"จำเป็น" VS "แค่อยากได้"
อาการ "จำเป็น" หรือ "แค่อยากได้" เชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นกันไม่มากก็น้อย ทั้งเกิดขึ้นกับตัวเอง และคนรอบข้าง ซึ่งอาการมันจะมาในเชื่อที่เรากำลังเบื่อๆ เซ็งๆ หรือหงุดหงิด บางคนช้อปปิ้งเพื่อระบายความเครียด บางคนมีความสุขกับการช้อปปิ้ง ฯลฯ ซึ่งเหตุผลของแต่ละคนก็มีแตกต่างกันไป เรามาดูว่าปัจจัยที่ทำให้เราเกิดการฟุ้งเฟ้อมีอะไรกันบ้าง
1. เห็นป้าย Sale แล้วอดใจไม่ไหว ไม่รู้ว่า "จำเป็น" หรือ "อยากได้" แต่ขอให้ได้ช้อปปิ้งไว้ก่อน
2. บางคนหงุดหงิด ทะเลาะกับแฟน แล้วช้อปปิ้งระบายความเครียด
3. บางคนเบื่อๆ จะเบื่ออากาศ เบื่อบรรยากาศ สารพัดที่จะเบื่อก็จะหาวิธีปรนเปรอตัวเองด้วยการช้อปปิ้ง
4. บางคนอ้างว่า ไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว ทั้งๆ ที่เปิดตู้มาเสื้อผ้าล้นทะลักตู้จนแทบจะไม่มีที่เก็บ
5. หลายๆ ไม่ได้ตั้งใจไปซื้อ แต่พอเดินไป เดินมาเห็นว่าสวยดี แล้วก็ติดมือกลับมามาซะเลย แล้วก็เอาไปนอนทิ้งไว้ในตู้ โดยที่ไม่เคยแกะออกจากถุงพลาสติกก็มี
*************
คราวนี้เรามาดูกันว่า "ความจำเป็น" กับ "อาการแค่อยากได้" มันมีปัจจัยอะไรประกอบบ้าง เผื่อช่วยให้เป็นทางเลือกของหลายๆ คนไม่ผลีผลามในการช้อปปิ้ง หรือช่วยในการตัดสินใจ
1. ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายก็ตาม เวลาที่เราเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ให้คิดทบทวนอีกรอบนึงก่อนว่า ของที่เราอยากได้ หรืออยากซื้อนั้น เป็นสิ่งที่เรายังไม่มี เป็นสิ่งที่เรายังขาด จริงๆ หรือเปล่า
2. ยิ่งกรณีที่เป็นช่วง Sale ของทุกห้างนั้น ไม่ว่าจะเป็น Summer Sale / Winter Sale / เที่ยงวันยันเที่ยงคืน หรือจะเป็นโปรโมชั่นไหนก็ตาม ให้พิจารณาดูว่า สิ่งของที่เราอยากได้ หรือจะซ์้อนั้น คุ้มค่ากับเงินที่เราจะต้องจ่ายไปหรือเปล่า
3. พิจารณาดูว่า โอกาสที่เราจะได้ใช้ของสิ่งนั้นที่เรากำลังจะตัดสินใจซื้อมีมากน้อยขนาดไหน หรือมีเหตุการณ์อะไรที่เราจำเป็นจะต้องใช้หรือเปล่า
4. ขออนุญาตเอาประสบการณ์ของตัวเองแชร์สักเรื่อง ในอดีตก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบการช้อปปิ้งมาก โบนัสออกก็ช้อปปิ้ง ไปกินข้าวกับเพื่อนในห้างก็แวะช้อปปิ้ง เดินผ่านก็ช้อปปิ้งได้ เรื่องกิจกรรมส่งเสริมการขายของห้างทุกห้างจะลิสต์ไว้หมดเลย พอซื้อมาแล้วก็กลายเป็นดินพอกหางหมู เป็นแหล่งสะสม เสื้อผ้าหลายๆ ชิ้น สิ่งของหลายๆ อย่าง ซื้อมาแล้ว พอกลับถึงบ้าน แทบไม่ได้หยิบออกมาจากถุงอีกเลย ไม่เอาออกมาชื่นชม ได้รับมาจากห้างแบบไหนก็เก็บต่อไปแบบนั้น หลายเดือนต่อมา เวลาที่มารื้อของ พอมาเจอ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าใช้งานแล้ว หรือหากเป็นเสื้อผ้าก็ไม่ได้อยากใส่แล้ว
เจ้าของกระทู้จะใช้วิธีคือ หากเราเห็นเสื้อตัวนึงสวยมากกกก (ก.ไก่ล้านตัวเลย) สวยจนแทบหักห้ามใจไม่อยู่ ก็จะมีวิธีคิดอยู่ 2-3 อย่างคือ
- อย่างแรก คิดว่าเสื้อตัวนี้เค้าไม่เคยออกแบบมา เค้าไม่เคยตัดเย็บมา แล้วก็เดินหนีจากไป
- อย่างที่สอง จะนึกถึงความจำเป็นก่อนว่า หากเราซื้อเสื้อตัวนี้มาแล้ว เราจะได้ใส่ในโอกาสไหนบ้าง เพราะชีวิตประจำวันคือการเป็นพนักงาน ใส่แต่ชุดทำงาน โอกาสที่จะใส่ในหนึ่งอาทิตย์มีแค่ 2 วัน คือวันเสาร์ กับ วันอาทิตย์ หากสรุปได้ว่าไม่มีโอกาสได้ใส่บ่อยๆ หรือใส่จนคุ้มก็จะตัดใจได้
- อย่างที่สาม หากเราอยากได้จริงๆ จนหักห้ามใจไม่ไหวแล้ว ให้เบรคความรู้สึกของตัวเองไว้สักพักก่อน แล้วเดินหนีไปจากตรงนั้น ไปเดินเล่น ไปกินข้าว แล้วก็กลับบ้าน หากเรากลับบ้านมานอนสัก 1-2 คืนแล้ว ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไป ไม่ได้อยากได้เหมือนตอนที่เราเห็นมันครั้งแรก นั่นแสดงว่า เราแค่อยากได้ แต่เราไม่ได้จำเป็น
อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่หยิบยกขึ้นมา แต่เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงมีแนวคิดที่แตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว เจ้าของกระทู้เพียงแค่อยากแชร์ประสบการณ์เท่านั้น หรือใครมีวิธีการดีๆ ในการบริหารเงินเรื่องการช้อปปิ้งว่า "จำเป็น" กับ "แค่อยากได้" ก็ลองเอามาแชร์กันได้นะครับ
ภาพโดย: Freepik.co