หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แอบรักลุงข้างบ้าน ตอน4

โพสท์โดย wvalai

ตอนที่ 4

เสน่ห์ปลายจวัก

 

มือน้อยยื่นตักหมูหวานจากปิ่นโตสีชมพูของตนใส่ในจานข้าว และก็ตักใส่อีกเมื่อผู้อาวุโสไม่ยอมกินมันโดยเขี่ยไปไว้ข้างจานแทน และในครั้งที่สามเมื่อเธอตักใส่อีกครั้งเขาถึงกับต้องเอ่ยครางเสียงยานออกมา

        “คุณหนู...”

        “คุณลุงฟันไม่ดีหรือคะ?”

        คนตัวเล็กทำตาซื่อใสไร้เดียงสา น่าหยิกแก้มให้โย้เล่นเลยจริงเชียว แต่ก็ทำไม่ได้ ชายสูงวัยจึงได้แต่ทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอแล้วตักหมูหวานเคี้ยวเข้าปากไป พลางชำเลืองมองคุณหนูตัวร้ายที่ยกยิ้มอย่างพอใจพร้อมตักกับข้าวใส่ปากตน

 

        “หนูเก็บเองค่ะ”

        “ไม่ต้องค่ะ หนูทำเอง”

        “ให้หนูช่วยนะคะ”

        “มา หนูจะทำ”

        คุณลุง...คุณลุง...คุณลุง โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย เขาร้องเสียงดังอยู่ในหัวเมื่อรุ้งขวัญติดแจ วนเวียนไม่ห่างตัวชวนปวดหัวยิ่งนัก

        “คุณหนูครับ ไหนบอกจะเอายูทูบยูแทบอะไรนั่นมาให้ดูไม่ใช่หรือ ไหนล่ะ?”

        “จริงสิคะหนูลืมไป งั้นคุณลุงรอเดี๋ยวนะคะ หนูวิ่งไปเอาโทรศัพท์แป๊บเดียว”

        ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดหายไปทางหลังบ้าน ชายสูงวัยเดินตามไปหลบที่ศาลาท่าน้ำแล้วแกล้งนอนหลับเพื่อหนีการกวนอกกวนใจจากรุ้งขวัญ

        เขาผล็อยหลับไปจริง ๆ ตื่นมาอีกทีก็เห็นเธอกระโดดเล่นตั้งเตอยู่ไม่ไกลอย่างสนุกสนาน คิดในใจว่าทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงชอบมาติดเขานัก จะว่าเป็นเด็กขาดความรักจากพ่อแม่จึงโหยหาความอบอุ่นจากผู้ใหญ่กว่า แล้วทำไมไม่ใช่ยายนวลซึ่งมีสายเลือดเดียวกัน กลับเป็นคนแปลกหน้าเช่นเขาไปได้ หรือเพราะการมีเศษเสี้ยวชีวิตที่ไม่สมบูรณ์เหมือนกัน ก็เลยเกิดเป็นแรงดึงดูดให้เข้าหาโดยไม่รู้ตัว

        ชายสูงวัยรำลึกถึงอดีตเมื่อแรกลืมตาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พี่น้องทุกคนต้องแยกย้ายกันอยู่ เขาได้บวชเรียนพออ่านออกเขียนได้ จากนั้นก็สึกออกมาช่วยงานหว่านไถ โตพอจะใช้แรงงานก็ถูกขายให้ไปเป็นเด็กรับใช้อยู่กับคณะรำวงเร่ร่อน ไปมาไม่มีหลักแหล่ง กินกับเขา นอนกับเขา ทำงานให้เขา แต่ไม่ได้เงินใช้แม้แต่สตางค์แดงเดียวเพราะถือว่าให้พ่อแม่ไปหมดแล้ว

        ยามหนาวไม่มีคนให้กอด ยามร้อนไม่มีคนพัดวีให้ ป่วยไข้ไม่สบายก็รักษาตัวเองตามยถากรรม

