"Merry Christmas" เปิดประวัติวันคริสต์มาส เทศกาลแห่งความสุขของคนทั่วโลก
หากจะเอ่ยถึงวันคริสต์มาส หลายคนคงคิดถึงต้นคริสต์มาส ซานตาคลอส และของขวัญในช่วงเทศกาลนั้น แล้วประวัติวันคริสต์มาสล่ะ มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้เราขอหยิบยกประวัติเทศกาลคริสต์มาสมาเล่าให้ทุกคนได้รู้กันค่ะ
“คริสต์มาส” (Christmas) มาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า “Christes Maesse” ซึ่งมีความหมายว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า ซึ่งวันคริสต์มาสเป็นวันฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นวันฉลองที่มีความสำคัญและมีความหมายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่าพระเยซูไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด และมีพระธรรมชาติเป็นพระเจ้า เป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การบังเกิดของพระองค์จึงเป็นเหตุการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
เทศกาลวันคริสต์มาสเป็นวันที่ชาวคริสต์จะได้ใช้ช่วงเวลาอยู่กับครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก เป็นช่วงเวลาแห่งการจัดงานรื่นเริง การมอบความรักให้แก่กัน วันแห่งครอบครัว และการรวมกลุ่มกัน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการฉลองวันคริสต์มาส
ซานตาคลอส มีความเป็นมาอย่างไรกับคริสต์มาส
ซานตาคลอส มาจากชื่อ นักบุญนิโคลาส เป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือ และเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเด็ก ๆ ซึ่งในอดีตเมื่อชาวฮอลแลนด์ได้อพยพไปอยู่ในอเมริกาก็ยังคงรักษาประเพณีนี้ที่ได้ฉลองให้กับนักบุญนิโคลัส ซึ่งหมายความว่านักบุญนิโคลัสจะมาเยี่ยมเด็ก ๆ และจำนำของขวัญมาให้ โดยเด็กคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอนแลนด์เมื่อรู้ถึงประเพณีจึงรู้สึกอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น ทำให้ตั้งแต่นั้นมา ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปในอเมริกา
ความเป็นมาของต้นคริสต์มาสกับวันคริสต์มาส
นอกจากซานตาคลอสแล้ว ต้นคริสต์มาสก็ขาดไม่ได้อีกเช่นกันในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งต้นคริสต์มาสมีที่มาจากชาวคริสต์ได้แสดงละครถึงความหมายของคริสต์มาส และใช้ต้นสนต้นหนึ่งมาประดับฉากตรงกลางเวที แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ซึ่งสาเหตุที่ใช้ต้นสนเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุดในประเทศนั้น นับตั้งแต่นั้นมาต้นสนจึงเป็นต้นคริสต์มาสประจำเทศกาล
ทั้งนี้นอกจากต้นคริสต์มาสแล้ว ชาวคริสต์ยังมีการประดับไฟและเทียนสีเขียว แดง และทอง ซึ่งถือเป็นสีประจำของเทศกาลคริสต์มาส และมีการทำมิสซากันในช่วงเที่ยงคืนฉลองวันคริสต์มาส
อ้างอิงจาก: ID