หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แอบรักลุงข้างบ้าน

เนื้อหาโดย wvalai

ตอนที่ 1 ขาดความอบอุ่น

 

“ในเมื่อไม่มีใครต้องการหนู ไม่อยู่แล้วก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องขวางหูขวางตาใครต่อใคร”

          สาวน้อยวัยสิบแปดปีวิ่งร้องไห้เข้าไปในห้อง เมื่อผู้เป็นแม่เลี้ยงใส่ความว่าตนเอาแต่เที่ยวเล่นไม่ช่วยงาน   วิรดากับรุจิราพี่สาวต่างแม่

พ่อของเธอจะไปรู้อะไร ว่าลูกสาวอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ต่างจากซินเดอเรลลา ถูกโขกสับกลั่นแกล้งสารพัด ต่อหน้าทำเป็นดี รักใคร่หวานชื่น

ลูกขวัญ อย่างนั้นลูกขวัญอย่างนี้ น้องรุ้งอย่างนั้น น้องรุ้งอย่างนี้ แต่พอลับหลังเท่านั้นกลับถูกใช้งานเยี่ยงทาสในเรือนเบี้ย

รุ้งขวัญจึงเกลียดนักเกลียดหนากับละครทีวีน้ำเน่าของประเทศไทย เมื่อไหร่ก็เอาเรื่องเดิมมาสร้างใหม่ฉายวนซ้ำอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จะสนุกอะไรกันนักหนา ชอบใจหรือไงที่เห็นนางเอกอ่อนแอไม่มีทางสู้ ไม่มีปัญญาทำอะไรเอาแต่ร้องห่มร้องไห้เรียกน้ำตาจากพระเอก

     

          กระเป๋าเดินทางใบเล็กถูกทุ่มไว้บนเตียง รุ้งขวัญหยิบฉวยข้าวของของตัวเองที่มีอยู่น้อยนิดใส่กระเป๋าอย่างลวก ๆ เสื้อผ้ามีแค่ชุดชั้นในกับชุดนอนเท่านั้นที่เป็นของเธอ นอกนั้นล้วนเป็นของมือสองของรุจิราแทบทั้งสิ้น

เด็กสาวรื้อที่นอนออก แงะฝากระดาน ควานหากระปุกออมสินที่ซ่อนค่าขนมไว้ข้างใต้จากรุจิรา ที่ชอบเข้ามาซอกซอนสอดส่องเรื่องส่วนตัวของเธอไปเสียทุกเรื่อง พอกันที...ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะมาเหยียบที่นี่อีก

           ดำรงชัย พ่อของเธอเรียกแกร็บคาร์เจ้าประจำให้แล้วก็ปลีกตัวไปหลังบ้านทันทีด้วยความโกรธและเสียใจ ปล่อยให้แม่เลี้ยงกับพี่สาวมหาภัยยืนกอดอกเยาะเย้ยอยู่หน้าบ้าน

“ไปดีมาดีนะจ๊ะรุ้งขวัญ” แม่เลี้ยงกล่าวให้พร

“แต่ถ้าจะให้ดีก็ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมาเลย” รุจิราสำทับอย่างหน้าระรื่น

สาวน้อยเชิดคอสะบัดหน้าใส่ ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปเฉียดคนทั้งสอง

“โอ๊ย! นังนี่หนิ”

พี่สาวคนละแม่ร้องลั่นเมื่อล้อลากบดเข้ากับเท้างามของหล่อน

“เมื่อหนูไม่อยู่แล้ว ก็ขอให้มีความสุขกันทั้งแม่ทั้งลูกนะคะ” รุ้งขวัญเปิดประตูรถด้านหลังหันมากล่าวลาก่อนไป