        เขาเปรียบตัวเองในตอนนั้นว่าไม่ต่างจากลูกหมา พอคลอดออกมาก็เติบโตหากินเองตามมีตามเกิด ไม่เหมือนลูกมนุษย์ที่มีคนคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ จับใส่เครื่องแต่งกาย จูงมือไปส่งยังโรงเรียน ถึงจะพบกับปัญหาก็มีคนช่วยแบ่งเบาภาระและความทุกข์ใจ

        การที่ต้องเติบโตผ่านชีวิตมาอย่างนั้นทำให้หัวใจของเขาค่อนข้างแห้งแล้งเป็นธรรมดา เลยไม่ชอบคุณหนูรุ้งขวัญในตอนแรกนัก เพราะคิดว่าเธอมีชีวิตที่สุขสบายไม่ต้องพบเจอกับความลำบากยากจนเช่นเขา แต่เมื่อได้รู้ว่าเธอเองก็มีบาดแผลบอบช้ำจากคนในครอบครัวเหมือนกันจึงพลอยเกิดความเห็นอกเห็นขึ้นมาบ้าง

        เสียงฝีเท้าตึกตักวิ่งมาหา เขาจึงแกล้งหลับต่อ ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาอย่างเบื่อหน่ายแล้วก็วิ่งกลับไปเล่นคนเดียวอีก ชายสูงวัยนอนหลับตาพริ้ม ยิ้มบางออกมาอย่างพอใจที่ใช้ไม้นี้หลบหนีสำเร็จ พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอก็กลับไปแล้วและไม่หวนมาช่วยรดน้ำผักในตอนเย็นเพราะได้สร้างวีรกรรมแสบซ่าเอาไว้ให้จนเขาต้องแอบคาดโทษไว้ในใจ

 

“คุณลุงดูสิคะสวยไหม?

ชูแก้วน้ำดื่มเซรามิคที่ได้จากการไปเดินตลาดกับคุณยายเมื่อเช้ามาให้ดู

        “อันนี้ของคุณลุงนะคะสีแดง ส่วนสีน้ำเงินนี้ของหนู ให้ใช้กระบวยตักใส่แก้วอีกทีนึง ห้ามดื่มจากกระบวยและห้ามใช้แก้วมุดเข้าไปตักน้ำโดยตรงนะคะ...แล้วหม้อนี้ได้ล้างบ้างหรือเปล่า? มีตะไคร่เต็มไปหมดเลย ทานได้ยังไงกัน.....คุณลุงช่วยยกหม้อเทน้ำให้หนูหน่อยหนูจะขัดและล้างข้างใน”

        คิดว่าพอเจอหน้าจะเล่นงานเจ้าตัวแสบเสียหน่อยที่แอบเอาใบไม้มาโปรยบนตัวเขาเมื่อวาน แต่พอมาถึง คุณเธอก็พูดจาไม่หยุดปากปานนกแก้วนกขุนทอง

        “แล้วนี่คุณลุงเอาน้ำที่ไหนมาดื่มคะ?”

        “น้ำฝน” ตอบเสียงห้วนอย่างเคือง ๆ

        “ห๊ะ! อะไรนะ! นี่ฉันกินน้ำฝนหรือเนี่ยจะบ้าตาย ดื่มเข้าไปได้ยังไงมันสกปรก น้ำฝนสมัยนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนนะคะ อากาศมีแต่มลภาวะ เห็นใส ๆ แต่สารพิษเพียบเลย มิน่าล่ะถึงว่ารสชาติปะแล่ม ๆ นี่คุณลุงดื่มมากี่ปีแล้ว รู้ไหมคะว่าถ้ามันไปสะสมในร่างกายนานเข้าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคร้ายตามมา ทำไมถึงไม่หาน้ำสะอาด ๆ มาดื่ม ไปกดตู้หน้าปากซอยมาก็ได้”

