บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายรองเท้า
By Natdanai Siammai
รองเท้าเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ขายดิบขายดีไม่แพ้สินค้าชนิดอื่น ด้วยรุ่นหรือโมเดลใหม่ๆ สวยๆ ที่ผลิตออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ รองรับความต้องการของลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ก็มีรองเท้ามากมายหลายประเภทขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ซื้อ เช่น รองเท้ากีฬา รองเท้าเดินป่าเดินเขา รองเท้าคัชชู เป็นต้น
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายรองเท้า กล่าวถึงการสนทนาระหว่างพนักงานร้านขายรองเท้ากับลูกค้า ซึ่งในตอนแรกลูกค้าต้องการดูรองเท้าคู่สีน้ำเงิน แต่แล้วเขาขอลองใส่รองเท้าบู๊ทและตัดสินใจซื้อไปในที่สุด ดูบทสนทนาภาษาอังกฤษเรื่องนี้ของพวกเขาได้ดังต่อไปนี้ครับ
บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ร้านขายรองเท้า
พนักงาน Good afternoon, sir. Can I help you?
กุด อาฟเตอร์นูน เซอรฺ แคน ไอ เฮลพฺ ยู ?
(สวัสดีครับคุณผู้ชาย มีอะไรให้ผมรับใช้บ้างครับ?)
ลูกค้า May I see the blue shoes, please?
เมยฺ ไอ ซี เดอะ บลู ชูสฺ พลีส?
(ผมขอดูรองเท้าคู่สีน้ำเงินหน่อยได้ไหมครับ?)
พนักงาน Yes, absolutely sir. Do you like it, don’t you?
เย็ส แอ็บโซลูทลิ เซอรฺ ดู ยู ไลคฺ อิท โดนทฺ ยู?
(ได้สิครับ คุณผู้ชายชอบใช่ไหมครับ?)
ลูกค้า Yes, but I would like to try that black boots.
เย็ส บัท ไอ วุด ไลคฺ ทู ไทรยฺ แด็ท แบล็ค บูทสฺ
(ใช่ครับ แต่ผมอยากลองใส่รองเท้าบู๊ทสีดำนั้นหน่อย)
พนักงาน What size would you like, sir?
ว็อท ไซซฺ วุด ยู ไลคฺ เซอรฺ?
(คุณผู้ชายใส่เบอร์อะไรครับ?)
ลูกค้า I am not sure. Maybe 9 or 10 inches.
ไอ แอม น็อท ชัวรฺ เมยฺบี ไนนฺ ออรฺ เทน อินชิซ
(ผมไม่แน่ใจครับ อาจจะเบอร์เก้าหรือเบอร์สิบนี่แหละ)
พนักงาน Here they are. They are both 9 and 10 inches, sir.
เฮียรฺ เดยฺ อารฺ เดยฺ อารฺ โบดฬฺ ไนนฺ แอนดฺ เทน อินชิซ เซอรฺ
(นี่ครับคุณผู้ชาย มีทั้งเบอร์ 9 และเบอร์ 10 เลยครับ)
ลูกค้า The 9 is too tight, but the 10 is OK.
เดอะ ไนนฺ อิซ ทู ไททฺ บัท เดอะ เทน อิซ โอเค
(เบอร์ 9 คับเกินไปแต่เบอร์ 10 ใส่ได้พอดีครับ)
I take the 10.
ไอ เทค เดอะ เทน
(ตกลงผมเอาเบอร์ 10 ครับ)
How much does it cost?
ฮาว มัช ดัดซฺ อิท คอสทฺ?
(เท่าไหร่ครับ?)
พนังงาน 1,500 Baht, sir.
วัน เทาเซินดฺ ไฟฟฺว ฮันเดร็ด บาท เซอรฺ
(1,500 บาทครับคุณผู้ชาย)
Would you like to pay in cash or by credit card, sir?
วุด ยู ไลคฺ ทู เพยฺ อิน แค็ช ออรฺ ไบยฺ เครดิต การฺด เซอรฺ?้
(จะสะดวกจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีครับคุณผู้ชาย?)
ลูกค้า I prefer to pay by credit card. Here it is.
ไอ พริเฟอรฺ ทู เพยฺ ไบยฺ เครดิต การฺด เฮียรฺ อิท อิซ
(ผมขอจ่ายด้วยบัตรเครดิตครับ นี่ครับ)
พนักงาน Thank you very much sir. Wait a moment please.
