยาวหกเมตร แถมยังไม่อาจจะพ่นพิษหรือกางแผงคอได้ หงอนบนหัวนั้นใช้บ่งบองเพศ ตัวนี้มีหงอนสีทืมๆ ทั้งตัว เป็นตัวเมีย
และแล้ว ก็มีไดโลโฟซอรัสอีกตัวเดินออกมาแหวกพุ่มไม้ดึงความสนใจของเจ้าตัวเมีย ตัวนี้ที่หงอนมีสีสันต่างๆ สดใส อาจจะฟังดูเกินจริงที่เราคาดเดาไม่ได้ว่าไดโนเสาร์มีสีอะไรกับทุกซากฟอสซิลที่เราค้นพบ แต่จากญาติสนิทของมันอย่างนกที่หลายๆ ชนิดมีสีสันสดใส เราก็จินตนาการกันได้ว่าไดโนเสาร์เองก็อาจจะมีลวดลายต่างกัน มีหงอนที่สีจัดจ้านหรือแม้แต่มีพฤติกรรมการเต้นเกี้ยวพาราสีตัวเมียก็เป็นได้ สิ่งเหล่านี้น่าสนใจจริงๆ และคงไม่มีใครรู้นอกจากกาลเวลาในยุคนั้น
เจ้าหนุ่มของเราเชิดหัวก่อนจะผงกหัวขึ้นลงคล้ายไก่เป็นจังหวะดูแปลกตา มันเริ่มแกว่งแขน ย่ำเท้า และเต้นไปมาพลางหมุนตัว คุณหยุดดูท่าทางประหลาดๆ นี้ได้โดยที่พวกมันทั้งสองตัวไม่ได้ตรงเข้ามาทำร้าย ถึงยามปกติไดโลโฟซอรัสจะเป็นนักล่าที่เก่งฉกาจที่สุดในป่านี้ แต่ยามเกี้ยวพาราสี พวกมันไม่วอกแวกและมีเป้าหมายเดียวในการลงแรงเต้นรำ ไดโลโฟซอรัสตัวเมียมองหนุ่มหล่อที่เข้ามาหามันอย่างไม่ลดละ การเต้นและท่างทางนั้นเป็นเหมือนการสื่อสารและยังทำให้ตัวเมียแยกแยะตัวผู้ที่มันควรเลือกไปในตัว ท่าทางของเจ้าหนุ่มนั่นก็เก่งกาจไม่เบา มันเริ่มก้มหัวเพื่องัดท่าเต้นใหม่ หัวของมันส่ายไปด้านข้างเหมือนลูกตุ้มนาฬิกาเพื่อแสดงสีสันอันงดงาม
เมื่อตัวผู้หยุดเต้น ไดโลโฟซอรัสตัวเมียเดินเข้าไปหาและเริ่มซอกไซ้ไปตามคอของเจ้าหนุ่ม พวกมันเริ่มคลอเคลียเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของทั้งคู่ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกสถานที่ในทุกยุคที่คุณไปจะต้องเจอการฆ่าฟันเสมอไป การเรียนรู้พฤติกรรมสัตว์นั้น คุณสามารถเรียนรู้ได้จากการผสมพันธุ์ และการดูแลลูกรวมถึงระบบสังคมที่พวกมันมีเช่นกัน ถือว่าวันนี้เป็นวันอันแสนสบายไปสักหนึ่งวันก็แล้วกันนะ
เดินทางไปอีก 30 ล้านปีข้างหน้า เทอโรพอดกินเนื้อวิวัฒนาการเป็นยักษ์ใหญ่ทรงพลัง เช่นเดียวกับพวกกินพืชที่เติบโตจนตัวใหญ่ และพวกมันกลายเป็นสัตว์บกและยักษ์ใหญ่ที่น่าทึ่ง พวกมันมีอาวุธอันทรงพลัง และไปร่วมหาคำตอบว่า แอ่งน้ำช่วงฤดูแล้งแห่งมอรริสันนั้นเกิดโศกฆนาตกรรมอะไรขึ้นที่นั้น จะมีอะไรรอเราอยู่กันแน่?! โปรดติดตามใน ท่องโลกดึกดำบรรพ์
อ้างอิงจาก: https://www.sciencedirect.com/topics/earth-and-planetary-sciences/early-jurassic
https://www.nhm.ac.uk/discover/dino-directory/timeline/early-jurassic/gallery.html
https://www.nationalgeographic.com/science/article/jurassic-park-got-almost-everything-wrong-about-iconic-dinosaur-dilophosaurus