        “ก็นี่แหละตู้หน้าปากซอยล่ะ”

        “อ่าว...หรือคะ? ก็เมื่อกี้ลุงบอกน้ำฝนน่ะ”

        “พูดมากปากแจ๋ว สมเป็นหลานยายนวลจริง ๆ”

        คนถูกว่าทำปากยื่นสะบัดหน้าพรืด ตั้งหน้าตั้งตาขัดหม้อน้ำต่อจนเสร็จจึงเรียกเขาให้ช่วยยกไปตั้งไว้ที่เดิม

        “นี่ถ้าใส่ใบเตยไปด้วยคงจะหอมดีนะคะ ที่บ้านหนูมีสารพัดน้ำให้ดื่ม ทั้งน้ำใบเตย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำอัญชัน น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย คุณยายท่านชอบน่ะค่ะ ป้าอรเลยทำแช่ในตู้เย็นไว้ให้ไม่เคยขาด”

        “มีอยู่นะ จะใส่หรือ”

        “ใส่ค่ะ อยู่ไหนคะ?”

        ชายสูงวัยเดินนำหน้าไปยังท้ายสวนบริเวณศาลาท่าน้ำ รุ้งขวัญหันรีหันขวางมองหากอใบเตย

        “ไหนคะ? ไม่เห็นมีเลย”

        “นู่น! เห็นหรือยัง”

        เขาชี้มือไปยังฝั่งตรงข้ามแล้วหย่อนตัวลงไปในลำห้วย เห็นอย่างนั้นเธอจึงรับทักท้วงขึ้นมา

        “คุณลุงน้ำไม่สกปรกหรือคะ?”

        “สีมันเป็นอย่างนี้เองแหละ จากซากใบไม้ทับถมกัน ถ้ามันอันตรายจริงสัตว์น้ำคงอยู่ไม่ได้”

        รุ้งขวัญเชื่อคำพูด นั่งลงจับขอบเสาไว้ ทำท่าจะหย่อนขาลงไปแช่น้ำเล่นบ้างแต่ต้องร้องอุทานเสียงหลงเมื่อถูกแกล้งให้ตกใจเล่น

        “ระวัง! งู”

        “ว๊าย! งู งู งูกัดขา ว๊าย”

        “ฮะ ฮะ ฮะ”

        “คุณลุงอะ”

        สาวน้อยค้อนปะหลับปะเหลือกให้เมื่อถูกแกล้ง และมิตรต่างวัยก็เอาแต่หัวเราะชอบใจกับอาการสะดุ้งผวาของเธอ แถมยังส่งสายตายั่วล้อให้จากปกติที่ไม่เคยได้เห็นเพราะมักจะตีหน้าขรึมดุใส่

        “เอ้า! รับไป จะเอาไปทำอะไรก็ทำ”

 

รวนพริกแกงเขียวหวานกับเนื้อไก่ ใส่กะทิ เติมน้ำ พอเดือดใส่มะเขือเปราะที่หั่นแล้วลงไป ปรุงรส ก่อนปิดเตาก็หย่อนใบโหระพาลงไปเป็นอันเสร็จ

        “เป็นไงบ้างคะ ป้าอรผ่านไหม?”

        “อร่อยค่ะคุณหนู ใช้ได้แล้ว”

        รุ้งขวัญยิ้มแป้นหยิบปิ่นโตสองเถาสีชมพูลายการ์ตูนออกมา

        “หนูแบ่งไปให้ลุงเขาบ้างนะคะ”

        “วันนี้คุณหนูก็จะไปเที่ยวเล่นที่นั่นถึงเย็นอีกหรือคะเนี่ย?”

