สุดเซ็ง !ขึ้นเรือผิดเสียตัง6พันซ้ำร้าย จากทริปที่วาดฝันกลายเป็นเฟล เจอปาร์ตี้ลิงริมระเบียง
"สุดเซ็ง !ขึ้นเรือผิดเสียตัง6พันซ้ำร้าย จากทริปที่วาดฝันกลายเป็นเฟล เจอปาร์ตี้ลิงริมระเบียง"
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 โลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้ไปพักที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ โดยเจ้าของเรื่องได้เล่ารายละเอียดดังนี้ จองโรงแรมเป็นห้องพรีเมี่ยม วิวทะเล เพราะอยากมาพักผ่อนสบาย ๆ สักครั้งในชีวิต - เจอลิงปาร์ตี้ลิงเล่นน้ำ
วันแรกเป็นห้องที่วิวดี แต่สิ่งที่ทุกคนที่นี่จะต้องเจอคือลิง ห้ามให้อาหาร ซึ่งตนไม่เห็นในรีวิวว่าจะต้องเจอลิงใกล้ชิดแบบนี้ ซึ่งโรงแรมนี้บรรยากาศดี แต่ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 2 ก็ได้ยินเสียงกระจกแตก เมื่อตื่นมาดูก็เจอกระจกแตกจริง ๆ เป็นรอยใหญ่มาก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาดูแลขอเปลี่ยนห้อง
ไปลงเรือถ่ายรูปกับของทางโรงแรม เจอลุงคนหนึ่งโบกมือให้ แต่สุดท้ายขึ้นเรือผิดลำ ต้องเสียเงิน 6,000 บาท
เจ้าของเรื่องเล่าว่า เช้าวันที่ 2 หลังกินข้าวเสร็จก็แต่งตัวเพื่อจะไปเดินทางถ่ายรูปท่องเที่ยวกับทางโรงแรม โดยไปรอที่ทางขึ้นเรือ กระทั่งมีลุงคนหนึ่งโบกมือเรียกให้ขึ้นเรือ ตนก็ยื่นวอยเชอร์ให้ลุง ลุงก็รับไปและก็ได้ขึ้นเรือ เป็นเรือหางยาวมีแค่ตนและแฟน 2 คน รู้สึกส่วนตัวมาก ๆ แต่เอะใจที่ว่าไม่มีน้ำและอาหารให้ จึงถามลุง ลุงก็ตอบว่าไม่เห็นมีคนบอก จึงไม่ได้เตรียมไว้ให้ ทั้งที่ในวอยเชอร์ของโรงแรมบอกว่าบนเรือมีอาหารและเครื่องดื่มให้ กระทั่งจบทริป ช่วงเย็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่โรงแรมว่า "รบกวนแจ้งทางพนักงานหน่อยนะครับว่าทำไมไม่มีอาหารบนเรือหรือน้ำให้แขกทานเลย เป็นลมแดดหรืออะไรมาจะแย่เอานะครับ" ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าปกติจะมีให้ ถ้ามีอะไรยังไงจะไปแจ้งอีกครั้ง
ต่อมาทางโรงแรมโทร. มาว่า "สวัสดีครับคุณผู้ชาย คุณผู้ชายขึ้นเรือผิดคัน ตอนนี้กัปตันเรือมารอรับเงินจากคุณผู้ชายครับ จำนวนเงิน 6,000 บาท" ซึ่งตนถึงกับตกใจ ก่อนจะลงไปคุยกับทางกัปตันและพนักงานด้วยความโมโห พร้อมสรุปเรื่องราวดังนี้
- ผมขึ้นเรือผิดคันเพราะทางกัปตันเรือไม่ใช่เป็นของทางโรงแรมครับแต่เป็นเรือรับจ้าง แต่เขามาจอดตรงท่าของทางโรงแรม และทางเขารับวอยเชอร์ของทางเราไปโดยไม่รู้ว่าเราเป็นแขกของทางโรงแรมไม่ใช่เป็นแขกที่จองไปกับทางลุง
- ทางโรงแรมไม่มีพนักงานตรงท่าเรือไว้คอยดูเรือรับนักท่องเที่ยวผิดหรือมีการจัดการคิวในตอนเช้าเลย (มีแจ้งว่าพนักงานจะไปตอน 09.30 น. แต่ผมไปช่วง 09.15 - 09.25 น. เลยไม่เจอพนักงาน
