เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของคุณด้วยบรรจุภัณฑ์
การเลือกบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เป็นปัจจัยสำคัญทางการตลาดอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้สินค้าปังได้ โดยบรรจุภัณฑ์มีคุณสมบัติช่วยห่อหุ้มสินค้า ช่วยให้สินค้าภายในบรรจุภัณฑ์เสียหายน้อยที่สุด หากสินค้านั้นเป็นอาหารหรือขนม ก็สามารถช่วยป้องกันสินค้าให้ยังคงรสชาติความอร่อยไว้ และรักษาคุณภาพสินค้าภายในได้เป็นอย่างดี
บรรุจภัณฑ์มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบบ ซึ่งคุณควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้น่าดึงดูด และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
บรรจุภัณฑ์แต่ละประเภทเหมาะกับสินค้าแบบใด ?
1. บรรจุภัณฑ์แบบกระดาษ
เป็นบรรจุภัณฑ์ที่นิยมนำมาใช้กันมากที่สุด มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ย่อยสลายง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะกับสินค้าที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ลดการสร้างขยะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติก
พลาสติกสามารถใช้ได้อย่างอเนกประสงค์ เหมาะกับการบรรจุอาหารร้อน อาหารแช่แข็ง หรืออาหารสด สามารถป้องกันน้ำและอากาศได้เป็นอย่างดี รักษาคุณภาพอาหารให้มีรสชาติคงตัว และมีราคาไม่สูง
3. บรรจุภัณฑ์แบบแก้ว
บรรจุภัณฑ์แบบแก้วนิยมใช้กันอยู่ 3 แบบ แบบแรกคือ สีใส ใช้เพื่อความสวยงาม หากสินค้าภายในแก้วมีสีสัน จะยิ่งทำให้สินค้านั้นน่ามองมากยิ่งขึ้นไปอีก แบบที่สองคือ สีอำพัน ใช้สำหรับทำขวดเบียร์ และขวดยา แบบที่สามคือ สีเขียว ใช้สำหรับทำขวดเครื่องดื่มต่าง ๆ
4. บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ
เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ 100% ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับนำไปใช้กับการห่ออาหาร เช่น ใบตอง กะลา กระบอกไม้ไผ่ ชานอ้อย เป็นต้น ช่วยสร้างจุดขายให้กับสินค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ หรือลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์สำหรับห่ออาหารนั่นเอง
5. บรรจุภัณฑ์จากโลหะ
โลหะ มีลักษณะทนทานแข็งแรง เก็บรักษาคุณภาพอาหารได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการนำไปทำกระป๋องเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป กระป๋องสารเคมีเพื่อฉีดพ่นต่าง ๆ ถังใส่ขนมอบกรอบ
บรรจุภัณฑ์แต่ละชนิดมีความเหมาะสมกับสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากถูกนำไปใช้งานผิดประเภท อาจทำให้มูลค่าและคุณภาพของสินค้านั้น ๆ เสื่อมสภาพลง
สามารถเข้ามาเลือกดู “บรรจุภัณฑ์” ได้ที่เว็บไซต์ MyWaWa แหล่งรวมผู้ผลิตและผู้ค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น