        “คงจะอย่างนั้นค่ะ เมื่อวานลองทำกองปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกองที่ดูจากยูทูบด้วยกันยังไม่เสร็จเลย วันนี้คงจะทำต่อ”

        “คุณหนูนี่ก็แปลก อยู่บ้านสบายดี ๆ ไม่ชอบ หาแต่เรื่องเหน็ดเหนื่อยไม่เข้าใจจริ๊ง ๆ”

        “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะป้าอร สนุกดี ได้ออกกำลังกายด้วย มีอะไรให้เล่นให้ทำเยอะแยะ อยู่ที่นี่ป้าอรก็ไม่ให้หนูหยิบจับอะไร ไปช่วยลุงเขาหนูก็ได้ผักกลับมาทำกับข้าวนี่ไงจะได้ไม่ต้องไปซื้อหา...ประหยัด”

        “โถ คุณหนู ถึงไม่ช่วยตานั่นก็เอามาฝากยายนวลอยู่ไม่ขาดแหละค่ะ”

        “อย่างนั้นหรือคะ”

        “ก็เขามาขอต่อไฟจากบ้านเราไง แต่ยายนวลไม่เคยเก็บก็เลยเอาผักมาตอบแทน”   

        “ก็สมควรที่ยายจะไม่เก็บ เพราะคงไม่รู้ว่าจะเก็บเท่าไหร่ ที่นั่นไม่เห็นมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรเลย ถึงจะมีหลอดไฟใช้แต่ก็ยังเห็นจุดตะเกียงอยู่”

        “ขนาดนั้นเลยหรือคะ”

        “ขนาดนั้นเลยค่ะ แล้วป้าอรรู้ไหมคะว่าลุงเขาชื่ออะไร หนูเรียกแต่คุณลุงอย่างเดียวยังไม่รู้จักชื่อที่แท้จริงของเขาเลย”

        “อีตานั่นหรือ เอ...นังลุนเรียกว่าอะไรน้า?”

        “ลุนไหนคะ?”

        “เจ้าของแผงเช่าขายผักในตลาดที่ตานี่เอาไปส่งให้ประจำน่ะ ชื่อ...ชื่อ ‘หนู’ ตานั่นเค้าชื่อหนู”

        “อ๋อ! ลุงหนู”

        “โชคดีนะคะเนี่ย ที่เขามาอยู่ที่นี่ก่อนคุณหนูจะกลับมา ไม่งั้นคงห่วงน่าดูอยู่กันสองคนยายหลาน”

        “ทำไมคะ?” เธอถามอย่างสงสัย

        “ก็ที่นี่เป็นซอยตัน ค่อนข้างเปลี่ยว คนก็ไม่ค่อยมี ที่รกทึบข้าง ๆ มักมีพวกขี้ยาชอบมาเล่นยาและนัดส่งของกันประจำ”        

        “จริงหรือคะ? น่ากลัวจังเลย” ทำหน้าตาตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

        “นั่นแหละค่ะ ป้าก็หวั่นใจอยู่บ่อย ๆ กลัวว่าพวกมันจะเมายาแล้วมาปีนรั้วขโมยข้าวของทำมิดีมิร้ายคนในบ้าน เห็นข่าวฆาตรกรรมคนแก่ที่อาศัยอยู่คนเดียวแล้วก็อดเป็นห่วงยายนวลไม่ได้...บางทีนะคะคุณหนู”

        พูดเสียงกระซิบเบาลง นิ่งเงียบทำท่าว่าควรจะพูดออกไปดีไหม ทำให้รุ้งขวัญเขย่าแขนคะยั้นคะยอด้วยความอยากรู้

        “ทำไมคะป้าอร?”

