รู้หน้าไม่รู้ใจ ...
#รู้หน้าไม่รู้ใจ ...
" เมื่อวานนี้...ไอ้ทิดอยู่ มันบอกข้าว่า มันจะเลิกกะนางน้อม...ทั้ง ๆ ที่มันอยู่กินเป็นผัวเป็นเมียกันมานานนับยี่สิบปี เห็นจะได้ ลูกชาย ลูกสาว ก็เริ่มจะโตจวนจะหาเลี้ยงพ่อ แม่ได้แล้ว มันจะเลิกร้างกันไปเพื่ออะไรวะ หะไอ้จ้อย ? " เสียงนายชุ่มถามนายจ้อย หลังจากเรื่องเล่าทิดอยู่จบ ก็ถามความคิดเห็น การสนทนาประสาคอกาแฟ ในยามเช้า มักจะมีแต่เรื่องราวของคนบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้นที่น่าสนใจเป็นที่สุด ...
" ข้าว่ามันทะแม่ง ๆ อยู่นะ ... เมียมันก็ยังสวยอยู่นะ มันเองก็บวชเรียนมาแล้วตั้งหลายพรรษา สึกออกมาก็มาเรียนต่อยอดสูงขึ้นไปอีก จนมาพบเมียมัน ที่เรียนเดียวกัน นะนั่น "
นายจ้อยแสดงความคิดเห็นอย่างฉงน
ท่ามกลางความจอแจ ทั้ง รถ ทั้งคน รถเข็นเข่งผัก สวนกันอย่างรีบเร่ง กลางตลาด เสียงอื้ออึงของผู้คนไม่ขาดสาย เสียงตะโกนโหวกเหวกสั่งของที่ตนต้องการ คนขายก็ร้องเชิญชวนให้มาซื้อ ทุกคนเหยียบยืนบนพื้นแฉะน้ำนอง บ้างสวมใส่รองเท้ายาง บ้างก็คุยกันด้วยภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง คนต่างด้าว ต่างชาติ แต่งตัวแตกต่างกัน ตามแต่เชื้อชาติของใครของมัน
" เอ็งว่า...มันเป็นที่เมียมันหรือเปล่าวะ เห็นมีคนแอบมารับมาส่งแถวหน้าตลาด ไปไหนมาไหนด้วยกัน หลายครั้งหลายหนแล้ว เป็นญาติ พี่ น้อง หรือเป็นอะไรก็ไม่รู้ แต่ไอ้ทิดมันก็แอบรู้มา เมื่อวานเลยร้องไห้ฟูมฟาย กระดกเหล้า เมาเละอยู่แถวนี้แหล่ะ นี่แหล่ะหนา รู้หน้าไม่รู้ใจ คนข้างกายแท้ ๆ ! " นายจ้อยพูดโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา ตามองตรงหน้าตลาด มองไปที่รถขายลูกชิ้นปิ้ง หมายใจว่าจะเดินไปซื้อมากิน...แต่แล้ว นายชุ่มต้องตะลึงโวยวายออกมา
"นั่นไง...เมียไอ้ทิด ! เหมือนเดิมเลย รถเก๋งสีขาวนั่น ! กำลังจะขึ้นรถไปกับมันแล้ว เฮ้ย ๆ ๆ ! "
ทั้งสองคนสัมผัสได้ถึงสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิด เพราะทิดอยู่ วิ่งตามหลังเมียมาแต่ไกล กระหืดกระหอบ ในมือ...ถือกระเป๋าใบเล็ก ๆ ใหญ่กว่ามือเล็กน้อย
" ไปเร็ว...ไอ้จ้อย ! ไปห้ามไอ้ทิด มันยิงเมียยิงชู้มันแน่...เร็ว ! " ทั้งสองเร่งสปีดเต็มกำลัง พอถึงตัว ทิดอยู่ ที่กำลังจะรูดซิปกระเป๋าถือในมือ พร้อมกับวิ่งเหยาะ ๆ ไปด้วย ใกล้จะถึงเมียเขา อีกไม่กี่ก้าว ...
ทุกสิ่ง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว...แต่ดุจภาพช้าในหนัง ช้าลง ๆ ...นายจ้อย พุ่งตัวเข้าใส่ทิดอยู่ โผกอดเข้าที่เอว ร่างจ้อยขนานกับพื้น นายชุ่ม พุ่งตัวสูง ตรงเข้าที่หมายคือกระเป๋าในมือ และ...ร่างของชายทั้งสามคน ก็ลงไปกองอยู่กับพื้นถนนหน้าตลาด ตรงหน้ารถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง แม่ค้าโวยวายเสียงดังขึ้นให้คนโทรแจ้งตำรวจ ไทยมุง เริ่มเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิป
" เฮ้ย ! มันอะไรกันวะ ไอ้สองตัว ... มากระโจนใส่ข้าทำไมวะ ดูสิ กระเป๋าเอกสาร บัตร เงินกระจาย ...ไปเก็บมาเลย " ทิดอยู่ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่อารมณ์ขุ่นเอามากๆ เมียทิดรีบวิ่งมาดูผัวตัวเองล้มสีหน้าเป็นห่วง
"เอ้า พี่สามคนมาจับกบอะไรกันแถวนี้ แล้วพี่อยู่ตามฉันมาทำไม ? "
เมียทิดอยู่ถามขณะลดกายลงนั่งใกล้ ๆ
" พี่...เอาเอกสาร กับเงินน้อม มาให้ เห็นลืมวางไว้บนโต๊ะกินข้าว แล้วอาแหวง ล่ะ แกสบายดีไหม ? "
ชายไว้หนวด ผละจากพวงมาลัยลงเดินเข้ามาหา หน้าตายิ้ม ๆ คงตลกกับเหตุการณ์
" เออ ! ข้าสบายดี ตัวเองเจ็บยังจะห่วงคนอื่นอีกแน่ะไอ้ทิด พ่อเอ็งเขาฝากข้าไว้แล้วนะ ให้ว่าความคดีที่ดินมรดกของแม่เอ็ง ไม่ต้องไปเมาฟูมฟาย ไม่ต้องมาจิตตกอะไรให้มันวุ่นวายนะ คนถูก ยังไงก็ถูกวันยังค่ำ ข้าจัดการให้เอง " ทิดอยู่ยกมือไหว้ พร้อมพูดขึ้นว่า
"ขอบพระคุณอาแหวงมากครับ ฝากเมียไปศาลแทนผมด้วยนะครับ วันไหนผมตั้งหลักได้ ผมจะไปด้วยครับ "
ทั้งนายชุ่ม และนายจ้อย ยังนั่งงงอยูนบนพื้น ตกลง มันเป็นเรื่องที่เขาสองคน...มโนไปเอง ?!