ตำนานน่าขนลุกของแต่ละเมืองในเกาหลี
ทุกพื้นที่มีเรื่องเล่าและตำนาน โดยแต่ละพื้นที่ในเกาหลีก็มีเรื่องเล่าสยองขวัญเหมือนกันค่ะ สมัยก่อนที่เกาหลีมีหนังสือชื่อว่า "무서운 게 딱! 좋아"
ซึ่งเป็นหนังสือการ์ตูนรวมเรื่องผีราคา 500 วอน ถือเป็นไอเทมยอดฮิตของเด็กเกาหลีตอนนั้นเลยค่ะ
วันนี้เราจะมาดูเรื่องเล่ายอดนินมของแต่ละพื้นที่ในเกาหลีกันดีกว่าค่ะ จะมีเรื่องไหนที่น่าสยองบ้างนะ?
ตำนานน่าขนลุกของแต่ละเมืองในเกาหลี
หนังสือการ์ตูน "무서운 게 딱! 좋아" ราคา 500 วอน
ผีชายูโร (자유로 귀신)
ชายูโร (자유로) ป็นทางหลวงที่เชื่อมต่อโซลไปยังพาจู จังหวัดคยองกี
โดยมีข่าวลือเริ่มแพร่กระจายว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่กลางถนนตามทางด่วนในตอนกลางคืน
และพยานหลายคนเล่าว่าผู้หญิงคนนั้นสวมแว่นกันแดด ที่จริงแล้วถ้ามองดีๆ มันไม่ใช่แว่นกันแดด แต่เป็นหลุมดำที่ขุดตรงที่ตาค่ะ
แม้แต่ดาราเกาหลีอย่างพัค ชินฮเย, พัค ฮีจินและทัค แจฮุน
ก็บอกว่าพวกเขาเคยเห็นผู้หญิงแบบนี้ผ่านทางรายการทีวี
ดังนั้นมันจึงกลายเป็นหัวข้อใหญ่ของคนเกาหลี ว่ากันว่าผีจะยืนบนทางหลวงและโบกรถเพื่อขอขึ้นรถค่ะ
เมื่อสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ tvN เรียกหมอผีและถามเกี่ยวกับวิญญาณตนนี้
เขาอธิบายว่าวิญญาณนี้เป็นผู้หญิงอายุ 20 ปีซึ่งถูกรัดคอและถูกฆ่าตายในบริเวณใกล้เคียงค่ะ
ทางด่วนมีหมอกหนาและมืดมาก เพราะจากชายูโรผ่านใกล้แม่น้ำฮันและสวนริมทะเลสาบอิลซาน
นอกจากนี้ยังมีข้อโต้แย้งว่าเรื่องผีนั้นเกิดจาดภาพลวงตาเพราะมันมืดมากๆค่ะ แต่อย่างที่หลายๆ
คนบอกว่าพวกเขาเคยเห็น ก็คงยากที่จะมองข้ามว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นใช่ไหมคะ?
