ข้าวโอ๊ต ไขมันต่ำ ประโยชน์สูงไม่มโน
แม้ว่าเหล่านักทานคลีนจะทราบถึงคุณประโยชน์ที่แท้จริงของธัญพืชชนิดนี้เป็นอย่างดีกัน แต่ก็ยังมีในบางกลุ่มที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองและเปิดใจให้กับธัญพืชอย่างข้าวโอ๊ตจนในเมื่อมาถึงวันนี้ที่จะไม่ยอมละที่จะหยิบยกคุณสมบัติของธัญพืชชนิดนี้ขึ้นมาเป็นสุดยอดธัญพืชที่คุณและใครอีกมากไม่ควรพลาด
ขอปูพื้นให้เห็นภาพเลยละกัน ณ จุดเริ่มต้นของข้าวโอ๊ตเป็นแค่ต้นหญ้าที่ขึ้นแทรกในนาของข้าวบาร์เลย์หรือข้าวสาลี จนได้ถูกดึงมาด้วยและใช้กินเป็นธัญพืชเมื่อนาข่าวข้าวสาลีมีความบริบูรณ์มากขึ้น ข้าวโอ๊ตก็ถูกให้ความสำคัญมากในแถบยุโรปตอนเหนือเท่านั้น อย่างการนำไปเลี้ยงสัตว์ ที่เขาเลือกใช้ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารบอกเลยว่าข้าวโอ๊ตปลูกกันมาในเฉพาะเขตยุโรปตอนเหนือที่สภาพอากาศค่อนข้างหนาวและแทบไม่มีแสงแดดเลย แต่ในปัจจุบันนี้พบว่านิยมนำมารับประทานและนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านปรนิบัติผิวต่าง ๆ ด้วย
ประโยชน์ของข้าวโอ๊ต
นับเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนสูงที่สุดและมีกรดอะมิโนที่ขาดไม่ได้และไม่ได้สร้างเอง ถึง6 ชนิด ซึ่งแป้งในข้าวโอ๊ตเป็นแป้งที่ย่อยได้ง่ายมากๆ จากการที่เขามีสารชนิดหนึ่งที่ไปช่วยในการย่อย และใน 7% ของไขมันทั้งหมดเป็นไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน นอกจากนั้นก็ยังมีคาร์โบไฮเดรต ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ สังกะสี ไฟโตเคมิคอล vitamin C สารยับยั้ง...และNicotinic acid
- ชาวต่างชาติ
- ฝรั่งหรือชาวตะวันตกเขายังคงเลือกรับประทานข้าวโอ๊ตอย่างสม่ำเสมอเพราะข้าวโอ๊ตเป็นอาหารหลักที่รับประทานได้ทั้งเมล็ด และจัดเป็นธัญพืชที่สำคัญอันดับต้นๆรองจากข้าวสาลี
- ข้าวโอ๊ตที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารส่วนใหญ่เป็น Flakes /Rolled Oat มีความสำคัญในการช่วยในการต่อสู้กับสภาพอากาศสมัยก่อนได้เป็นอย่างดีเลย ปัจจุบันผู้ที่รักและรู้จักก็ต่างยกย่องในพละกำลังของธัญพืชชนิดนี้ด้วย
- ข้าวโอ๊ต 100 กรัมจะให้พลังงานทั้งหมด 389 kcal มีโปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, ไฟเบอร์, น้ำ, วิตามินบี1,2,3,6และ9
- ไฟเบอร์จากข้าวโอ๊ต
ไฟเบอร์มีความพิเศษตรงที่ช่วยดูดซึมของเสียในลำไส้ช่วยขจัดของเสียและพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยกากใยอาหารที่เหลือจะทำให้มีปริมาณของเนื้ออุจจาระมากขึ้น มีความคล้ามคลึงกับฟองน้ำที่ช่วยดูดซับน้ำไว้ในตัวอีก โดยเฉพาะรำข้าวโอ๊ตที่สามารถดูดน้ำเข้าไปในตัวได้หลายสิบเท่า นอกจากนี้ก็ยังช่วยเร่งในการขับถ่ายอีกด้วย
ข้าวโอ๊ตกับการกินช่วยลดน้ำาหนักได้ดียังไง?...
