พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ “มิสเตอร์อินโดจีน” “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"
พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ “มิสเตอร์อินโดจีน” “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"
พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรค และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ พรรคชาติไทย และพรรคชาติพัฒนา ซึ่งต่อมาได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนที่ 17 (4 สิงหาคม พ.ศ. 2531 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534) โดยนโยบายที่สร้างชื่อเสียงให้แก่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ คือ นโยบาย “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า" ซึ่งเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มอินโดจีน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา และลาว
การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศอินโดจีนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในห้วงเวลาดังกล่าวระบบราชการของไทยยังเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงของประเทศจากภัยคอมมิวนิสต์
พรมแดนไทยกับเพื่อนบ้านทั้งพม่า เขมร ลาวและมาเลเซีย ล้วนมีระยะทางยาวไกล บางแห่งมีเพียงป่าละเมาะหรือคลองตื้น ๆ กั้น การเดินทางข้ามไปมาของชาวบ้านก็ทำได้ง่าย จึงมีชาวบ้านของทั้งสองฝ่ายเดินทางไป-มา ติดต่อทำมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ชาวบ้านก็ล้วนเป็นเครือญาติที่แต่งงานกันหรือมีญาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้วยกันทั้งนั้น
การที่คนที่อยู่ในภาคกลางหรือกทม.ยุยงให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือเข้าไปก้าวก่ายในกิจการของประเทศเพื่อนบ้านนั้น คนเหล่านี้ไม่ได้รับความเดือดร้อน แต่ความเดือดร้อนจะตกอยู่กับคนตามแนวเขตชายแดน จึงอย่าชักศึกเข้าบ้านเป็นเรื่องดีที่สุด!!!
.
ตลาดนัดสองแผ่นดิน ที่บ้านวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ชายแดนไทย-พม่า
.
ตลาดนัดสองแผ่นดิน#ตลาดนัดสองแผ่นดิน (နိုင်ငံနှစ်ခု စျေးကွက်) ที่บ้านวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ปกติเดินข้ามไปได้เลย แต่วันนี้ไม่ปกติค่ะ ด้วยสถานการณ์สู้รบกันอยู่ตลอดแนวชายแดนเวลานี้ ทำให้ด่านที่เคยเดินข้ามไปฝั่งพม่าปิด ทำให้เชงต้องใช้ช่องทางธรรมชาติ เดินทางเข้าสู่ประเทศพม่าอ้อมไปไกลสักหน่อย แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา ถนนลูกรังอาจทำให้มวนท้องนิดหน่อย ผ่านด่านทหาร DKBA KNU KNLA ผ่านคาสิโนวาเล่ย์คอมเพล็กซ์ จนมาถึง #ตลาดนัดวาเล่ย์ . เชงออกมาค่อนข้างเช้า เป้าหมายคือมาซื้อเบียร์ เพิ่มเติมคือมากินข้าวเช้าที่นี่ หาซื้อของสดกลับไปปรุงอาหารนิดหน่อย พอมาถึงตลาดก็เซอร์ไพรส์ไปเลยค่ะ ที่นี่ไม่มีใครใส่แมสแล้วจ้ะ เพราะเขาบอกว่าเป็นโควิดกันทุกคนแล้ว เอ้า ๆ ก็ว่ากันไป . เดินหาซื้อเบียร์เป็นอันดับแรก เบียร์กระป๋อง 1 ถาด (24 กระป๋อง) ถ้าอยู่ในไทยก็ตกถาดละ 700-800 บาท แต่ที่นี่ถาดละ 350 บาทจ้ะ เบียร์ผลิตมาใหม่ ๆ ด้วยนะ ดูวันที่ผลิตแล้วแบบว่า เห้ยมันดีมากอ่ะ คือใหม่แบบเพิ่งผลิตมาเมื่อ 5 วันที่แล้วยังงี้ เยี่ยมไปเลย . จากนั้นเชงก็ไปได้ปลาจาระเม็ดมา 1 ตัว กิโลกรัมละ 60 บาท ตัวที่เชงซื้อมาศิริรวมราคา 90 บาท ปลาสด ๆ ตาใสกริ๊ก แล้วก็เดินไปกินข้าวเช้า ก่อนที่จะแวะซื้อขนมติดไม้ติดมือกลับมาด้วย มันเป็นเหมือนขนมถังแตกบ้านเรา ซื้อมา 1 แผ่น พร้อมกับข้าวต้มมัด รสชาติดีมากทุกคน อร่อยจริงจัง พยายามเดินหาถั่วยำ แต่หาไม่เจอ อธิบายยังไงดีนะ นึกถึงถั่วที่อาบังแบกบนหัว แล้วก็ใส่หอมซอย ใส่เกลือคลุก ๆ ที่ขายที่บ้านเรา มันจะคล้าย ๆ กัน แต่ที่นี่จะเป็นน้ำยำเลย ไม่ได้ใส่น้ำยำแบบแฉะ ๆ นะ มันจะแค่เคลือบถั่ว คือแบบว่าอร่อยแหละ แต่หาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี่ยวค่อยมาหาซื้อใหม่ . ได้ของครบเรียบร้อยก็เดินทางกลับมาฝั่งไทย ปรุงอาหารมื้อเที่ยงด้วยวัตถุดิบจากพม่า #อร่อยเหาะ
Posted by I am Shengly on Monday, April 11, 2022
.
ตลาดช่องจอมแวะมาเดินเล่นตลาดช่องจอม
Posted by ชุมชนคนสุรินทร์ on Friday, April 29, 2022