“แน่นอน” วิรดาตอบ

สาวน้อยยิ้มเยาะ ทีนี้พ่อจะได้รู้เสียทีว่าการไม่มีเธออยู่มันเป็นยังไง

วิรดาเป็นคนเกียจคร้านงานบ้านไม่ทำ รุจิราก็ไม่ต่างจากแม่ แม้แต่ชุดชั้นตัวเองยังไม่ซักเลย เวลาหญิงสาวหายไปสองแม่ลูกรู้สึกสบายอกสบายใจแต่ไม่สบายกาย แล้วสักพักแม่เลี้ยงก็จะพูดเสียงอ่อนเสียงหวานให้พ่อตามเธอกลับมาอยู่บ้านอีก

‘คิดถึงลูกขวัญจังเลยค่ะ ทำไมไปอยู่บ้านนั้นนานจังเลยคะ’

‘นั่นสิคะคุณพ่อ หนูก็คิดถึงน้องเหมือนกัน’ รุจิราพูดเมื่อทนทำงานบ้านมาหลายวันแล้วจนมือด้าน

‘ก็คงอยากจะอยู่กับแม่นาน ๆ มั้ง’

‘ไปเยี่ยมเป็นบางครั้งได้แต่อย่าให้อยู่นานเลยค่ะ ลูกขวัญหน้าตาน่ารัก โตเป็นสาวขึ้นทุกวัน’

‘ไม่เป็นไรหรอกมั้ง คุณอย่าคิดมาก ทางนั้นเขาก็มีลูกสาวเหมือนกัน’

‘ลูกสาวเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันค่ะ ยัยขวัญไม่ใช่ลูกจริง ๆ ของเค้าซักหน่อย ไม่เคยเห็นข่าวหรือคะ เดี๋ยวก็ลุงข่มขืนหลาน เดี๋ยวก็ลูกพี่ลูกน้องข่มขืนกัน และยังมีแม่แท้ ๆ ที่รู้เห็นเป็นใจให้พ่อเลี้ยงมีอะไรกับลูกตนอีก เห็นข่าวพวกนี้แล้วฉันสะอิดสะเอียนรับไม่ได้จริง ๆ เลยค่ะ’

‘นภาเขาไม่ใช่คนอย่างนั้น เขารักรุ้งขวัญมาก’

‘ฉันรู้ค่ะว่ายัยนภาไม่ใช่คนอย่างนั้น แต่คนอื่นฉันไม่รู้ด้วยหรอกค่ะ หรือคุณรู้จักคุณประชาเขาดีคะ’

‘เฮ่อ! เอาล่ะ เอาล่ะ เดี๋ยวผมโทรตามให้ก็แล้วกัน’ ดำรงชัยตัดบท มองไม่เห็นสองแม่ลูกที่แอบลอบส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แก่กันและกัน

 

          ดำรงชัยกับนภาตกลงแต่งงานกัน แต่กลับพบว่าทั้งสองมีบางเรื่องที่เข้ากันไม่ได้ ไม่เหมือนกับวิรดาเพื่อนรักเพื่อนสนิทของนภา แล้วเรื่องวุ่นวายของหนึ่งชายสองหญิงก็เกิดขึ้น เมื่อวิรดาดันท้องก่อนนภา ได้ลูกสาวมาเป็นโซ่ทองคล้องใจก่อนเมียตบเมียแต่งเสียอีก

          หลังจากนั้นไม่นานนภาก็ท้องตาม เธอหวังว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกชาย แต่ในเมื่อไม่ใช่ เธอก็รักลูกสาวคนนี้เหมือนกันและรักมากด้วย มากจนกลายเป็นเกลียดชัง
วิรดากับรุจิราเข้าไส้

เจ้าหล่อนขอหย่าขาดจากสามี แต่ดำรงชัยไม่ยอมเซ็นใบหย่าให้ หากภรรยาคิดจะยึดครองบุตรสาวเป็นของตนเพียงคนเดียว ดังนั้น รุ้งขวัญจากเด็กสาวธรรมดาจึงกลายเป็นลูกครึ่งไปโดยปริยาย ครึ่งหนึ่งเป็นลูกของนภา ส่วนอีกครึ่งเป็นลูกของดำรงชัยและต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านสองหลังนี้