ข้าวโอ๊ตมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้สูง มีแคลอรี่ต่ำ พอได้รับประทานเข้าไปจะทำหน้าที่ดูดซึมในช่วงที่อาหารผ่านลงไปในท้อง จะช่วยทำให้รู้สึกว่าเราอิ่มเร็ว กากใยที่มีอยู่จะก่อตัวเป็นเจลและจะค่อยๆซึมซับคาร์โบไฮเดรต ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และมีโปรตีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน
ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนสูงที่สุดตามที่ได้กล่าวเอาไว้ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับถั่วเหลืองและไม่น้อยไปกว่าเนื้อสัตว์ ไข่ และ นม เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะได้ทั้งกากใยและคุณค่าที่ทำหน้าที่ที่ดีต่อร่างกาย เมื่อทำให้รู้สึกว่าอิ่มเร็ว ก็จะทำให้ลดอาการอยากกิน นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่อ้วนนั่นเอง
คนที่แพ้กลูเตนจะทานได้ไหม?...
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตนที่มีอยู่ในข้าวสาลีคุณสามารถทานข้าวโอ๊ตแทนได้โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใดๆเลย
ข้าวโอ๊ตช่วยเพิ่มพลังงานก่อนออกกำลังกายได้จริงหรือ?...
มีคำแนะนำว่าให้รับประทานข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกายประมาณ 2 ชั่วโมงแค่นั้นคุณก็จะได้พลังงานเอาไว้ใช้ในการออกกำลังกาย ร่างกายเหนื่อยยาก มีพละกำลังที่เหลือหลาย ช่วยทำให้การออกกำลังกายนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- รักษาแผลด้วยข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตสามารถนำมารักษาแผลอีสุกอีใสได้หรือ?...รอยแผลไหม้จากแสงแดดเพียงนำเมล็ดข้าวโอ๊ตมาบดให้ละเอียดหรือใช้แป้งของข้าวโอ๊ตที่ร้อนจนเหลือเฉพาะผงแล้วนำมารวมกันในผ้าสะอาดมัดรวมกันให้เป็นลูกประคบ ใครที่บ้านใช้กะละมังให้นำผ้ามัดนี้ไปแช่น้ำในกะละมังร่วมกับใช้มือนวด บีบ ผ้ามัดนั้นให้เกิดสีของน้ำข้าวโอ๊ตให้มากที่สุด
2 วิธีคลายความตึงเครียดจากข้าวโอ๊ตให้กับผิว
- ข้าวโอ๊ตสามารถช่วยลดอาการ อ่อนเพลีย และคลายเครียดให้กับร่างกายได้
ด้วยการนำข้าวโอ๊ต 2ถ้วย นมสด 1 ถ้วย และน้ำผึ้ง 1ช้อนโต๊ะผสมลงอ่างอาบน้ำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวเราไปในตัวเลย
- ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และเนียนนุ่ม
โดยการนำข้าวโอ๊ต3/4ถ้วย ปั่นรวมกับน้ำเปล่า200 ซีซี 2ถึง3นาทรถและใช้โยเกิร์ตกับน้ำผึ้งอย่างละ2 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาพอกผิวหน้าบาง ๆ 15นาทีค่อย ๆ ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่น
ทั้งนี้ข้าวโอ๊ตก็ยังถูกนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและปรนนิบัติร่างกายมากมาย อย่าง สบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงผิวหน้า โลชั่น ฯลฯ
- ลดการเกิดสิว
ผู้ที่มีสิวบนใบหน้า แนะนำให้ใช้ข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำเปล่าแล้ววางไว้ในอุณหภูมิห้อง จากนั้นนำมาพอกผิวบริเวณที่เกิดสิว 10นาที ซึ่งระหว่างนั้ข้าวโอ๊ตก็จะช่วยดูดซับไขมันและแบคฮยอนออกไป หากว่าบ้านใครมีน้ำผึ้งก็สามารถนำมาผสมเพื่อในการพอกผิวหน้า ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเนื้อเก่า ๆ ให้ลอกหลุดตายไปนั่นเอง
Reference
- The Life of Samuel Johnson, LL.D.: Including a Journal of His Tour to the Hebrides. Volume 3 by James Boswell. New York: Derby & Jackson, 1858. Page 11.
- The Guardian. London. Retrieved 2012-10-08.
- Ohlmarks, Åke (1995). Fornnordiskt lexikon. Tiden. P. 115
อ้างอิงจาก: pixabay