ใครอยากรู้ว่าผีชายูโร หน้าตาเป็นแบบไหน คลิก เลยค่ะ
ผีหน้ากากแดง (빨간 마스크)
เรื่องผีหน้ากากแดงดังมากในเกาหลีเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ประมาณ 15 ปีที่แล้ว ตอนที่อยู่โรงเรียนประถมไม่มีเด็กในโรงเรียนประถมคนไหนที่ไม่รู้จักผีหน้ากากแดง! ว่ากันว่าเรื่องนี้เริ่มต้นในญี่ปุ่น มาถึงเกาหลี และตอนนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกค่ะ
เรื่องผีหน้ากากแดงคือ ผู้หญิงสวมหน้ากากสีแดงเข้ามาใกล้และถามว่า "ฉันสวยไหม" ถ้าคุณตอบว่า "สวย" ผู้หญิงคนนั้นก็ถอดหน้ากากออกและปากของเธอถูกฉีกจนสุดใบหู จากนั้นก็จะพูดว่า "ฉันจะทำเช่นเดียวกันกับเธอ~" แล้วฉีกปากของคนคนนั้นลงไปที่หูเลยค่ะ
ในประเทศเกาหลี เรื่องเล่าของผีหน้ากากแดงได้พัฒนาเป็นหลายเวอร์ชั่นและข่าวลือก็แพร่กระจายออกไปค่ะ
อย่างแรกมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความยาวของปากที่ฉีกแตกต่างกันไปตามกรุ๊ปเลือด โดยเลือดกรุ๊ป A จะมีปากฉีกเล็กน้อย, กรุ๊ป B ปากฉีกมากขึ้นเล็กน้อย, กรุ๊ป AB มีปากฉีกเท่ากับมุมปากเวลายิ้มและกรุ๊ป O จะฉีกไปจน สุดใบหน้าค่ะ (โชคดีที่เรากรุ๊ป A )
อย่างที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับผีสวมหน้ากากหลากสีสันและหน้ากากสีแดง หน้ากากที่มีสีต่างกันเช่น หน้ากากสีน้ำเงินเป็นผู้ชายที่ฉีกปากในแนวตั้งแทนแนวนอน, หน้ากากสีขาว,หน้ากากสีแดง, หน้ากากสีเหลืองที่หายใจไม่ออกด้วยกลิ่นปาก และหน้ากากดำที่ติดตามเพื่อฆ่าหน้ากากแดงค่ะ
ผีแต่ละตัวมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักเรียนชั้นประถมในตอนนั้นจึงจำวิธีการเอาตัวรอดในการเจอผีหน้ากากแต่ละตัว! เรื่องราวที่โด่งดังที่สุดก็คือ ถ้าเจอคนสวมหน้ากากสีแดง ต้องวิ่งหนีไปที่อาคารที่มีมากกว่าสองชั้นหรือวิ่งไปด้านข้างของสุนัขเพื่อเอาชีวิตรอด แน่นอนว่าตอนนี้เป็นยุคโควิด คงไม่แปลกถ้าจะเจอคนใส่หน้ากากแดงค่ะ🤭
ใครที่อยากเรื่องของผีหน้ากากแดงว่าจะสยองแค่ไหนก็
ผีคุณปู่แบกตะกร้าสาน (망태기 할아버지) เหมือนกับซานตาคอสที่แบกถุงตลอด แต่น่ากลัวสำหรับเด็กเกาหลีมากค่ะ
พบกับเรื่องของผีคงคงคงคลิก ที่นี่เลยค่ะ
ผีรูปปั้นโรงเรียน หรือ ผีภาพเหมือน
นอกจากเรื่องผีคงคงคง นี่เป็นเรื่องผีที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนอีกเรื่อง รูปปั้นมักจะถูกสร้างขึ้นในบริเวณโรงเรียนในเกาหลีซึ่งถูกสร้างขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว ตัวอย่างทั่วไปเช่น รูปปั้นของพลเรือเอกอี ซุนชิน, รูปปั้นพระราชาเซจงและรูปปั้นยู กวอนซุนค่ะ
ตำนานที่แพร่หลายที่สุดที่รูปปั้นเหล่านี้เคลื่อนไหวประมาณ 12.00 น. แต่ละโรงเรียนมีเวอร์ชันที่แตกต่างกัน เรื่องราวที่พบบ่อยที่สุดคือ เสียงร้องไห้, เลือดและการวิ่งไปรอบโรงเรียน และมีเรื่องราวมากมายที่ใครเห็นก็ต้องตายค่ะ
โรงเรียนที่ไม่มีรูปปั้น ก็จะมีภาพเหมือนที่เคลื่อนไหว! เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาพเหมือนที่แขวนอยู่ในโรงเรียน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ภาพจะเคลื่อนไหวและเมื่อมีนักเรียนสบตาพวกเขาก็ตายค่ะ
บุนชินซาบา (분신사바)
บุนชินซาบา เป็นเวทมนตร์ที่เรียกผีจากญี่ปุ่นและยังแพร่หลายในเกาหลีอีกด้วย มีเพียงสองสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อเรียกปีศาจคือ กระดาษสีขาวและปากกา! ไม่สำคัญว่าจะเป็นดินสอ, ปากกาลูกลื่นหรือดินสอสี แต่คนมักจะชอบสีแดงมากกว่าค่ะ
หลังจากวาด O และ X บนกระดาษสีขาว และถือปากกาพร้อมท่องจำคาถา ผีก็จะมาหาตัวอย่างเช่น ถ้าถามว่า "คุณผีบุนชินซาบามาหรือยัง?" ถ้าปากกาขยับไปที่ O แสดงว่าผีมาแล้ว!