- ทางโรงแรมแจ้งว่าไม่เจอผมรอตรงท่าเรือ เลยโทร. ไปห้องพัก ก็ไม่มีใครรับ (ก็ออกมาแล้ว) คราวนี้ผมเลยถามว่าทำไมไม่โทร. เบอร์ผมเลยส่วนตัวเบอร์ก็ให้ไว้ตอนเช็กอิน อย่างน้อยผมรู้ตัวขึ้นเรือผิดจะได้บอกให้ลุงวนเรือกลับ ทางพนักงานก็ได้แต่ขอโทษและบอกว่าเข้าใจครับ ๆ
- ทางกัปตันบอกว่ายังไงก็ให้เป็นค่าน้ำมันก็ได้เพราะยังไงก็เค้าผิดเองที่รับคนไม่ดู (ผมคิดว่าทำไมผมต้องมาจ่ายเงินให้ด้วยอีกฟะ ทั้ง ๆ ที่ผมจ่ายกับทางโรงแรมไปหมดแล้ว)
- น้องพนักงาน (ผช. เสนอให้ผมว่าปกติทางลูกค้าจะเลือกท่องเที่ยวกับทางโรงแรม +600 แต่เขาจะคืนเงินท่องเที่ยวให้กับทางผมเป็นเครดิตกับทางโรงแรม เป็นจำนวนเงิน 1,500 บาทแทน และให้ผมเป็นอาหารเย็นวันนี้ฟรี 1มื้อ)
"**แต่ผมกับแฟนต้องมานั่งกินข้าวเย็นแบบหน้าเครียด ๆ จนแฟนผมน้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกแย่ ๆ หลายอย่างรวม ๆ กันทั้ง 2 วัน ผมรู้สึกว่าการท่องเที่ยวในครั้งนี้มันคืออะไรที่แย่มาก ๆ สำหรับผมเลยครับ เพราะเราสองคนก็จ่ายมาแพงในระดับนึงเพื่อให้ทริปนี้เป็นทริปฉลองครับ"
- ผมแจ้งกับทางพนักงานไปว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะยินดีไหมหากได้เงิน 1,500 แลกกับการที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ มันไม่ใช่ความผิดอะไรของผมเลยแต่ผมเสียเวลามาคุยแก้ปัญหา เพราะทางคุณไม่มีพนักงานดูแลตรงท่าเรือ และ ปล่อยให้เรืออื่น ๆ มาจอดตรงท่าเรือโดยไม่ตรวจสอบก่อน
- จบเรื่องหลังจากคุยไป 1 ชม. กว่า ๆ ผมกับแฟนก็กลับมาห้องพักและนอนไม่หลับเลยจากเห็นการณ์ที่เกิดขึ้น เราไปเบียดเบียนลุงไหมนะ ? เขาก็เหนื่อยแถมเสียน้ำมันอีก หรือ เราใจร้ายกับน้องพนักงานไปไหมที่ไปพูดแรง ๆ ใส่ วนไปวนมาเลยครับทั้งคืน
"ณ ตอนนี้คือผมโมโหตรงผมคิดว่าผมไม่ได้พักผ่อนเลยจากการมาเที่ยวครั้งนี้ ไม่ว่าจะการรบกวนจากน้อง ๆ หรือการจัดการปัญหาตรงนี้ของทางโรงแรม รวมถึงความเหนื่อยของทั้งสองวัน และความเหนื่อยจากการนั่งเรือนาน ๆ โดยไม่มีน้ำและอาหารทานเลย
ป.ล. ผมให้เงินลุงนะครับถือว่าช่วยกันแต่ผมให้แค่ค่าน้ำมัน โดยการโอนให้หลังจากจบเรื่อง
ป.ล.2 ผมโพสต์เพราะผมคิดว่าการจัดการปัญหาเรื่องเรือกับการเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยวมันอาจเกิดขึ้นได้อีก ทางโรงแรมจะได้เอาเคสผมเป็นตัวอย่างในการจัดการก่อนเกิดปัญหา
ป.ล. 3 หากมีโอกาสคราวหน้าผมจะแวะมาอีกเพราะยังไงที่นี่อากาศก็ดีจริง พนักงานก็ดูแลดียิ้มแย้มแจ่มใส ถ้าหากไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น"
ต่อมาเจ้าของเรื่องได้อัปเดตว่าตนได้คุยกับทางผู้จัดการของโรงแรมแล้ว ซึ่งทางโรงแรมก็เห็นว่าสิ่งที่ตนเจอนั้นหนักจริง ๆ มีการขอโทษแบบนั่งคุยกัน โดยทางโรงแรมให้ตนกินอาหารฟรีตั้งแต่วันที่เข้าพัก เป็นการตอบแทนที่ตนไม่ได้กินอาหารทั้งวัน ส่วนเรื่องที่จะให้ตนกลับไปพักนั้น ตนขอให้ความเครียดนี้หายไปก่อนค่อยว่าอีกทีทีหลัง
ขอบคุณข้อมูลจาก:ข่าวทั่วไป