หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

พังผืด ใต้ผิวหลัง กดสิว (มีวิธีรักษาได้)

เนื้อหาโดย Chidon Variety Blog

พังผืด ใต้ผิวหลัง กดสิว 

หลุมสิว เกิดจากอะไร?

รู้ทันสาเหตุและวิธีการรักษา ฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาเรียบเนียนจากแผล หลุมสิว

‘สิว’เป็นสภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับผิวหนังได้ โดยเฉพาะใบหน้า เมื่อเกิดแล้วก็หายไป โดยอาจทิ้งรอยรอยไว้เป็นแผลเป็นรอยแดง รอยดำที่คอยกวนใจทุกครั้งเมื่อส่องกระจก   โดยเฉพาะ หลุมสิว ที่หายยาก ดังนั้นเมื่อสิวขึ้นทุกครั้ง เราจะต้องดูแลรักษาสิวให้หายอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด หลุมสิว ตามมา

สาเหตุหลุมสิว

หลุมสิวเป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายหลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ โดยส่วนมากถ้าการอักเสบหรือบาดเจ็บเกิดแค่ผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผลที่ยุบตัวให้เห็น แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะสร้างพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเอง

ดังนั้นหากไม่อยากเป็นหลุมสิว ก็ต้องดูแลรักษาสิวอย่างถูกวิธี  ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่มีวิธีที่ป้องกันการเกิดหลุมสิวได้ 100% แต่อย่างน้อยก็มีวิธีที่ช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้ โดยการดูแลตัวเองก่อนสิวอักเสบลุกลาม

 

วิธีลดการเกิดหลุมสิว

 

วิธีการที่ดีที่สุดในการลดการเกิดหลุมสิวคือ รีบรักษาสิวทันทีที่สิวเริ่มขึ้น โดยการทายากลุ่มรักษาสิว ถ้าหากทาแล้วไม่ดีขึ้น หรือสิวอักเสบมีขนาดใหญ่มากควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้สิวอักเสบยิ่งแย่ลง เพราะยิ่งสิวอักเสบเม็ดใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทิ้งหลุมสิวมากขึ้น ดังนั้น ห้ามแกะ บีบ หรือขัดถูใบหน้าแรงๆ เมื่อเป็นสิวเด็ดขาด เพราะการบีบเค้นทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น อาจลงไปในชั้นผิวที่ลึกขึ้น และกระบวนการสมานแผลของร่างกายจะใช้เวลานานขึ้น เกิดพังผืดมากขึ้น ก็จะกลายเป็นแผลเป็นหรือหลุมสิวถาวรได้เลย

 

ห้ามแกะสะเก็ด หลังจากหัวสิวหลุดแล้ว บางครั้งผิวหนังจะเริ่มสร้างสะเก็ดแผลขึ้นมา สิ่งที่ควรทำในช่วงนี้คือ ไม่ควรแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด เพราะสะเก็ดที่ยังไม่หลุดหมายความว่ากระบวนการสมานแผลยังไม่เสร็จสิ้น การแกะสะเก็ดทำให้กระบวนการรักษาถูกยืดออกไป การสร้างพังผืดก็จะมากขึ้น ทำให้เกิดการดึงรั้งของผิวหนังเป็นรอยหลุมสิว

 

ในผู้ที่เป็นสิวเม็ดใหญ่และลุกลามเป็นพื้นที่กว้าง มีแนวโน้มที่จะเป็นรอยหลุมสิวมากกว่าคนที่มีสิวน้อยกว่า ดังนั้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง

 

ยังมีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินยา ทายา หรือการฉีดสิวว่าไม่ควรทำเมื่อเป็นสิว เพราะว่ากลัวจะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาสิว  แต่คุณหมอได้ให้คำแนะนำไว้ว่า หากเป็นสิวรุนแรงและขาดการรักษาจะส่งผลให้เกิดทั้งรอยดำ รอยหลุมสิว หรือในบางกรณีก็เป็นแผลเป็นนูน  แผลเป็นเหล่านี้รักษาได้ยากกว่าและมีค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าการรักษาสิวก่อนเกิดแผลเสียอีก

 

วิธีรักษาหลุมสิว

 

หากเกิดหลุมสิวขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาหลุมสิวให้ดีขึ้นได้ อาจไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ช่วยให้รอยหลุมสิวตื้นขึ้น

 

Alpha hydroxyl acids (AHAs)

 

วิธีนี้หลายๆ คนเรียกว่า ‘การใช้กรดผลไม้’ ซึ่งมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การอุดตันของรูขุมขน และทำให้รอยหลุมสิวดูจางลงได้ แต่เราควรเลือกใช้ความเข้มข้นให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า แต่หากผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งก็ไม่ควรใช้นะคะ

 

Lactic acid การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดแลกติก

 

วิธีนี้ต้องทำทุก 2 สัปดาห์ สามารถช่วยรอยหลุมสิวให้ตื้นขึ้น รอยดำสิวจางลง แต่วิธีการนี้ควรให้คุณหมอเป็นผู้ทำให้จะดีกว่า เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

 

การใช้ยากลุ่มRetinoid

 

วิธีนี้เป็นการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวดูเรียบขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้รอยดำจากสิวดูจางลง แต่ก็มีความระคายเคืองเช่นกัน จึงไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย และยามีความไวต่อแสงจึงทาได้เฉพาะช่วงกลางคืน และต้องทาครีมกันแดดในเวลากลางวันด้วย

 

การรักษาด้วยกรดซาลิซีลิก (Salicylic)

 

วิธีนี้เป็นการรักษาที่ดีมากวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ การแต้มกรดซาลิซีลิกเฉพาะจุด เป็นการกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่บริเวณนั้น จะช่วยให้หลุมสิวบริเวณนั้นตื้นขึ้น ในคนที่มีหลุมสิวลึกวิธีนี้ค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีเลย

 

Microdermabrasion

 

เป็นการใช้เครื่องมือในการผลัดเซลล์ผิวให้ลงในชั้นลึกขึ้น หลายคนรู้จักกันว่าคือ การกรอหน้า วิธีนี้จะได้ผลดีกับกรณีที่เป็นหลุมสิวตื้น แต่ไม่ได้ผลในคนที่มีหลุมสิวลึก หลังทำอาจมีอาการแสบเล็กน้อยและหน้าแดง จะใช้เวลา 1-2 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผล

เนื้อหาโดย: DiY News
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Chidon Variety Blog's profile


โพสท์โดย: Chidon Variety Blog
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นจีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกสูตรคำนวณงวด 2/1/69กัมพูชา ยอมรับความฝ่ายแพ้ไม่ได้ สร้างภาพ AI ปลอม บิดเบือนความจริง"ปูติน" ให้สัมภาษณ์สื่อ "กำลังอินเลิฟ"..สื่อผู้ดีขุดคุ้ยทันทีสาวคนนี้เธอเป็นใคร ?กินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรคสาวไทยปากแจ๋ว! ซัดสื่อไทยปล่อยข่าวเว่อร์..เธออยู่ปอยเปตก็ปกติดี ไม่โดนจับเป็นตัวประกัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"วัดสังกระต่าย" มหัศจรรย์ต้นโพธิ์ล้อมโบสถ์ 400 ปี วัดสวย ประจำจังหวัดอ่างทองกินตามใจปาก เสี่ยงสารพัดโรคอึ้งกันทุกคนพิพิธภัณฑ์ เก็บเรื่องราวความเป็นไทยกัมพูชา ยอมรับความฝ่ายแพ้ไม่ได้ สร้างภาพ AI ปลอม บิดเบือนความจริงจีนส่งสัญญาณเงียบหวังไทย–กัมพูชายุติการรบ"ปูติน" ให้สัมภาษณ์สื่อ "กำลังอินเลิฟ"..สื่อผู้ดีขุดคุ้ยทันทีสาวคนนี้เธอเป็นใคร ?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระดี สาระเด็ด
11 วิธีป้องกัน ไม่ให้ สัตว์ และ แมลง เข้าบ้านช่วงหน้าฝนการดื่มน้ำบ่อยๆทำให้ผิวชุ่มชื้นจริงไหมสัญชาติ Nationality - ตัวย่อ ของสัญชาติต่างๆ ทั่วโลกการดูแลสุขภาพองค์รวม (Holistic Health) คืออะไร?
ตั้งกระทู้ใหม่