ถ้าต้องการเลิกเล่นก็ต้องถามว่า "คุณผีจะพอแล้วหรือยัง" ถ้าปากกาขยับไปที่ O แสดงว่าจบเกม แต่ถ้าเลิกเล่นเองว่ากันว่าจะโดนผีเข้าค่ะ!
ถือเป็นเกมสยองขวัญที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนถึงขนาดที่นักเรียนเกาหลีส่วนใหญ่ต้องเคยมีประสบการณ์แน่นอน และในปี 2004 ก็มีภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างจากบุนชิซาบาออกฉายด้วยค่ะ
ผีกระดาษชำระสีแดง, สีฟ้า
เรื่องนี้เป็นเรื่องผีที่มีชื่อเสียงทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น เมื่อ 2-3 ทศวรรษก่อน เป็นเรื่องเกี่ยวกับส้วมเก่าของเกาหลีที่ว่าขณะทำกิจกรรมในห้องน้ำ จะได้ยินเสียงผีจากด้านล่างถามว่า "จะให้กระดาษชำระสีแดงหรือกระดาษสีน้ำเงินดีนะ ? " กระดาษทิชชู่แต่ละชนิดจะได้ผลลัพท์ที่ต่างกันค่ะ
อย่างแรกคือถ้าเลือกทิชชู่สีแดง "จะตาย" และถ้าเลือกทิชชู่สีน้ำเงิน "จะมีชีวิตอยู่" ค่ะ
อย่างที่สองคือ หากเลือกทิชชู่สีแดง จะถูกตัดออกและทั้งตัวของจะเปียกโชกไปด้วยเลือด และหากเลือกทิชชู่สีน้ำเงิน เลือดทั้งหมดจะถูกดูดและร่างกายจะซีดและตายไป ไม่ว่าจะเลือกอันไหนก็ตายเหมือนกันค่ะ
อย่างสุดท้ายคือที่เกาหลีก็มีข่าวลือว่าถ้าตอบว่า "ฉันไม่ต้องการกระดาษชำระ" หรือถ้าไม่ตอบเลยก็จะมีชีวิตรอดค่ะ ทุกคนเลือกแบบไหนดีคะ ? 🤔
เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับลิฟต์ค่ะ
เมื่อขึ้นลิฟต์มักจะมีกระจกทั้งสองด้าน เพราะมีกระจกทั้งสองด้านจึงมีการภาพสะท้อนไม่สิ้นสุด ดังนั้นจึงสามารถเห็นวัตถุจำนวนไม่สิ้นสุดในกระจก! ผีกระจกลิฟต์เป็นตำนานที่เกิดจากสิ่งนี้ค่ะ
มีผีอยู่ในเงาสะท้อนในกระจกลิฟต์! มีเรื่องราวมากมายที่ร่างที่ 4 หรือ 13 ที่เห็นเป็นผี ว่ากันว่าจะรู้ได้ทันทีว่าภาพไหนคือผีกระจกลิฟต์ เพราะผีกระจกมีภาพลักษณ์ไม่เหมือนในกระจกธรรมดา สามารถเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ และว่ากันว่าถ้าสบตากับผีตัวนั้นก็จะตายค่ะ
ดังนั้นแม้กระทั่งตอนนี้ เวลาขึ้นลิฟต์แล้วส่องกระจก เราก็พยายามมองแต่หน้าตัวเองและไม่ดูเงาสะท้อน ถึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้มากเท่าไหร่แต่เคยได้ยินมาเยอะตั้งแต่ยังเด็กเลยทำให้กลัวอยู่หน่อยๆค่ะ 😂
นี่ก็คือตำนานเรื่องเล่าน่าสยองขวัญของประเทศเกาหลี มีเรื่องไหนน่ากลัวสำหรับทุกคนบ้างคะ? ใครที่ชอบเรื่องไหนมากที่สุดคอมเมนต์บอกกันด้วนนะคะ