แธงคฺ กิว เวริ มัช เซอรฺ เว็ท อะ โมเมนทฺ พลีส
(ขอบคุณมากครับคุณผู้ชาย รอสักครู่นะครับ)
เทคนิคการพูดคุยและการบริการลูกค้า
1 เริ่มด้วยการทักทายง่ายๆ ธรรมดาๆ ตามแต่ละเวลา แต่ทรงประสิทธิภาพ (Good morning. Good afternoon. Good evening. Can I help you? May I help you? What can I do for you? กล่าวคือ ถ้าเราทักทายลูกค้าในช่วงจังหวะและด้วยท่าทีที่เหมาะสมแสดงถึงเรามีความตั้งใจ จริงใจ และเอาใจใส่ต่อลูกค้า สามารถสร้างความประทับใจในแรกพบได้ หากเป็นการทักทายด้วยความจริงใจ ใส่ใจ เป็นห่วง อยากบริการด้วยใจ แต่อย่าไปถามเร่งรีบหรือเร่งรัดให้ลูกค้าต้องพูดตอบหรือตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งจนเขารู้สึกอึดอัดจนเดินหนีไปเลยหลังจากที่เราพูดคุยด้วย คำพูดแรก ลักษณะท่างทาง การแสดงออกครั้งแรกจึงสำคัญมากสำหรับพนักงานขาย
2 ควรจะมีคำต่อท้ายที่แสดงถึงการให้เกียรติ นับถือลูกค้า ถ้าผู้ชายก็ใช้คำว่า sir หรือ mister = คุณผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ madam = คุณผู้หญิง การเรียกคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายเวลาพูดคุยให้บริการลูกค้าจะทำให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจ ดีใจ อิ่มอกอิ่มใจทำให้ลูกค้ามีความสนใจและตั้งใจฟังสิ่งที่เราเสนอมากขึ้น และไม่เร่งรีบเดินออกจากร้านเราไปก่อนที่จะซื้อสินค้า ซึ่งต่างกับการพูดที่ไม่มีคำดังกล่าวอยู่เลย
3 ลูกค้าอาจอยากดูสินค้าอย่างหนึ่งแต่ความต้องการจริงๆ อาจเป็นอีกอย่างก็ได้ ดังนั้นให้เราเตรียมพร้อมบริการสินค้าทุกอย่างที่มีในร้าน
4 สำหรับร้านขายรองเท้าควรมีที่วัดเท้าไว้ประจำในร้าน ถึงแม้ลูกค้าจะรู้ว่าเขาใส่ไซซ์อะไรก็ควรขออนุญาติวัดเท้าของลูกค้าเพื่อความแน่นอนและการบริการที่รวดเร็วเป็นมืออาชีพ เพราะเบอร์รองเท้ามีหลายแบบที่ใช้กัน เช่น แบบ อเมริกัน แบบอังกฤษ แบบยุโรป เป็นต้น และบางทีลูกค้าอาจจำเบอร์รองเท้าของเขาเองคลาดเคลื่อนก็เป็นได้
5 การเผื่อเหลือเผื่อขาดก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานขาย เพราะจะอำนวยความสะดวกรวดเร็วทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย กล่าวคือผู้ขายก็ไม่ต้องเดินไปเดินมาหลายรอบ ส่วนผู้ซื้อก็ไม่ต้องรอนานเกินไป เช่น ถ้าลูกค้าต้องการลองรองเท้าเบอร์ 9 พนักงานขายควรนำรองเท้าที่เล็กและใหญ่กว่านั้นสักหนึ่งเบอร์มาด้วย ในกรณีนี้ให้นำเบอร์ 8 และเบอร์ 10 มาพร้อมกันเลย เพราะบางทีเบอร์เก้าอาจใส่ได้ไม่พอดีเท้าก็เป็นได้
6 เมื่อลูกค้าลองสินค้าจนพอใจและตกลงซื้อสินค้าแล้วลูกค้ามักจะพูดว่า I take this = ผมเอาคู่นี้ หรือผมซื้อคู่นี้ ตอนนี้หากลูกค้าทราบราคาแล้วก็ให้เราสอบถามวิธีที่เขาจะสะดวกจ่ายเงินและปิดการขายได้เลย ไม่ต้องดูท่าทีลูกค้าเหมือนตอนที่ทักทายตอนแรกแล้ว ความสะดวกรวดเร็วในการบริการเมื่อปิดการขายก็สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้เช่นกัน เพราะเมื่อเสร็จจากการซื้อสินค้ากับเราแล้วลูกค้ามักจะรีบไปทำธุระอย่างอื่นต่อ
ที่มา https://speakingenglishone.blogspot.com/2015/06/blog-post.html