สุดช็อกมะกัน!! ใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อเอาชนะขาดทุกประเทศ เป็นที่หนึ่งในการส่งออกของโลก
ช่วงวิกฤติราคาหมูแพงในไทย และเคยมีข่าวว่า เนื้อหมู สินค้าที่สหรัฐฯ พยายามกดดันไทยมาตลอดหลายปีให้ไทยเราอนุญาตนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐฯ ในปี 63 นั้น มาดูเรื่องราวสุดช็อก ชำแหละเบื้องหลังอุตสาหกรรมหมูมะกันที่ USTR บังคับไทยซื้อเนื้อสุกร Made in USA
FAO ระบุในในปี 60 ว่า แต่ละปีสหรัฐฯ เลี้ยงหมูไม่ต่ำกว่า 125 ล้านตัว มีการเลี้ยงสุกรรายใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากจีน มีการเลี้ยงหมูไม่ต่ำกว่าปีละ 425.6 ล้านตัว แต่สหรัฐฯกลับครองแชมป์ ส่งออกเนื้อหมู ได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก
รัฐบาลสหรัฐฯจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาตลาดในต่างประเทศ ซื้อผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูของตนให้ได้ เขามองกลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเวทีการเมืองในสหรัฐฯ และมีผลทางการเมือง ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากฐานเสียงที่เป็นเกษตรกรเหล่านี้
และเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลสหรัฐฯในการผลักดันเนื้อหมู “Made in USA” ออกนอกประเทศจึงหนีไม่พ้นจีน และตลาดอื่นๆ ในทวีปเอเชีย รวมถึงไทย เพราะภูมิภาคนี้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีการบริโภคเนื้อหมูมากที่สุดของโลก
หลายปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในเอเชีย ต่างถูกรัฐบาลวอชิงตันกดดันอย่างหนักให้ต้องรับซื้อเนื้อหมูที่แปรรูปจากหมูหลายสายพันธุ์ซึ่งเกษตรกรอเมริกันนิยมเลี้ยง
แต่ที่เลวร้ายที่สุดที่หลายคนคงยังไม่รู้ คือ มีการใช้สารเคมีหลายชนิดในอุตสาหกรรมเลี้ยงหมูของสหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต EPA เคยตรวจพบร่องรอยของสารพิษนานาชนิดในฟาร์มหมูทั่วสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น สารแอมโมเนีย ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ไซยาไนด์ ฟอสฟอรัส สารจำพวกไนเตรทและสารโลหะหนัก รวมถึงการให้ ยาปฏิชีวนะ เกินขนาด อ้างช่วยในการรักษาอาการป่วยและติดเชื้อของหมู
และที่สำคัญอีกอย่างคือ มีการใช้ สารเร่งเนื้อแดง นั่นคือ “อาวุธสำคัญ” ที่ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงหมูของสหรัฐฯชนะขาดทุกประเทศ หมูกินอาหารน้อยลง แต่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหมูที่ใช้สารนี้จะโตเร็วขึ้น 4 วัน โดยใช้อาหารน้อยลงเกือบ 20 กิโลกรัม ทำให้การเลี้ยงหมูของสหรัฐฯมีต้นทุนแค่ 32 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะบ้านเราห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง มีต้นทุนอยู่ที่ กก.ละ 64 บาท
นอกจากการพบสารพิษปนเปื้อนในฟาร์มหมูทั่วสหรัฐฯ แล้ว ยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายกลุ่มที่ยืนยันว่า ปริมาณของเสียซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ที่มีที่มาจากฟาร์มเลี้ยงหมูดัง แห่งเดียวมีปริมาณสูงถึง 26 ล้านตันต่อปี ซึ่งมีปริมาณสารพิษมากพอที่จะถมใส่สนามกีฬาชื่อดังอย่าง “แยงกีส์ สเตเดียม” ในมหานครนิวยอร์กได้ถึง 4 สนามทีเดียว
ด้าน อย. เผย ถึงสารเร่งเนื้อแดง เป็นสารสังเคราะห์ในกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ (Beta-Agonist) มีด้วยกันหลายชนิด เช่น
เคลนบูเทอรอล (Clenbuterol) ซัลบูทามอล (Salbutamol) และแรคโตพามีน (Ractopamine) เป็นต้น ใช้เป็นตัวยาในทางการแพทย์ ช่วยขยายหลอดลมในผู้ป่วยโรคหอบหืดและหลอดลมอักเสบ มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
ถ้าสารดังกล่าวถูกนำไปผสมในอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์ จะกระตุ้นให้มีการใช้พลังงานจากไขมัน ลดการสะสมของไขมัน เพิ่มการสะสมโปรตีนในกล้ามเนื้อ และช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ทำให้มีปริมาณเนื้อแดงเพิ่มมากขึ้น ขายได้ราคาดีกว่า แต่เมื่อคนกินเนื้อแดงที่ปนเปื้อนเข้าไปในปริมาณมากจะทำให้มีอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ บางรายมีอาการเป็นลม มีอาการทางจิตประสาท และเป็นอันตรายมากสำหรับหญิงมีครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และผู้ป่วยโรคไฮเปอร์ไธรอยด์
รับสักจานมั้ยจ๊ะ
อ้างอิงจาก: https://sentientmedia.org/pig-farming/
https://oryor.com/อย/infographic/detail/73/2033
อย.