ช่วงนี้ถือเป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยว ที่ใครหลายคนเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปพักผ่อนกันมากมาย หรือใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศช่วงวันหยุดหรือลาพักร้อน แต่ไม่มีเวลาเตรียมตัวมากกับการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว วันนี้ เราขอมายกตัวอย่างประเทศบางส่วนที่เข้าท่องเที่ยวได้แบบไม่ต้องขอวีซ่ากันคะ ไปดูกันเลยว่าจะมีประเทศไหนบ้าง

 

ทวีปเอเชีย

ลาว : ท่องเที่ยวได้ 30 วัน

ประเทศลาว ถือเป็นอีกประเทศที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เป็นที่ต้องตาต้องใจของนักเดินทางสายแอดเวนเจอร์ ที่สำคัญยังไม่ต้องขอวีซ่าให้ยุ่งยาก นอกจากนี้ ยังเดินทางง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง มีภาษาและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับไทย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆให้เที่ยวได้ตลอดปี โดยที่เที่ยวไฮท์ไลท์ของลาว คือ หลวงพระบาง อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ของลาวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก รายล้อมด้วยอาคารบ้านเรือน วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเวียงจันทน์ วังเวียง ปากเซ หลวงพระบาง และอีกมากมาย

กัมพูชา : เที่ยวได้ 14 วัน

กัมพูชา อีกหนึ่งประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว กัมพูชา ถือเป็นดินแดนแห่งอารยธรรม สถาปัตยกรรม และเทวสถานเก่าแก่นับพันปีแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันยังรายล้อมไปด้วยความงดงามทางด้านต่าง ๆ ทั้งศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงามควรค่าแก่การเยี่ยมชม โดยที่เที่ยวไฮท์ไลท์ของกัมพูชา คือ นครวัด นครธม เมืองเสียมราฐ ปราสาทหินเก่าแก่สวยงาม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

พม่า : เที่ยวได้ 14 วัน (เฉพาะเดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง ,เนปิดอว์ ,มัณฑะเลย์)

พม่า หรือ เมียนมาร์ ในปัจจุบัน ถือเป็นไข่มุกเม็ดงามอีกแห่งหนึ่งของเอเชีย ที่มีความงดงามทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยที่เที่ยวไฮท์ไลท์ของเมียนมาร์ คือ ทะเลเจดีย์ที่อาณาจักรพุกาม ภาพเจดีย์น้อยใหญ่นับพันองค์ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณพื้นที่กว้างใหญ่ นอกจากนี้ยังมี มหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวน และทะเลสาบอินเล

เวียดนาม : เที่ยวได้ 30 วัน

เวียดนาม ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เข้าท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า เป็นหนึ่งในประเทศน่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในเอเชีย เต็มอิ่มกับที่เที่ยวทางธรรมชาติสวยงามมากมาย ตั้งแต่ภูเขาสวยไปจนถึงชายหาดและทะเลทราย โดยที่เที่ยวไฮท์ไลท์ของของเวียดนาม คือ อ่าวฮาลอง มรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโก ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองฮานอย นอกจากนี้ยังมี ฮอยอัน มุยเน่ ดาลัด และโฮจิมินห์

ฟิลิปปินส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

ฟิลิปปินส์ ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกที่ไม่ต้องใช้วีซ่าในการท่องเที่ยว โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตก ชายหาด และทะเลสวย ๆ มากมาย ซึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ เกาะเซบู ที่มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำมากมาย

มาเลเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

มาถึง อีกหนึ่งประเทศโซนเอเชียที่ไม่ต้องขอวีซ่า เป็นประเทศที่อยู่ทางตอนใต้ของไทยเรา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เที่ยวง่าย มีความทันสมัย รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสวย ๆ ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมมากมาย ซึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ เก็นติ้ง ไฮแลนด์ ซึ่งเป็นนครที่อยู่บนเขา ดินแดนที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยความสนุกและความบันเทิงมากมาย ทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่,ศูนย์การค้า,โรงหนัง,ดิสโก้,คาสิโน รวมถึงมีหน้าผาจำลอง และเครื่องเล่นจำลองการกระโดดร่มแห่งเดียวในเอเชีย

อินโดนีเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้ง โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่ประเทศนี้คือ Mount Bromo ภูเขาไฟโบรโมที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู แม้ปัจจุบันภูเขาไฟแห่งนี้ยังคุกรุ่นอยู่ แต่ความงดงามที่สะกดทุกสายตาก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนทุกปี

สิงคโปร์ : เที่ยวได้ 30 วัน

สิงคโปร์ ถือเป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมไว้ได้อย่างลงตัว เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญและมีความเจริญสูงสุดในระดับแนวหน้าของโลก โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ สวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Singapore และชมการแสดงไฟสุดอลังการบนอ่าว Marina Bay Sands เป็นอีกหนึ่งสีสันของสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด

ฮ่องกง : เที่ยวได้ 30 วัน

ฮ่องกง อีกเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เพราะจัดว่าเป็นสวรรค์ที่นักชอปต้องมาทัวร์กันซักครั้ง แถมยังโด่งดังเรื่องการไหว้ขอพรต่าง ๆ และสวนสนุกระดับโลกอย่าง Hong Kong Disneylandโดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ วัดหวังต้าเซียน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบเซนที่งดงาม ขึ้นชื่อเรื่องการไหว้ขอพร โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและเนื้อคู่

มาเก๊า (เขตปกครองพิเศษของจีน) : เที่ยวได้ 30 วัน

มาเก๊า เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของจีน ซึ่งนอกจากคาสิโนสุดอลังการที่รู้จักกันดีแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีกลิ่นอายของประเทศแถบตะวันตกผสมผสานกับความเป็นจีนได้อย่างลงตัว ซึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ ประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) สัญลักษณ์ประจำมาเก๊า ที่เคยเป็นหนึ่งในโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงซากประตูด้านหน้าของอาคารให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม

มัลดีฟส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับประเทศอินเดียและศรีลังกา ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ รายล้อมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาว โดยใต้ทะเลที่นี่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การดำน้ำ ดูปะการัง และพักผ่อนกับทะเลแสนสวยไฮไลท์ของที่มัลดีฟส์คือ Ari Atoll หมู่เกาะยอดนิยมในมัลดีฟส์ ห่างจากตัวเมือง Male 30 นาที เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทดังมากมาย มีจุดดำน้ำที่สวยงาม และกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย

 

ทวีปแอฟริกา

แอฟริกาใต้ : เที่ยวได้ 30 วัน

แอฟริกาใต้ อีกหนึ่งประเทศที่เข้าท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า เป็นประเทศอิสระที่อยู่ตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และเผ่าพันธุ์ โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมือนยกเอาสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมารวมเอาไว้ในที่แห่งเดียว โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับชีวิตของสัตว์ป่าได้ดีที่สุดในแอฟริกา

หมู่เกาะเซเชลส์ : เที่ยวได้ 30 วัน

หมู่เกาะเซเชลส์ หรือรู้จักกันในนาม Paradise on Earth เป็นเกาะเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หาดทรายสีขาว และน้ำทะเลสีฟ้าใส ที่สำคัญ เกาะนี้เคยเป็นที่ฮันนีมูนของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทอีกด้วย โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ เกาะ La Digue ที่ตั้งของหาด Anse Source d’Argent ชายหาดที่สวยติดอันดับโลกจากการจัดอันดับของ National Geographic น้ำทะเลสีฟ้าใสจนเห็นตัวปลาและหาดทรายสีขาวของที่นี่ สวยงามจนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยว

 

ทวีปอเมริกาเหนือ

ปานามา : เที่ยวได้ 180 วัน

ปานามา อีกหนึ่งประเทศที่เป็นฟรีวีซ่า ตั้งอยู่ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นศูนย์กลางทางการเงินของละตินอเมริกา มีสถาบันการเงินระดับใหญ่ โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของปานามา คือ คลองปานามา เป็นคลองเดินเรือสมุทรยาว 77 กิโลเมตร เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งใช้เวลาสร้างกว่า 34 ปี นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของในโลกสมัยใหม่และเป็นหนึ่งในวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

ทวีปอเมริกาใต้

บราซิล : เที่ยวได้ 90 วัน

บราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลกที่เข้าท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย รวมถึงเป็นบ้านของนักฟุตบอลระดับโลก โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ Cristo Redentor ประติมากรรมพระเยซูสุดอลังการบนยอดเขากอร์โกวาดู ในกรุงริโอเดจาเนโร เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้เป็นอย่างดี

