รีวิวความรู้สึกหลังนั่งรถเมล์ไฟฟ้าสาย8
จากที่จขกท. เห็นข่าวเปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้า สาย 8 มาแทนรถเมล์ธรรมดา ก็แอบดีใจที่ กทม.มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทุกวันๆ จึงอยากลองไปใช้บริการดูบ้างว่าพอเปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้าเนี่ยจะเป็นยังไง สาย 8 ยังจะเป็นสาย 8 ในตำนานอยู่มั๊ย? 5555
ก่อนอื่นขอเล่าที่มาของรถเมล์ไฟฟ้าสาย 8 กันก่อน ซึ่งจริงๆเปลี่ยนชื่อสายเป็น 2-38 แต่ยังมีป้ายเลข 8 ติดอยู่ให้เราได้ทราบกัน รถเมล์EV สาย 8 เป็นความร่วมมือ ของ บริษัท EA ( พลังงานบริสุทธิ์) ที่ผลิตแบตเตอรี่ของตัวเอง กับ บริษัทไทยสมายล์บัส โดยเริ่มให้บริการ ตั้งแต่ วันที่ 20 ส.ค.65 เป็นต้นมา สำหรับเราดีใจนะที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวสู่เมืองที่ไร้มลภาวะ สังคมคาร์บอนต่ำเหมือนในหลายๆ ประเทศกันแล้ว ถึงจะช้าไปหน่อยก็เถอะ
เราลองหาข้อมูล ของรถเมล์สายนี้ โอ้แม่เจ้า.. สถานีเยอะมาก จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนถึงนิยมใช้บริการ เราได้แนบสถานีให้แล้ว ลองไปดูกัน
สถานีรถเมล์ไฟฟ้าสาย 8 แฮปปี้แลนด์ – สะพานพุทธ มีดังนี้ https://www.transitbangkok.com/th
แพลนเดินทาง จากจตุจักร ไป สะพานพุทธ เริ่มต้นที่ สถานีตรงข้ามจตุจักร
ระหว่างรอก็ยังมี สาย8 ทั้งธรรมดาและปรับอากาศยังวิ่งบริการอยู่ แต่ตอนที่รอเรารู้สึกแสบจมูก ฝุ่นควันเยอะมาก เราว่าถ้าเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าให้หมดเลยยิ่งดี เชียร์สุดๆ
และแล้วรถเมล์ไฟฟ้าที่รอคอยก็มาถึง เรารีบขึ้นเลยถ่ายรูปรถไม่ทันกลัวไม่ได้ขึ้นฮ่า ๆ (ฝังใจกับสาย8 ในตำนานอ่า..555) แต่พอขึ้นมาแล้วคิดได้ไม่ต้องรีบก็ได้นี่นา แล้วก็มาหาที่นั่งเพราะรถมีเยอะเลยว่างหลายที่เลือกตามสบายเลยจ้า สำหรับข้างในรถเมล์ดูกว้างขวางและสะอาดตา ฟีลเหมือนตอนนั่งรถเมล์เวลาไปเที่ยว ตปท.อ่ะ อิอิ เรารอประมาณ 15 นาที ก็ถือว่าไม่นานนะ
สำหรับทางขึ้นไม่สูงอยู่ระดับเดียวกับขอบฟุตบาทได้ ก้าวขึ้นสะดวก ทำให้ไม่ต้องยกขาสูงมาก ทรงตัวได้ง่ายสำหรับสาวอวบอย่างเรา และเมื่อรถออกตัวเรารู้สึกว่ารถออกตัวนิ่มไม่มีอารมณ์รถกระชากเหมือนรถน้ำมัน จากที่ดูรายการข่าวไปรีวิวเห็นว่ามีทางขึ้นสำหรับคนพิการด้วยอันนี้ดีมากๆ เลย