ดูเผิน ๆ เหมือนเธอโชคดี มีทั้งพี่สาว น้องสาว และมีบ้านสองหลังให้อยู่อาศัย แต่ใครเลยจะรู้ว่ารุ้งขวัญไม่ได้เป็นสมาชิกของครอบครัวใดเลย

เป็นส่วนเกินของวิรดากับลูกสาว เป็นเนื้องอกของประชาสามีใหม่ของแม่ ไม่มีที่ใดเลยที่รุ้งขวัญจะสามารถเรียกว่าบ้านของเธอได้จริง ๆ

 

ฮอนด้าซิตี้สีเทาวิ่งเข้าไปสุดซอยตันและจอดสนิทตรงหน้าประตูอัลลอยสีน้ำเงินเข้ม เด็กสาวกล่าวขอบคุณคนที่มาส่งแล้วกดออดประตูเรียกหาคนข้างใน

“นังอรไปดูซิใครมา...นังอร!...นังอร! ไปไหนของมันอีก ตกส้วมตายเสียแล้วมั้งอีนี่ บ้านตัวเองไม่รู้จักขี้ชอบมาขี้บ้านคนอื่น”

เจ้าของบ้านยันตัวลุกจากการนอนกลางวันอย่างเกียจคร้าน เดินไปหน้าบ้านเห็นกระเป๋าเดินทางแบบลากวางคู่กับปลายเท้าของใครคนหนึ่งที่ยืนลับเสาประตูอยู่ก็นึกว่าเป็นพนักงานเร่ขายของ กะจะด่าเปิงให้กระเจิดกระเจิงเสียหน่อย

หนอยแน่ เห็นกูเป็นคนแก่คิดจะมาต้มตุ๋นหลอกลวงเดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวจะได้รู้ฤทธิ์คนอย่างอีนวล คนแก่อย่างกูไม่เคยเสียรู้ใครง่าย ๆ หรอก

“ยาย...ยาย ฮือ ๆ”

รุ้งขวัญร้องไห้โผเข้ากอดญาติผู้ใหญ่ทันทีอย่างสุดระงับ น้ำตาไหลออกมาเป็นสายคล้ายเด็กอนุบาลกลัวการไปโรงเรียนวันแรก

“โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร หลานรักของยาย ไปเข้าบ้านกันก่อน”

สาวน้อยเช็ดน้ำตาป้อยลากกระเป๋าเข้าบ้านเดินตามยายที่จับจูง แล้วก็นั่งเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“กูว่าแล้วเชียวอีงูพิษวิรดา ทำกับลูกกูไม่พอมาทำกับหลานกูอีก เสียดายที่เคยให้มันมากินมานอนบ้านนี้ ไม่ต้องกลับไปบ้านหลังนั้นให้มันโขกสับอีกแล้ว อยู่กับยายนี่แหละ หลานคนเดียวยายเลี้ยงได้”

ยายนวลอดีตผู้ดีปลายแถวเจ้าของตลาดและห้องเช่าจากสมบัติเก่าของตระกูลหยิบพัดออกมาพัดอย่างหัวเสีย

“เปิดพัดลมซินังอร กูหัวร้อนเหลือเกิน”

แม่บ้านที่อยู่ด้วยกันมานานลุกไปเปิดพัดลมพร้อมกับเข้าไปรินน้ำเย็นในครัวมาสองแก้ว

“น้ำใบเตยเย็น ๆ กินแล้วชื่นใจค่ะหนูขวัญ”

“ขอบคุณค่ะป้าอร”

“มาอยู่กับคุณยายก็ดีเหมือนกัน ยายนวลจะได้ไม่เหงา มีหลานสาวมาอยู่ด้วยคงรู้จักอยู่ติดบ้านบ้าง”

