เลือกตั้งส.ส.แล้วประเทศชาติ / ประชาชนได้อะไร?!
เลือกตั้งส.ส.แล้วประเทศชาติ / ประชาชนได้อะไร?!
11 กุมภาพันธ์ 2565
จากเหตุการณ์สภาล่ม ในวันที่ 10 ก.พ. 2565 องค์ประชุม 227 คน ไม่ครบกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ที่ปฏิบัติงานอยู่ คือ 237 คน
โดยผลการนับองค์ประชุม ณ เวลา 15.02 น. พบว่ามี ส.ส. “ไม่แสดงตน” ทั้งหมด 247 คน เป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 55 คน ฝ่ายค้าน 192 คน
ถาม “ส.ส. ก้าวไกล” เซลฟี่ หลัง “สภาล่ม” คิดอะไรอยู่???
11 ก.พ. 65 “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” จัดรายการ เจาะลึกทั่วไทย ถาม “ส.ส. ก้าวไกล” เซลฟี่ หลัง “สภาล่ม” คิดอะไรอยู่ “โรม” ชี้เเจง ก้าวไกล ไม่ได้ถ่ายเซลฟี่สนุกสนาน เเต่เป็นเเค่การถ่ายเพื่อ บันทึกประวัติศาสตร์ .. ขอบคุณคลิป รายการเจาะลึกทั่วไทย
Posted by ซึ่งต้องพิสูจน์ on Thursday, February 10, 2022
“ประธานชวน” เปรียบองค์ประชุมสมัยก่อนนับตัวคน ปัจจุบันอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดบัตร “สาทิตย์” ชี้ฝ่ายค้านในอดีต คำนึงถึงเรื่องสำคัญไม่ทำพร่ำเพรื่อ (10 ก.พ. 65) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงหลังจากถูกฝ่ายค้านพาดพิงถึงฝ่ายค้านในอดีตในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลว่าก็มีการนับองค์ประชุมเช่นเดียวกันนั้นว่า ตนก็เคยเป็นฝ่ายค้านมา แต่ฝ่ายค้านในอดีตอย่างพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ จะนับองค์ประชุมต่อเมื่อเป็นเรื่องวาระสำคัญที่ฝ่ายค้าน ซึ่งมีเสียงข้างน้อยจะแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนั้น แล้วถ้าเจอฝั่งรัฐบาลซึ่งไม่รับฟังความเห็นของฝ่ายค้านเลย กระทำเสมือนเป็นเผด็จการรัฐสภา ฝ่ายค้านก็จะใช้มาตรการเช่นนั้น แต่จะไม่ทำพร่ำเพรื่อ ไม่ใช่ทำทุกเรื่อง หรือจ้องหาจังหวะที่จะทำ เพื่อให้สภาล่ม แล้วจะได้เกิดความเสียหายกับสภา ฝ่านค้านในยุคนั้นจะเห็นถึงความสำคัญของสภาว่า มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องของประชาชน ส่วนเรื่องของการทำให้เสียหายนั้น ความจริงบรรยากาศในสภาตอนนั้น ท่านประธานก็อยู่ พวกเราหลายคนก็อยู่ เราจะรู้กันทีเดียวว่า การใช้เสียงข้างมาก ในลักษณะที่เป็นเสียงข้างมากลากไป แล้วเป็นลักษณะของการไม่ฟังเสียงข้างน้อย แม้กระทั่งประชาชนข้างนอกก็รู้สึกเช่นนั้น ตนก็คิดว่าควรให้ข้อเท็จจริงกับสภานี้
“ประธานชวน” เปรียบองค์ประชุมสมัยก่อนนับตัวคน“ประธานชวน” เปรียบองค์ประชุมสมัยก่อนนับตัวคน ปัจจุบันอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดบัตร “สาทิตย์” ชี้ฝ่ายค้านในอดีต คำนึงถึงเรื่องสำคัญไม่ทำพร่ำเพรื่อ (10 ก.