กระเป๋าหนังแท้กับกระเป๋าหนังเทียม ต่างกันยังไง?
กระเป๋าหนังแท้กับกระเป๋าหนังเทียม ต่างกันยังไง?
การที่จะสร้างแบรนด์กระเป๋า การเลือกวัสดุก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ในการทำกระเป๋า แต่ถ้าอยากได้วัสดุ อุปกรณ์รูปแบบที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้บริการโรงงานผลิตกระเป๋าหนัง Pu เพื่อสร้างแบรนด์กระเป๋าของตนเองได้ เพราะที่นี่ส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์และวัสดุหลากหลายให้เลือกสรร เช่น หนังแต่ละชนิด และก็จะมีราคาที่อาจจะแตกต่างกันออกไปอีกด้วย วันนี้จึงอยากจะพามาดูความแตกต่างของหนัง ระหว่าง หนังแท้ และ หนังเทียม ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในการเลือกหนังทำกระเป๋า นั่นเอง
หนังแท้ดูยังไง?
หนังแท้ หรือ หนังสัตว์ 100% คือ หนังที่ผ่านกรรมวิธีการฟอก เพื่อนำมาใช้ในการผลิตสินค้าต่างๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด
- หนังแท้ จะมีลาย texture รอยย่นของผิวหนังที่แตกต่างกันไป ไม่เท่ากัน ไม่สม่ำเสมอ ตามธรรมชาติของหนังตัวนั้นๆ ซึ่งรวมไปถึงหนังบางประเภทอย่างเช่น หนังลิ้นจี่ หรือ ซาเฟียโน่ ที่มีลายหนังเหมือนกันทั้งผืน
- เมื่อใช้งานไปสักระยะ หนังแท้จะเงาขึ้น และนิ่มลง ทำให้เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
- สามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ได้กว่า 20 ปี ไม่ว่าจะใช้งานหรือไม่ หนังแท้จะคงทนและไม่เปื่อยยุ่ย หากได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็จะยิ่งสวยและเงาขึ้นตามกาลเวลา
- เมื่อมีรอย หนังจะไม่มีสี และไม่มีการถลอกได้โดยง่าย โดยหากมีการขีดข่วน จะเห็นชั้นด้านในของหนัง และถึงแม้จะมีรอยเล็กน้อย ก็ยังสามารถใช้งานต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
- ค่อนข้างมีสีที่จำกัด และหลากหลาย เพราะเมื่อผ่านการฟอกสีหนังแต่ละครั้งอาจจะไม่เหมือนกัน 100% ในแต่ละครั้งที่มีการฟอกสี
- หนังแท้จะมีราคาทีค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหนังเทียม และ วัสดุอื่นๆ ที่ทางโรงงานผลิตกระเป๋าPu และหนังแท้ นำมาใช้กัน
หนังเทียมดูยังไง?
หนังเทียม หนัง PU หรือ PVC คือวัสดุที่มีการปรับและสังเคราะห์ทำขึ้นมาให้ลักษณะภายนอกมีความคล้ายคลึงกับหนังแท้มากที่สุด ซึ่งหาได้ง่ายและมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าหนังแท้
หนังเทียมจะมีลักษณะลายที่เหมือนกันทั้งแผ่น เป็นลายซ้ำๆ ซึ่งหากสังเกตดีๆ จะมีรอยต่อของลาย
- หนังเทียมเมื่อมีการสัมผัสจะให้ความรู้สึก คล้ายๆ มีพลาสติกเคลือบผิวอยู่ เพราะมีการใช้วัสดุสังเคราะห์ หากลองจับ หนังเทียม และ หนังแท้ พร้อมกัน จะมีความแตกต่างของการสัมผัสที่ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว
- สำหรับอายุการใช้งานของหนังเทียมจะมีระยะที่ค่อนข้างน้อย ราว 1-2 ปีเท่านั้น หรือเมื่อมีการใช้ไปนานๆ ผิวของหนังเทียมจะมีการหลุดลุ่ย หรือ เปื่อยยุ่ยตามอายุของวัสดุ
- เมื่อโดนรอยขีดข่วน หนังเทียมจะขาดง่ายกว่าหนังแท้ และเป็นรอยได้ง่าย เมื่อถลอกก็จะมีการลอก หรือหลุดลุ่ย ตามกันไปของตัวหนัง
- มีการผลิตควบคุมและการทำที่ค่อนข้างง่าย ทำให้มีสีให้เลือกหลากหลายเกือบครบทุกเฉดสี และทุกครั้งที่ผลิตสีจะไม่มีการผิดเพี้ยนอีกด้วย
- หนังเทียมจะมีราคาที่ไม่แพงมาก ทำให้ผลิตได้ปริมาณมาก และเป็นที่นิยมเนื่องจากจับต้องได้ง่าย
และนี่ก็คือข้อแตกต่างระหว่าง หนังแท้และหนังเทียม ซึ่งอาจจะช่วยตัดสินใจในการทำกระเป๋าได้ง่ายขึ้น มากไปกว่านั้นหากใช้บริการโรงงานผลิตกระเป๋าหนัง Pu และหนังแท้ โดยตรงก็สามารถปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญในการทำกระเป๋าหนังได้ บอกเลยว่า โรงงานผลิตกระเป๋าหนัง Pu และหนังแท้ ครบวงจรนั้น จะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนที่อยากจะทำแบรนด์กระเป๋าได้อย่างแน่นอน
ศึกษาเพิ่มเติม: https://www.suvinocorp.com/what-is-oem-bag-factory/