        “เฮ่อ! บางทีก็มีมาเอากันด้วยค่ะ เมาแล้วมั่วกันเองมั่ง เอาตัวเข้าแลกยาเพื่อเสพมั่ง ไม่ก็วัยรุ่นแถวนี้ที่ไม่มีปัญญาไปเช่าโรงแรมก็แอบมาเอากันที่นี่”

        “ฮึ้ย!” สาวน้อยตกใจตาโตเกือบเท่าไข่ห่าน เมื่อได้ทราบถึงประวัติไม่ดีของสถานที่ใกล้ตัว

        “ที่เปลี่ยวลับตาคนก็อย่างนี้แหละค่ะ ถ้าตำรวจมาพวกมันก็พากันกระโจนหนีข้ามฝั่งไปตรงข้าม จับไม่ได้ซักที แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะ คุณหนูไม่ต้องกลัว ป้าไม่เห็นไอ้พวกนี้มันนานแล้วตั้งแต่ตานี่เข้ามาอยู่”

        “เพราะอย่างนี้นี่เอง เป็นเหตุผลที่ยายไม่ค่อยอยู่ติดบ้านชอบไปโต้รุ่งค้างคืนที่อื่นบ่อย ๆ”

        เธอสรุปความเอาเองว่าที่ยายไม่ชอบอยู่บ้านเพราะอยู่คนเดียวมันเปลี่ยว แต่กลับโดนแย้งจากคนที่รู้ไส้รู้พุงกันดี แม่บ้านวัยกลางคนหันซ้ายหันขวาป้องปากพูดเสียงเบาทั้งที่หญิงชราก็ไม่ได้อยู่

        “อันนั้นเขาเรียกว่านิสัยค่ะคุณหนู ฮิ ฮิ”

 

ชายที่ชื่อว่าลุงหนู ตักแกงเขียวหวานไก่ใส่ปาก พร้อมชำเลืองมองคนตัวเล็กที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้พรางทำตาอย่างคาดหวัง

        “เป็นอย่างไรบ้างคะ?”

        เขาไม่ตอบคำถาม เคี้ยวไปเงียบ ๆ พอตักคำที่สองเข้าปาก

        “อร่อยไหม?”

        และคำที่สาม

        “หนูทำเอง”

        คนถูกถามพยักหน้า เกรงว่าหากไม่ตอบ คำถามที่สี่จะตามมาพร้อมกับใบหน้าใสที่ยื่นเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แต่รุ้งขวัญยังทำท่าคล้ายไม่ค่อยพอใจอยู่ดี เขาจึงจำต้องเอ่ยปากชมให้กำลังใจมากกว่านั้นอีก

        “ใช้ได้อยู่ ดีกว่าซื้อจากตลาด”

        เธอฉีกยิ้มกว้างรับคำชม

        “ที่จริงแล้วหนูถนัดผัดมากกว่าค่ะ อันนี้หนูให้ป้าอรช่วยสอนให้...พรุ่งนี้เราลองทำผัดผักบ้างนะคะ”

        “ตามใจสิ”

 

รุ้งขวัญเก็บผักบุ้งและพริกมาจากในแปลง ล้างผัก แกะกระเทียม เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำผัดผักบุ้งไฟแดง หยิบกระทะ มองหาน้ำมันพืช แล้วต้องส่งเสียงเรียกหาเจ้าของบ้านเป็นการด่วน

        “คุณลุงคะ ไม่มีเตาแก๊สหรือ? แล้วหนูจะผัดผักยังไง”

        ชายสูงวัยเข้ามาหยิบไฟแช็ก ใช้เศษไม้ก่อไฟ ยัดฟืนเข้าไปในเตาอั้งโล่แล้วถอยออกมาให้คุณหนูแสดงฝีมือเสน่ห์ปลายจวัก ชั่วครู่เธอก็ทำหน้าบูดถือจานผัดผักบุ้งมาวางบนแคร่อย่างไม่สบอารมณ์

        เขามองดูผัดผักมันเยิ้มสลับมองหน้าแม่ครัวที่มีเขม่าดำติดอยู่ปลายจมูกทั้งแก้มและหน้าผาก

        “ไม่ใช่ความผิดหนูนะคะ ก็เพราะเตาของลุงต่างหาก ไฟไม่แรงพอ เดี๋ยวก็ลุกเดี๋ยวก็ดับ ปรับอะไรไม่ได้เลย แถมที่นี่ยังไม่มีซอสเต้าเจี้ยวอีก” 

