ทำไมเวลาปวดฉี่มากๆ เเล้วอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์นี้อย่างแน่นอน เวลาที่เราปวดฉี่มาก ๆ ร่างกายเราจะอยู่ไม่เป็นสุข จะต้องมีการออกสเต็ปเต้นเบา ๆ หรือเรียกว่า Pee dance ก็ได้ 55555 อาจจะเป็นจังหวะแซมบ้า แทงโก้ หรือถ้าปวดหนักหน่อยก็จะเป็นสามช่าโจ๊ะๆ เลยก็มี 55555 ไม่มีใครที่สามารถยืนหรือนั่งอยู่นิ่งๆ กับที่ได้หรอก ต้องมีความบิดไปมา แล้วทำไมเราต้องนึกครึ้มอยากขยับร่างกายขนาดนั้น วันนี้มีคำตอบค่ะ
ปกติแล้วกระเพาะปัสสาวะเราสามารถบรรจุน้ำปัสสาวะได้ประมาณ 500-550 มิลลิลิตร แต่เราจะรู้สึกปวดฉี่ก็ต่อเมื่อกระเพาะปัสสาวะมีน้ำปัสสาวะประมาณ 160-300 มิลลิลิตร ภายในกระเพาะปัสสาวะจะเกิดแรงดันไปกระตุ้นให้ปลายประสาทรับความรู้สึก ส่งกระแสประสาทไปยังสมองให้รับรู้ว่าปวดฉี่ ต้องไปฉี่แล้วเด้อสาว
แต่ถ้ายังติดลมทำอะไรสักอย่าง หรือตอนไปเข้าห้องน้ำแล้วต้องรอคิวนาน สมองที่ชาญฉลาดของเรามันจะส่งกระแสประสาทกลับไปกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเตติกให้ทำงาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบของกระเพาะปัสสาวะคลายตัว กระเพาะปัสสาวะขยายตัวรับน้ำได้มากขึ้น กล้ามเนื้อหูรูดก็หดตัว ไม่ให้น้ำออกมา (ทีมเวิร์คที่แท้ทรู) แต่เมื่อเราพร้อมยิงกระต่าย ระบบประสาทส่วนพาราซิมพาเทติกจะทำงาน กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว หูรูดคลายตัว เพื่อขับน้ำออกจากร่างกาย
แล้วเวลาปวดฉี่ทำไมต้องเต้น อาจจะยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน แต่การกระทำเหล่านี้มันเหมือนพฤติกรรมการแทนที่ด้วยจังหวะ หรือ Rhythmic displacement behavior เท่านั้น กล่าวคือการเต้นเบา ๆ บิดขาไปมา มันคือการเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการปวดฉี่เท่านั้นค่ะ อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระของกล้ามเนื้อหูรูดได้บ้าง ช่วยคลายปวดได้เล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
แต่ต่อให้การเต้นหรือการขยับเบาๆ มันจะช่วยคลายอาการปวดฉี่ได้บ้าง และไม่มีอันตรายต่อกระเพาะปัสสาวะ แต่การอั้นฉี่นาน ๆ และทำบ่อยๆ นี่แหละตัวการ จะทำให้กระเพาะปัสสาวะเราขิตได้ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้สึกปวดฉี่ ก็ไปฉี่ค่ะ ฉี่ไม่ใช้ทองจะเก็บไว้ทำยาอะไรนานๆ อิอิ