แปลกแต่จริง..หนุ่มจีนไม่ดื่มเหล้าแต่เมาได้ และ ป่วยโรคตับ เพราะมี "โรงบ่ม" ผลิตแอลกอฮอล์ในลำไส้
แปลกแต่จริง..หนุ่มจีนไม่ดื่มเหล้า..แต่เมาและป่วยโรคตับ เพราะมี "โรงบ่ม" ผลิตแอลกอฮอล์ในลำไส้
🍺นี่คือความแปลกประหลาดของร่างกายมนุษย์ที่บางคนมีไม่เหมือนคนอื่นโดยเฉพาะข่าวนี้นะครับที่ว่าแปลกคือหนุ่มจีนไม่ดื่มเหล้า..แต่เมาและป่วยโรคตับ เพราะมี "โรงบ่ม" ผลิตแอลกอฮอล์ในลำไส้
ตับเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากการดื่มสุรามากที่สุดอวัยวะหนึ่ง
☑️ตัวอย่างหนุ่มชาวจีนรายนี้ ไม่เคยกินเหล้าแต่เมาได้..เพราะมีแบคทีเรียบางชนิดอยู่ในลำไส้มันบ่มอาหารต่างๆให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ก็เท่ากับกินเหล้านั่นแหละครับ...แล้วมันยังเป็นสาเหตุที่จะทำให้เป็นโรคตับเหมือนกับคนกินเหล้าติดสุราได้นั่นเอง..อันตรายมากเลยนะครับ......
แบคทีเรีย K. pneumoniae ที่มีอยู่มากเกินปกติ สามารถจะผลิตแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นในกระแสเลือดได้มากถึง 400 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ตามข่าวเขามีอย่างนี้นะครับ
👨⚕️ชายชาวจีนวัย 27 ปีผู้หนึ่งที่ป่วยด้วยโรคประหลาด โดยมีอาการมึนเมาอยู่เสมอทั้งที่ไม่ได้ดื่มสุรา ได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แบคทีเรียในลำไส้บางชนิดสามารถผลิตแอลกอฮอล์ออกมาในปริมาณมาก จนทำให้บางคนต้องเมามายโดยไม่ได้ตั้งใจ และยังต้องล้มป่วยเป็นโรคไขมันพอกตับแบบที่ไม่ได้เกิดจากพิษสุรา (NAFLD) อีกด้วย
👉🏿ภาวะที่บางคนมีอาการมึนเมาและป่วยเป็นโรคตับเหมือนคนติดสุรา ทั้งที่ชีวิตจริงไม่เคยได้ดื่มสักหยดเลยนั้น เคยมีการค้นพบครั้งแรกช่วงทศวรรษ 1940 โดยเรียกว่า "กลุ่มอาการร่างกายบ่มสุราได้เอง" (Auto-brewery Syndrome - ABS) ถือเป็นโรคที่พบได้ยากและเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ในลำไส้
👉🏿ซึ่งยีสต์จะเปลี่ยนอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่กินเข้าไปให้กลายเป็นเอทานอล (Ethanol) หรือแอลกอฮอล์ชนิดดื่มได้ปริมาณมากออกสู่กระแสเลือด
🍺แต่สำหรับกรณีที่มีการรายงานในวารสาร Cell Metabolism นี้ ทีมนักวิจัยจากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) พบว่าหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อยีสต์เหมือนกับผู้ป่วยกลุ่มอาการ ABS โดยทั่วไป แต่ในลำไส้ของเขากลับมีเชื้อแบคทีเรีย K. pneumoniae ซึ่งเป็นเชื้อที่อาศัยในลำไส้มนุษย์โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายอยู่มากผิดปกติ
👉🏿มีการนำตัวอย่างอุจจาระของชายผู้นี้มาเปรียบเทียบกับของคนปกติที่มีสุขภาพแข็งแรง 48 คน และเปรียบเทียบกับอุจจาระของคนที่ป่วยด้วยโรคตับ NAFLD อีก 43 คน ผลปรากฏว่าพบเชื้อ K. pneumoniae ในชายคนที่เป็นกรณีศึกษาในจำนวนสูงกว่าคนปกติถึง 19% ในขณะที่ผู้ป่วยโรคตับ NAFLD มีจำนวนแบคทีเรียดังกล่าวสูงกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
แบคทีเรียบางชนิดในลำไส้สามารถผลิตแอลกอฮอล์ได้เหมือนกับโรงบ่มเบียร์
👨⚕️ในกรณีของชายหนุ่มที่ทีมวิจัยศึกษา แบคทีเรีย K. pneumoniae ที่มีอยู่มากเกินปกติ สามารถจะผลิตแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นในกระแสเลือดได้มากถึง 400 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ซึ่งเท่ากับการดื่มเหล้าดีกรีแรงกว่าสิบช็อต และเสี่ยงที่จะทำให้เสียชีวิตอย่างฉับพลันได้ หากเขาดื่มน้ำผลไม้หรือกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมากเป็นพิเศษ
👦นายแพทย์ จิง หยวน หนึ่งในทีมผู้วิจัยบอกว่า การที่ร่างกายสามารถบ่มสุราได้เองเช่นนี้ ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการ ABS ได้รับแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ ซึ่งส่งผลทำลายสุขภาพตับเหมือนกับในกลุ่มคนที่ดื่มหนัก
👨⚕️"กรณีของชายคนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของแบคทีเรียในลำไส้ว่า อาจเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคตับ NAFLD ขึ้นได้" นพ. หยวนกล่าว
👉🏿ก่อนหน้านี้ วงวิชาการแพทย์ทราบเพียงว่าโรคตับชนิดดังกล่าวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในคนไข้แต่ละราย บางครั้งแพทย์ก็ไม่สามารถระบุต้นตอของโรคในคนไข้บางรายได้
อ้างอิงจาก: BBC google และ YouTube