“อะไรอีนังอร กูไปทำงานของกูหรอก” ตะคอกใส่เสียงฉุน

“ค่ะ ค่ะ ทำงานก็ทำงานค่ะ” ป้าอรรับอย่างรู้ทัน

“งั้นเดี๋ยวป้าขึ้นไปจัดห้องนอนให้ก่อนนะคะ คุณหนูอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกคุณยายแล้วกัน หอบผ้าหอบผ่อนหนีมาแค่นี้เอง”

“ค่ะ”

“ไม่ต้องขนเอาอะไรของมันมาหรอก เดี๋ยวนังนั่นมันจะตามมาทวงอีก ไป...ไปตลาดกับยาย อยากได้อะไรชี้เอาเลย”

“โอ้โห! ยายนวลขี้ตืดคงเหลือแต่ชื่อ คุณหนูเหมามาหมดทั้งร้านเลยนะคะ” สาวใหญ่รุ่นลายครามยุ

“อย่าว่าแต่ทั้งร้านเลย จะเหมามาหมดทั้งตลาดเลยก็ยังได้”

“ไม่ต้องถึงขาดนั้นหรอกค่ะคุณยาย”

สาวน้อยตอบหน้าตาแช่มชื่นเบิกบานคลายความเศร้าใจลงได้บ้าง

“คุณยายคะ หนูยังไม่ได้บอกใครเลยค่ะว่าหนูหลบมาอยู่ที่นี่”

“ไม่ต้องบอกใครทั้งนั้นแหละ ดูซิว่าจะรู้ตัวกันเมื่อไหร่ว่าลูกสาวหายไปทั้งคน”

“แม้แต่กับแม่หรือคะ?”

“ใช่ ปล่อยพวกมันตามหากันเอง”

“จะดีหรือคะ?”

“ดีสิ ลองดูซิว่าพวกมันจะรู้ตัวเมื่อไหร่กัน พนันกับยายไหมล่ะว่าเดือนหนึ่งก็ยังไม่เอะใจกันหรอก”

ยายนวลท้าทายอย่างมีชัย

“หนูไม่มีอะไรพนันกับยายหรอกค่ะ”

“มีสิ” ฉีกยิ้มอย่างมีเลศนัยบางประการ

“อะไรหรือคะ?”

“เปลี่ยนมาใช้นามสกุลยายไง”

 

          สองยายหลานหายไปด้วยกันเกือบเย็นก็นั่งสามล้อถีบคนละคันกลับมาพร้อมข้าวของพะรุงพะรัง ป้าอรที่กำลังเตรียมตัวกลับบ้านจึงพูดหยอกขึ้นมาอีก

“โอ้โห! วันนี้แม่ค้าคงดีใจยิ่งกว่าถูกหวย ยายนวลเล่นเหมามาหมดไม่เผื่อแผ่ลูกค้าคนอื่นเลย”

“อย่าเว่อร์ จะกลับไปรับหลานก็รีบกลับไป”

“ป้ากลับก่อนนะคะคุณหนู พรุ่งนี้มาใหม่ ทำเมี่ยงปลาเผากับบัวลอยไข่หวานไว้ให้แล้ว เผื่อยายหลานอยากฉลองกันสองคน”

“ขอบคุณค่ะป้าอร พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”

รุ้งขวัญยกมือขึ้นทำความเคารพแม่บ้านเจ้าประจำ ไปเช้าเย็นกลับ ที่อยู่ดูแลยายนวลมามากกว่าสิบปีตั้งแต่ทำมาหากินเลี้ยงลูกจนกลายมาเป็นทำมาหากินเลี้ยงหลานตาดำ ๆ ถึงสองคน

“ไป! เข้าบ้านกันหลานรัก”

“ค่ะ คุณยาย”

 

          เช้าวันใหม่

          หลังทานอาหารแล้ว สาวน้อยก็ออกมาเดินเล่นสำรวจรอบบริเวณบ้านที่เคยมาอาศัยอยู่ไม่นานตอนแม่หย่ากับพ่อใหม่ ๆ ก่อนที่นายประชาแฟนเก่าจะเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตและแต่งงานกันภายในครึ่งปีให้หลัง

