ว่านหางจระเข้: พืชทะเลทรายมากคุณประโยชน์
คุณเคยต้องพบปัญหาอันแสนเจ็บปวดหรือไม่ยามที่คุณถูกน้ำร้อนลวก ถูกหม้อหรือเตารีดดาดจนบาดเจ็บ จะมีพืชชนิดหนึ่งที่ได้นำมาใช้ มันมีวุ้นในใบสีเขียวทรงประหลาด แถมยังเขียวชะอุมดูแปลกตา นั่น คือว่านหางจระเข้นั่นเอง
ต้นกำเนิด
ว่านหางจระเข้ (Aloe Barbardoesensis) เป็นพืชพื้นเมืองของทะเลทรายซาฮาร่า และแถบคาบสมุทรอาหรับรวมถึงจะงอยแหลมของแอฟริกา เป็นไม้อวบน้ำในสกุล Aloe ที่พบแพร่หลาย นิยมปลูกเป็นพืชสวยงามและพืชเศษฐกิจในหลายๆ ส่วนของโลก มีลักษณะเป็นไม้ล้มลุกขนาดใหญ่ที่มีใบแผ่กว้าง ขอบใบมีหนามเล็กๆ ใช้ป้องกันตัว ในใบมีเซลล์พิเศษใช้ในการกักเก็บน้ำ โดยชื่อ Aloe แผลงมาจากคำว่า Allal ในภาษาฮิบรู ว่ากันว่า โมเสสครั้นถูกเนรเทศจากอียิปต์ ก็ประทังชีวิตด้วยว่านหางจระเข้
ระยะเวลาการปลูก
ว่านหางจระเข้มีอายุยืนยาวได้หลายปี ขนาดที่สามารถพร้อมเก็บเกี่ยวจะมีอายุเมื่อหนึ่งปี โดยสามารถเก็บใบเพื่อนำวุ้นในส่วนเนื้อไปขายได้ ระยะเวลาการงอกจากเมล็ดนั้นใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
ชนิดของดิน
เนื่องจากมาจากพื้นที่แห้งแล้ง ว่านหางจระเข้ควรปลูกในดินร่วนปนทรายหรือดินทรายที่ระบายน้ำได้ดี สามารถผสมดินก้ามปู 1 ส่วน ต่อดินทราย 1 ส่วน แกลบเปลือกข้าว 1 ส่วนลงไปได้ หากปลูกในกระถาง วัสดุระบายน้ำที่ดีควรใช้เป็นถ่านทุบละเอียดหรือกาบมะพร้าวก็ได้เช่นกัน คุณสามารถตัดแผ่นตาข่ายเพื่อรองก้นกระถางที่เจาะรูเพื่อช่วยในเรื่องของการระบายน้ำได้ด้วยเช่นกัน
การขยายพันธุ์
ว่านหางจระเข้ สามารถขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อเป็นต้นเล็กๆ ผ่านไหลที่อยู่ใต้ดินจากต้นแม่พันธุ์ และขยายพันธุ์ด้วยฝักในเมล็ดที่งอกมาจากช่อดอกได้ เมื่อถึงช่วงมีนาคม-พฤษาคม จะแตกช่อดอกออกมา มักมีผึ้ง ตัวต่อ ผีเสื้อ หรือด้วงทำหน้าที่ผสมเกสร แต่ก็สามารถใช้พู่กันแต้มเอาเกสรเพศผู้ไปใช้กับเกสรเพศเมียของดอกอื่นๆ ได้ ดังนี้
1. กรีดดอกออกจะเห็นว่ามีแท่งเหนียวๆ ยาวๆ นั่นคืออับเรณูของเกสรเพศเมีย ให้ตัดเอาแท่งที่มีละอองสีเหลืองหรือใช้พู่กันป้ายจนติดผงละอองเกสรมา
2. นำพู่กันหรือก้านดอกไปป้ายที่อับเรณูของเกสรเพศเมีย
3. หากผสมสำเร็จ ก้านดอกจะไม่เหี่ยวและจะรู้ผลภายใน 1-3 วัน
สำหรับการแตกหน่อ ก็ทำได้ดังนี้
1. ขุดลงไปในดิน จะพบไหลที่มีราก หน่อที่ควรตัดออกมาควรจะมีลักษณะที่ดี ใบยาวอวบอิ่ม ไม่มีรอยเจาะของแมลง
2. ใช้มีดที่สะอาดตัดไหลของต้นอ่อนออกมาให้ห่างจากต้นแม่มากที่สุด ระวังการตัดระบบราก
3. นำออกมาผึ่งให้แผลแห้งประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงย้ายลงพื้นที่เพาะปลูก
ศัตรูพืช
โดยมาก ว่านหางจระเข้ไม่มีศัตรูพืช ส่วนมากมักมาในรูปแบบของแมลงจำพวกด้วงดิน ให้ใส่ปูนขาวหรือยากำจัดศัตรูพืชในดินตามอัตราส่วนที่เหมาะสม ควรหมั่นถอนวัชพืชที่งอกขึ้นในกระถางหรือแปลงปลูกด้วย อย่างไรก็ตาม ว่านหางจระเข้มักอ่อนแอต่อเชื้อราและน้ำใต้ดินที่มีมากเกินไป ควรจะหมั่นคอยตรวจสอบและปรับดินให้แห้งระบายอย่างดี ต้นที่ได้รับผลกระทบจากความชื้น ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง นิ่มมากไปจนสามารถจิ้มแล้วเละเทะ
ว่านหางจระเข้นั้นมีการใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ซ้ำยังมีคุณประโยชน์มากมาย สารเอนไซม์ในวุ้นในใบอย่าง Bradykinase เป็นยาเย็นถอนพิษร้อน ประคบและสมานแผลจากการถูกความร้อนลวก และยังมีประโยชน์ในแง่ของอาหาร เพราะเป็นวัตถุดิบแคลอรี่ต่ำเหมาะกับการลดน้ำหนัก และยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางและสารหล่อลื่นเช่นกัน เพราะฉะนั้น เรามาปลูกพืชแสนวิเศษชนิดนี้กันเยอะๆ เลยนะ