เรานั่งจากสถานีตรงข้ามจตุจักรไปสุดสายที่สะพานพุทธ 20 บาท ราคาตั๋วจะเริ่มตั้งแต่ 15 -25 บาท ถ้ามีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะเหลือ 10 บาทตลอดสายประมาณ 3 เดือน สำหรับการจ่ายตอนนี้มี 2 แบบ คือเครื่องแตะตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังไม่เห็นมีใครใช้ กับ เงินสด เก็บโดยพี่กระเป๋ารถเมล์ วิธีการจ่ายเงินคงต้องค่อยๆสอนการใช้กันไปเหมือนช่วงแรกที่เรายังสแกนจ่ายผ่านแอปไม่เป็นแต่พอมีคนละครึ่งเป็นโดยอัตโนมัติ ใครได้ลองใช้แล้วมาบอกกันบ้างนะคะ
หลังจากนั้นเราก็นั่งชมวิวเมืองไปเรื่อย ๆ อารมณ์นักท่องเที่ยว วันที่เรามาใช้บริการ เป็นวันอังคารช่วง 11 โมง ผู้โดยสารไม่เยอะ แอร์เย็นสบาย ไม่มีกลิ่นน้ำมันเครื่องกับเสียงเครื่องยนต์ดังๆ ให้ปวดหัว
นั่งเพลินๆ ไม่นานก็มาถึงสถานีสะพานพุทธวันนี้รถไม่ติด พอลงรถเมล์ที่สุดสายปุ๊บก็เจอท่าเรือไฟฟ้าของ Mine Smart Ferry เลยอ่ะ ตอนแรกว่าจะเดินเล่นสะพานพุทธหาอะไรกินแล้วนั่งรถเมล์ไฟฟ้าสาย8 กลับเหมือนเดิม พอเจอเรือเลยเปลี่ยนแผนไปล่องเรือกลับดีกว่า ไหนๆ ก็เป็นทริปกินเที่ยวแบบพลังงานบริสุทธิ์กันแล้ว 5555
สรุปภาพรวมของการใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้าสาย 8 เป็นครั้งแรก รอรถไม่นาน รถเมล์สะอาดและทันสมัย การขับรถไม่กระชาก ลื่นไหลตามการจราจรที่ไม่ติดขัด ไม่มีเสียงดังของเครื่องยนต์ให้รำคาญใจ ที่สำคัญคือพี่กระเป๋ายังบริการดีสุภาพ เราไม่ค่อยรู้ทางถามนู่นนี่ก็ตอบอย่างดี คอยดูแลคนขึ้นลง ลบภาพความทรงจำของสาย8 ไปเลยอ่ะ หรือว่าเพราะรถสวย แอร์เย็น เอ๊ะเกี่ยวมั้ย ฮ่า
ส่วนข้อที่อยากให้มีคืออยากให้มีแอปที่แจ้งเวลาเข้าแต่ละสถานีเหมือนในต่างประเทศจะได้กำหนดเวลาเดินทางได้ เสียงประกาศชื่อสถานีเหมือนรถไฟฟ้า จะดีมาก ถ้านักท่องเที่ยวต่างชาติมา หรือผู้โดยสารหลับ จะได้ทราบว่าถึงสถานีที่ต้องการหรือยัง ไม่ต้องมาคอยถาม (เอ..แต่ว่าตอนเราดูข่าวในรีวิวเค้าก็จะมีเสียงบอกว่าถึงป้ายไหนแล้วแต่จากที่ไปลองนั่งวันนี้เราไม่เห็นนะ หรือว่าเค้าไม่ได้เปิด?)
และความคิดเห็นส่วนตัวเราอยากให้ประเทศไทยมีระบบขนส่งสาธารณะที่ไร้มลพิษแบบครอบคลุมทั่วประเทศและค่าโดยสารที่ถูกลงเหมาะกับค่าครองชีพของประชาชน ทุกคนจะได้ลดการใช้รถส่วนตัวแล้วหันมาขึ้นรถสาธารณะกัน แต่นับว่าการเริ่มเปลี่ยนแปลงทั้งเอารถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้ามาใช้นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนับสนุนแล้ว
สุดท้ายขอเอาภาพท่าเรือสะพานพุทธมาฝากกัน นี่ไงเรือไฟฟ้าที่เรากำลังจะไปขึ้นต่อ ไว้ถ้ามีโอกาสจะมารีวิวการนั่งเรือไฟฟ้าอีกทีนะคะ