พ. 65) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงหลังจากถูกฝ่ายค้านพาดพิงถึงฝ่ายค้านในอดีตในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลว่าก็มีการนับองค์ประชุมเช่นเดียวกันนั้นว่า ตนก็เคยเป็นฝ่ายค้านมา แต่ฝ่ายค้านในอดีตอย่างพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ จะนับองค์ประชุมต่อเมื่อเป็นเรื่องวาระสำคัญที่ฝ่ายค้าน ซึ่งมีเสียงข้างน้อยจะแสดงความเห็นที่ไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนั้น แล้วถ้าเจอฝั่งรัฐบาลซึ่งไม่รับฟังความเห็นของฝ่ายค้านเลย กระทำเสมือนเป็นเผด็จการรัฐสภา ฝ่ายค้านก็จะใช้มาตรการเช่นนั้น แต่จะไม่ทำพร่ำเพรื่อ ไม่ใช่ทำทุกเรื่อง หรือจ้องหาจังหวะที่จะทำ เพื่อให้สภาล่ม แล้วจะได้เกิดความเสียหายกับสภา ฝ่านค้านในยุคนั้นจะเห็นถึงความสำคัญของสภาว่า มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องของประชาชน ส่วนเรื่องของการทำให้เสียหายนั้น ความจริงบรรยากาศในสภาตอนนั้น ท่านประธานก็อยู่ พวกเราหลายคนก็อยู่ เราจะรู้กันทีเดียวว่า การใช้เสียงข้างมาก ในลักษณะที่เป็นเสียงข้างมากลากไป แล้วเป็นลักษณะของการไม่ฟังเสียงข้างน้อย แม้กระทั่งประชาชนข้างนอกก็รู้สึกเช่นนั้น ตนก็คิดว่าควรให้ข้อเท็จจริงกับสภานี้ ส่วนกรณีนับองค์ประชุมนั้น ตนเข้าใจดีว่าเป็น 1 ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 120 ที่พูดถึงจำนวนขององค์ประชุมสภาว่าต้องเกินกึ่งหนึ่ง ส่วนเรื่องการกำหนดวิธีการนับก็เป็นเรื่องของสภา แต่มาตรการฝ่ายค้านในอดีตจะคำนึงถึงเรื่องที่สำคัญแต่จะไม่ทำพร่ำเพรื่อ หลังจากนั้นประธานในที่ประชุม นายชวน หลีกภัย ก็ระบุว่า ตนเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย พอจะรู้ดีว่าการใช้สิทธิ์ดังกล่าวเป็นกรณีที่รัฐบาลกลั่นแกล้ง เช่น เขาไม่ให้พูด มีการเสนอปิดอภิปราย ยกมือก็ไม่ให้พูด สมัยนี้ดีไม่มีเลย และสมัยนี้เป็นสมัยที่เราได้อภิปรายทั่วถึงทุกคน “ทุกคนนะครับ” ซึ่งไม่เคยปรากฎอย่างนี้มาก่อน เพราะเราถือว่าสภาเป็นที่พูด แต่การประท้วง หรือการนับองค์ประชุมนั้น สมัยก่อนก็มี ในกรณีที่เห็นว่ารัฐบาลไปกลั่นแกล้งเขา เขายกมือไม่ให้พูด มีคนเสนอปิดอภิปราย ไม่ใช่ลักษณะอย่างปัจจุบัน ผมทราบดีเรื่องพวกนี้ เช่นเวลานับองค์ประชุม ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ผมก็นั่งในห้องประชุม เพราะองค์ประชุมสมัยนั้นเขานับตัวคน แต่ปัจจุบันกดบัตร อันนี้คือข้อแตกต่างที่ทำให้บางท่านอยู่ในห้องประชุม บางครั้งห้องประชุมนี้ครบ แต่เนื่องจากสมาชิกบางท่านไม่กดบัตร องค์ประชุมก็เลยไม่ครบ ทั้งที่ความจริงแล้วองค์ประชุมครบ ถ้านับตัวบุคคล อันนี้คือข้อเท็จจริง หลังจากนั้นท่านประธานปิดการแสดงตน โดยจำนวนผู้กดบัตรแสดงตน 227 คน ไม่ครบองค์ประชุม ท่าน ประธานจึงสั่งปิดการประชุม ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Twitter: @democratTH Instagram: @Democratparty.th YouTube: พรรคประชาธิปัตย์ Democrat Party, Thailand #ทำได้ไวทำได้จริง #พรรคประชาธิปัตย์ #DemocratPartyTH
Posted by Democrat Party, Thailand พรรคประชาธิปัตย์ on Thursday, February 10, 2022