แปลกที่ตอนนภาอยู่กับดำรงชัยไม่ยักจะท้องเสียที แต่พอมาเจอนายประชาเข้าท้องไวยังกับอะไรดี และก็ได้ลูกสาวสุดน่ารักมาเป็นโซ่ทองคล้องใจอีกหนึ่งคน

ดังนั้นแล้วสามใบเถาเลือดคนละสายอย่าง รุจิรา รุ้งขวัญ และรจนาจึงมีอายุห่างกันเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเอง

“คุณหนูมาแย่งงานป้าอย่างนี้เดี๋ยวยายนวลก็ได้ไล่ป้าออกหรอกค่ะ นู่น! ไปนวดเส้นนวดสายให้คุณยายดีกว่า ทำงานหนักนั่งทั้งวันจนเส้นยึดไปหมดแล้ว”

แม่บ้านและหลานสาวหัวเราะคิกคักกันสองคน เว้นแต่หญิงชราที่นั่งหน้าตึงกับคำล้อเลียน

“ยายขวัญมานวดให้ยายดีกว่า ไม่ต้องไปช่วยมัน เดี๋ยวถูกไล่ออกแล้วจะไม่มีเงินเลี้ยงหลาน”

พูดประชดประชันทำตาขวางใส่เพราะอยู่กันมานานจนกลายเป็นเจ้านาย - ลูกน้องคู่กัดกันแทน

เมื่อหลานสาวคนสวยเอาอกเอาใจยาย โดยการนวดคลายเส้นให้จนหลับใหลขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้วจึงว่างงาน ครั้นจะขึ้นไปนอนดูซีรีส์ข้างบนก็รู้สึกเบื่อ

อยู่ที่นี่สบายนัก แตกต่างจากตอนอยู่กับวิรดาและรุจิรา เดี๋ยวคนแม่ก็เรียก เดี๋ยวคนลูกก็เรียก แต่ถ้าวันไหนที่พ่ออยู่บ้าน วันนั้นมันจะกลายเป็นวันพักผ่อนของเธอไป แล้วแม่เลี้ยงใจร้ายก็ถือโอกาสใส่ความว่าเธอไม่เคยแตะต้องงานบ้าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวคนโปรดอย่างรุจิราเพียงคนเดียว

‘ไม่รู้ว่านภาสอนลูกยังไง ทำตัวแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ เดี๋ยวจะติดเป็นนิสัย โตขึ้นไปทำงานที่ไหนก็ลำบาก วิก็พยายามสอนพยายามบอกอยู่เหมือนกัน เลี้ยงเหมือน
ยายวานั่นแหละค่ะ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี แต่กลัวว่ายัยขวัญจะไม่เข้าใจในความหวังดีเพราะยังเด็ก คิดแต่ว่าวิเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายคอยแต่หาเรื่องกลั่นแกล้ง โธ่! นภาก็เป็นเพื่อนวินะคะ ลูกวิก็เหมือนลูกนภา ลูกนภาก็เหมือนลูกวินั่นแหละค่ะ’

ภรรยาพูดกรอกหูอย่างนั้นและลืมคำสำคัญไปอีกประโยคหนึ่งที่ว่า สามีนภาก็เหมือนสามีวิรดาด้วยเช่นกัน

 

         

แมวน้อยวัยกระทงลายขาวดำ เดินนวยนวดอยู่บนขอบกำแพงปูน ทำให้แววตารุ้งขวัญเปล่งประกายเจิดจ้าดีใจอย่างมากที่จะมีของเล่นแก้เซ็งแล้ว เลยพยายามเข้าไปใกล้เพื่อจะขอผูกมิตรไมตรีด้วย

“เมี๊ยว ๆ เมี๊ยว ๆ”