เอกวาดอร์ : เที่ยวได้ 90 วัน

เอกวาดอร์ อีกหนึ่งประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า เอกวาดอร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในลักษณะของพื้นที่ภูเขา ป่าฝน และชายฝั่งทะเลแปซิฟิก โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos) หมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลายสายพันธุ์ รวมถึงสัตว์หายาก ซึ่งที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วย

อาร์เจนตินา : เที่ยวได้ 90 วัน

อาร์เจนตินา เมืองสวรรค์ของนักเดินทางทั่วโลก รายล้อมไปด้วยเมืองหลวงที่มีมนต์เสน่ห์ ไปจนถึงเมืองอาณานิคมอันเงียบสงบ โดดเด่นเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ซึ่งไฮไลท์ของเมืองนี้คือ El Calafate เมืองเล็ก ๆ ทางใต้ของอาร์เจนตินา ใกล้กับอุทยานแห่งชาติติลอสกลาเซียเรส มีธารน้ำแข็ง Perito Moreno Glacier เป็นที่เที่ยวยอดฮิต

ชิลี : เที่ยวได้ 90 วัน

ชิลี อีกหนึ่งประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ชิลีเป็นประเทศที่เป็นเจ้าของสถิติประเทศที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 4,300 กิโลเมตร แต่กว้างเพียง 180 กิโลเมตร มีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของภูมิประเทศตั้งแต่ทะเลทราย ภูเขาไฟ ไปจนถึงธารน้ำแข็ง โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ Easter Island เกาะโด่งดัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปปั้นหินโมอาย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

เปรู : เที่ยวได้ 90 วัน

เปรู ที่เที่ยวอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปไม่แพ้ประเทศไหน พื้นที่ในประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติและป่าเขา โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของทีนี่คือ มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่เรียกกันว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

 

ทวีปโอเชียเนีย (หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก)

วานูอาตู : เที่ยวได้ 90 วัน

วานูอาตู ถือประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ เป็นประเทศที่มีทั้งทะเลและภูเขาไฟ เป็นฉากหลังที่สวยงาม และยังเคยติดอันดับประเทศที่ประชากรมีความสุขที่สุดในโลกด้วย โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ ดำน้ำดูปะการังตามเกาะต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเกาะจะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ทั้งปะการังสีสันสดใส ปลานีโม่ และซากเรือรบที่จมลงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

 

ทวีปยุโรป

ตุรกี : เที่ยวได้ 30 วัน

ตุรกี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าในการท่องเที่ยว และถือเป็นประเทศที่สวยงามด้วยมรดกโลก ตำนาน  ประวัติศาสตร์ แหล่งอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ คัปปาโดเกีย เมืองที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ โดดเด่นเรื่องภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามแปลกตาราวกับเป็นดินแดนในเทพนิยาย ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์ตุรกีคือ การขึ้นบอลลูนชมวิวสวยๆ ของเมืองนั่นเอง

รัสเซีย : เที่ยวได้ 30 วัน

รัสเซีย เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในดินแดนยูเรเซียคาบเกี่ยวระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย มีการผสมผสานวัฒนธรรมและศิลปะ ความเป็นยุโรป และเอเชียเอาไว้ได้อย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ โดยที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ Moscow Kremlin หรือ เครมลิน ตึกและป้อมปราการบริเวณใจกลางกรุงมอสโก เป็นเขตมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก

จอร์เจีย : เที่ยวได้ไม่เกิน 365 วัน

จอร์เจีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า และคนไทยสามารถท่องเที่ยวได้นานถึง 1 ปีจอร์เจียเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นเทือกเขาที่มีความงามระดับโลก ซึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของจอร์เจียคือ Gergeti Trinity Church โบสถ์เก่าแก่กลางหุบเขาคอเคซัส สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 โอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุด

 

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของประเทศที่คนไทยสามารถเข้าท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเรียกว่าแต่ละประเทศของโลกเรานั่นสวยงามทุกประเทศเลทีเดียว ถ้าหากได้เปิดประเทศแล้วอย่าลืมไปท่องเที่ยวในประเทศที่คุณปารถนากันนะคะ