        หญิงสาวแสดงอารมณ์หงุดหงิดที่มันไม่เป็นดั่งใจ กะว่าจะอวดฝีมือเสียหน่อย เขาจึงลุกเดินเข้าไปหน้าเตา ทำอะไรบางอย่างชั่วครู่ก็กลับออกมาพร้อมไข่เจียวหอมฉุยกับจานข้าวสองใบ ตักไข่ใส่จานให้เธอแล้วตักผัดผักบุ้งใส่จานให้ตัวเองกินไปไม่พูดอะไรซักคำ

        สรุปแล้วที่คิดว่าจะต้องเททิ้ง ลุงหนูกลับไม่ทำให้ความตั้งใจของเธอเสียเปล่า หญิงสาวจึงได้รู้ว่าที่จริงแล้วคุณลุงคนนี้ก็เป็นคนจิตใจดีโอบอ้อมอารีเหมือนกัน แถมยังใจเย็นเป็นที่สุด แม้จะชอบทำหน้าขรึมดุใส่และพูดจาห้วนเสียงแข็งอยู่เป็นประจำ 

 

        “จะมืดแล้วยังไม่กลับอีกหรือ?”

        “ไม่ค่ะ ยังไม่อยากกลับ”

        “มาเที่ยวเล่นทั้งวันยายนวลไม่ว่ารึไง?”

        “ไม่ค่ะ ยายไม่ว่าอะไร”

        “ไม่รู้จักอยู่บ้านอยู่ช่อง ปล่อยให้คนแก่นั่งเหงาอยู่บ้านคนเดียว” ลุงหนูทำเป็นตำหนิบ่นใส่คนตัวเล็ก แต่ไม่จริงจังเท่าไหร่นัก

        “ยายไม่เหงาหรอกค่ะ วันนี้มีเพื่อนมาเล่นที่บ้านเยอะ” เธอยังต่อปากต่อคำไม่ขาด 

        “อ้อ! ตั้งวงกันอีกล่ะสิ”           

        “คุณลุงรู้ด้วยหรือคะ?”

        “ทำไมจะไม่รู้ ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้น กิตติศัพท์วัยรุ่นแย้มฝาโลงแก๊งนี้”

        “คุณยายบอกว่าคุณยายทำงานค่ะ ต้องทำมาหาเงินเลี้ยงดูขวัญและส่งเสียเรียนหนังสือ”

        ฮึ! ลอยหน้าลอยตาเถียงแทนยายจนนึกอยากจะฟาดก้นสักทีสองทีจริงเชียว

        “พอกันทั้งยายทั้งหลาน ดื้อด้าน หัวแข็ง ขี้เถียง ฉอดเก่งเหลือเกิน กลับไปได้แล้วไป”

        ออกปากไล่อีกครั้งอย่างอ่อนใจ แต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งทำหูทวนลมชวนคุยอย่างอื่นขึ้นมาแทน

        “ทำไมคุณลุงไม่เปิดไฟคะ ไม่กลัวผีหรือ?”

        “เอาผีที่ไหนมา?”

        “ก็ผีมันชอบออกมากับความมืดตอนกลางคืนไม่ใช่หรือคะ อยู่ใกล้ห้วยอย่างนี้เดี๋ยวมันจะโผล่จากน้ำขึ้นมาหา”

        ผู้อาวุโสมองหน้าคนตัวเล็กที่อยู่ในความสลัวรางพลางถอนหายใจ เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องเล่าขานตำนานเกี่ยวกับผีมาเยอะแยะตั้งแต่เด็กจนโต แต่ยังไม่เคยพบเคยเจอกับตัวเองจริง ๆ เลยสักครั้ง เพราะเคยเจอสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นมาแล้ว ผีหลอกคนก็แค่ทำให้ตกใจเล่น แต่คนหลอกคนนี่สิ สุดแสนจะเจ็บปวดชอกช้ำในทรวงเหลือคณานับ

