"พริกแกงน้ำยากะทิ"แจก 2 สูตร โขลกสดๆพร้อมแกงได้เลย
ขนมจีน และ น้ำยากะทิ
เป็นอาหารไทยจานเดียวประเภทเส้น
ซึ่งจะรับประทานพร้อมกับผักสดๆ แนม
เอกลักษณ์สำคัญคือ น้ำยากะทิ ต้อง
หอม มัน กลมกล่อม กินจนขนมจีนหมดเข่ง
วันนี้จะมาแนะนำสูตร"พริกแกงน้ำยา"
ให้ 2 สูตร เป็นสูตรที่ได้มาจากคุณย่า
สอนให้ผม โขลกพริกแกงเอง ตั้งแต่ 7 ขวบ
ซึ่งปัจจุบัน รสชาติน้ำยา ที่คุ้นเคยเริ่มหาย
จึงได้ นำมาอนุรักษ์ และ ให้ทกคนเอาไป
ต่อยอดทำมาหากินนะครับ
( พริกแกงน้ำยา สูตร 1 ) ประกอบด้วย
1.ตะไคร้ 2.หอมแดง อย่างล่ะ ครึ่งถ้วย
หั่นให้บางลง หรือ เล็กลงเพื่อให้โขลก
ละเอียดง่าย
3.กระเทียมไทย 1/4 ถ้วย
4.ข่า 3 แว่น ประมาณเท่าเหรียญบาท
หั่นเล็กๆ เพื่อให้สะดวก โขลกละเอียดง่าย
5.ผิวมะกรูด 1 ลูก หรือ 1 ช้อนโต๊ะ
เช่นกัน หั่นเล็กๆ โขลกง่าย
6.กระชาย 2 ถ้วย (ดึงใส่ในออกเพราะขม)
หั่นท่อนเล็กๆ เพื่อให้โขลกง่าย
7.พริกชี้ฟ้าแห้งต้มจนนิ่ม 12 เม็ด
หั่นท่อนเล็ก เช่นกัน ต้มแล้วหั่นก็ได้
8.กะปิเคย 1 ช้อนโต๊ะ
9.พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
10.ปลาอินทรีย์ปิ้งให้กินหอม หรือ ทอด
2 ชิ้น แกะแต่เนื้อ
11.เนื้อปลานิลต้ม หรือ ปลาทับทิมต้ม
หรือ ปลาช่อนต้ม หรือ กุ้งต้ม 100 กรัม
หรือ ถ้าชอบข้นมากก็ใส่เยอะได้เลย
ใส่ตามไปโขลกกับพริกแกงเพื่อให้ข้น
12.เกลือป่น หยิบมือ
13.น้ำตาลปี๊บ ใส่ เพื่อแก้รสปร่าของ
สมุนไพรที่ใส่ลงไป ลดขมได้เท่านั้น
.....โขลกได้เลย จบสูตรที่ 1.....
( พริกแกงน้ำยา สูตร 2 ) ภูมิใจนำเสนอ
1.พริกชี้ฟ้าแห้ง หรือ เราเรียก
พริกแห้งเม็ดใหญ่ ต้มจนนิ่ม 22 เม็ด
2.พริกขี้หนูแห้ง พริกแห้งเม็ดเล็ก 12 เม็ด
3.หองแดง 3-4 หัว ซอยให้โขลกง่ายขึ้น
4.กระเทียม 5 หัว แกะเป็นกลีบปอกเปลือก
5.ข่า 1 ช้อนโต๊ะ 6.ผิวมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
7.กะปิเคยสีดำ หรือ บางบ้านเรียก
กะปิโคลน ทำจากปลา หรือ ถ้าไม่มี
กะปิเคยตาดำ ก็พอได้ 2 ช้อนโต๊ะ
( สูตรนี้ กะปินัวหน่อยจะหอม )
8.เนื้อปลาต้ม 1 ตัว ปลานิล ปลาช่อน
ปลาทับทิม หรือ รวมกันก็ได้ ต้มกับ
หัวกระชาย พริกแห้ง ลงไปสักหน่อย
ดับคาวปลาได้ดี แกะเนื้อ โขลกต่างหาก
หลังจากโขลกพริกแกงแล้ว ค่อยโขลก
เนื้อปลา เป็นการล้างครก มีเศษพริกแกง
ติดครก (เสียดายสมุนไพรทั้งนั้น)
9.กระชาย 500 กรัม ครึ่งโล ล้างให้
สะอาด ด้วยเกลือ จนหมดดิน
แกะเนื้อกระชาย เอาไส้ข้างในออก
จะเป็นเส้นๆ ตรงกลาง จะขม เอาออก
เอาแต่เนื้อ นะ แยกไว้ ปั่นกับหางกะทิ
ใส่โถปั่นจนละเอียด เลยนะ
10.น้ำปลาร้าต้ม 1-2 กระบวย
ซื้อปลาร้าจากตลาด ต้มใส่หอมแดง
ตะไคร้หน่อย ต้มแล้วกรองเอาแต่น้ำ
ใส่ตอนแกง จะทำให้ น้ำยานัวหอมชวนกิน
...............( จบสูตรที่ 2 )..............
ขั้นตอนการทำ " น้ำยากะทิ " สูตรคูณย่า
1.เคี่ยวกะทิจนแตกมัน ใส่พริกแกงลงผัด
จนหอม ส่งกลิ่นยั่วยวลใจ
2.ใส่เนื้อปลาที่โขลกจนฟู ลงไปผัดกับ
พริกแกงจนหอม หรือ เนื้อไก่ต้มโขลกก็ได้
3.เติมหัวกะทิที่เหลือ ขยักไว้ตอนท้ายนิดนึง
ใช้กะทิ 1 โล ( หัว 1 โล หาง 1 โล )
4.ใส่หางกะทิ ที่ปั่นกับกระชายลงไป
คนให้เข้ากัน รอเดือด ชิมรสชาติ
5.เติมน้ำปลาร้าต้ม ลงไป 1-2กระบวย
ถ้าไม่นัวเพิ่มได้
6.ชิมรสชาติ เค็ม ตามด้วย หวานจากกะทิ
หอมนหัวปลาร้า รสชาติกลมกล่อมแล้ว
เคี่ยวจนเดือด น้ำยาจะส่งกลิ่นหอมจรุง
ไปทั่วบ้าน เลย ปิดไฟ รอเสิร์ฟ
รับประทานกับขนมจีน ผักสด ตามชอบ
(....เคล็ดลับให้กะทิมัน....)
คั้น และ ปั่น กะทิ กระตุ้นน้ำมันมะพร้าว
ออกมา หรือ ให้ที่ปั่นเค้ก สำหรับมือ
ปั่นหัวกะทิ ให้ฟู แตกมัน จะมัันขึ้น
เวลาแกง จะ หอมมันเนียน ขึ้นด้วย
(....กรณีกะทิกล่อง....)
อย่าพึ่งเขย่าขวด หัวกะทิมันจะอยู่ด้านบน
ผัดเครื่องแกงจะแตกมันไว
....................จบ.....................