“เมี๊ยว ๆ เมี๊ยว ๆ มาทางนี้สิจ๊ะ มาทางนี้”

ส่งเสียงเรียกไป พร้อมย่างอย่างช้า ๆ ไม่ให้ตกใจตื่น แต่มันกลับหยุดนิ่งมองจ้องหน้าระวังภัย แล้วกระโดดผลุงหายเข้าไปในซอกกำแพง

“อ้าว! จะรีบไปไหนซะล่ะเจ้าแมวน้อย”

รุ้งขวัญวิ่งตามไปดู พอเข้าไปใกล้เห็นว่า กำแพงหลังบ้านของคุณยายทรุดและแตกร้าวเป็นรูโหว่กว้างขนาดลอดตัวผ่านได้ จึงลองชะโงกหน้าเข้าไป และได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งดังไม่ไกลนัก ตัดสินใจย่อ มุดตัวไปอีกฝั่งซึ่งมีต้นเฟื่องฟ้ารกครึ้มขวางทางจากกิ่งก้านใบ ยากต่อการผ่าน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับเธอแต่อย่างใด

ได้ยินเสียงที่คิดว่าเป็นกระดิ่งจากปลอกคอจึงเดินไปตามทาง พบศาลาท่าน้ำหลังคามุงจากสร้างยื่นล้ำเข้าไปในลำห้วย มีโมบายห้อยอยู่ที่ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงจากปลอกคอแมว เธอนึกชอบใจ เข้าไปนั่งเล่นชมวิวทิวทัศน์ของยอดไม้ใหญ่ที่ไหวตามแรงลมจากฝั่งตรงกันข้าม และมองใบไม้ที่ปลิดปลิวร่วงหล่นอยู่บนผิวน้ำลอยเอื่อยไปตามกระแส เพลิดเพลินอยู่นานจนลืมจุดประสงค์ตอนแรกที่ทำให้โผล่มายังสถานที่แห่งนี้ พอนึกได้ก็ลุกเดินขึ้นเนินไปตามหาเจ้าแมวเหมียวอีกรอบ

“เมี๊ยว ๆ เมี๊ยว ๆ”

ซ่า!!

“ว๊าย! อะไรกันนี่”

สาวน้อยสะดุ้งตกใจเมื่อถูกน้ำในห้วยสาดใส่โครมใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัว ลุกขึ้นยืนเหนือต้นกะเพราด้วยตัวเปียกมะลอกมะแล่ก เห็นคนแปลกหน้ายืนทำหน้าตาตกใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยแล้วเปล่งน้ำเสียงแหบห้าวออกมา

“โทษทีนึกว่าแมวจร”

เนื้อหาโดย: wvalai
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
wvalai's profile


โพสท์โดย: wvalai
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้าโรคกลัวความสกปรก (Mysophobia) กลัวเชื้อโรค หวาดระแวงเชื้อโรค ไม่กล้าสัมผัสอะไรปลาทู คุณค่าทางโภชนาการสูง คุณประโยชน์ดี ๆ ไม่แพ้ปลาทะเลอื่น ๆสาววัย 26 เมียมหาเศรษฐี เปิดเผย 'กฎเกณฑ์' ที่สามีกำหนด ทำชาวเน็ตตะลึง!มังคุดคัด 8 ลูก 699 บาท! "พี่เอ ศุภชัย" เจอดราม่า ราคาแรงแซงโค้ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จอนนี่ โซมาลี Youtuber คนดัง ก่อวีรกรรมป่วน! ชาวเน็ตแห่ #แบนจอนนี่โซมาลีอุ๊งอิ๊งเดินหน้าเอ็มโอยู44!ลั่นไม่เกี่ยวกับ'เกาะกูด'
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ผีหน้ารั้วตำนาน เขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุงเมื่อข้าหลับตาต้องมีคนจากโลกพร่างพราวกลางใจ
ตั้งกระทู้ใหม่