        “กลับไปได้แล้วล่ะคุณหนู พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่เถอะ" เสียงอ่อนลงคล้ายจะแสดงให้รู้ถึงความเหนื่อยอ่อนอย่างต้องการการพักผ่อนเต็มที

        “พรุ่งนี้มหาลัยเปิดแล้วค่ะ”

        “ก็ดีสิ! มีหน้าที่เรียนก็ตั้งใจเรียนไปเถอะ อย่าเอาแต่เที่ยวเล่น คิดถึงคนที่เขาอยากเรียนแต่ไม่มีโอกาสได้เรียนบ้าง” เขาพูดแทนใจตัวเอง

        “คุณลุงจบชั้นอะไรหรือคะ?”

        ถามด้วยความอยากรู้ แต่ชายสูงวัยคงอยากพักผ่อนแล้วจริง ๆ จึงบ่ายเบี่ยงไม่อยากคุยต่อ

        “คุณหนูครับ ลุงง่วงแล้ว”

        บอกเสียงยาน แต่เธออยากแย้งต่อว่าเพิ่งหัวค่ำอยู่เลย แต่ด้วยความเกรงใจจึงลุกขึ้นยืนอย่างเสียไม่ได้บิดไม้บิดมือไปมา

        “คุณลุงไปส่งหนูหน่อยสิคะ มันมืด”

        “ทำไมไม่เข้าประตูหน้าล่ะครับ”

        “ไม่เอาอะ”

       

เด็กน้อยทำท่าดื้อดึงเอาแต่ใจ ขืนต่อความยาวออกไปคุณหนูตัวร้ายคงไม่ยอมกลับบ้านง่าย ๆ แน่ เขาจึงจำต้องลุกขึ้นยืนจุดตะเกียงส่องนำทางไปส่งให้ถึงที่

เนื้อหาโดย: wvalai
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
wvalai's profile


โพสท์โดย: wvalai
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ดาราจีนแชร์เทคนิค ผอมลง 15 โลใน 1 เดือน เพื่อรับบทบาทในละครอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"เปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดานางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูง😊 ชวนเข้ามาดูสิ่งประดิษฐ์น่ารักๆ ที่เห็นแล้วน่าใช้จริงๆ จนอยากมีเอาไว้สักชิ้น ☺วันนี้เป็นต้นไป ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นสะพานข้ามแยก 24 แห่งช็อกกลางงาน! ทหารโสมเหนือปฏิเสธจับมือ "คิมจองอึน" ผู้นำยืนเก้อ"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอมฟอร์ดวางแผนลดพนักงาน 4,000 ตำแหน่งทนายเดชา ท้า สนธิ รอของขวัญอยู่ขนม-ครูเต้ย ประกาศลดสถานะ ยืนยันไม่เกี่ยวกับมือที่ 3 ย้ำยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีให้ลูกเสมอ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ทนายเดชา ท้า สนธิ รอของขวัญอยู่รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธเทพใส่ยูเครนแล้วปริศนาในภาพเขียน Salvator Mundi โดย Leonardo da Vinci5x4 เทคนิคเลือกกุ้งสด + เคล็ดลับทำกุ้งเด้งกรอบง่ายๆดื่มด่ำธรรมชาติงามที่ "น้ำตกดูเดน" แห่งอันตัลยา ประเทศตุรกี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ผีป่าอาถรรพ์:"ผีป่าทมิฬ"ล่าแม่มดทริบูร์: ความกลัวที่ทำให้ชีวิตกลายเป็นเพียงเงาในประวัติศาสตร์"นิยายวาย : เดิมพันรักนักพนันแจ็คเดอะริปเปอร์: ฆาตกรที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์
ตั้งกระทู้ใหม่