โซเชียลเสียงแตก! พระเณรวัดดังบางพลีเมืองปากน้ำเต้นคลายเครียดช่วงโควิด ลั่นรู้เท่าไม่ถึงการณ์
สามเณรวัดดังบางพลี เมืองปากน้ำ จัดปาร์ตี้เพลงสนั่น ไฟเธค แดนส์กระจาย เจ้าตัวแจงโดนแกล้ง หอบหลักฐานแจ้งเอาผิดรุ่นพี่ปลอมเฟซบุ๊ก ด้านเพจแฉอัดซ้ำเบิ้ลรถจยย.ข้างเมรุ ยันไม่ใช่เฟคนิวส์
20 ส.ค.64 เฟซบุ๊ค ที่นี่..บางพลี มีการโพสต์ คลิปพระเณรวัยรุ่นกำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน ระบุว่า
ไอ้น็อต..ไอ้มารศาสนา..
ถ้าเห็นคลิปตัวเองกับเพื่อนที่ปาร์ตี้ด้วยกันแล้วให้รีบสึกซะ..ก่อนที่จะแฉหนักกว่านี้..
วัดแห่งหนึ่งย่านบางพลี..
ดีไม่ดีอยู่ที่นักบวช..
ไม่เกี่ยวกับวัด..
ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ไม่นิ่งเฉยกับความไม่ถูกต้อง..
โดยสามเณร น็อต สอบถามเบื้องต้นเล่าว่า ตนบวชเป็นเณรตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และได้มีพระรูปหนึ่งซื้อไฟกระพริบดังกล่าวมา เอาไว้ใช้ในงานบวชและงานของวัด จากนั้นได้ให้ตน กับสามเณรอีก 2 รูป นำไฟไปเก็บด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตนและเณรอีก 2 รูป จึงเอาไฟดังกล่าวมาเสียบไฟลองดูกันในกุฏิ ซึ่งเป็นไฟเลเซอร์หลายสีกระพริบไปมา ด้วยความนึกสนุกตนจึงเปิดเพลงจากโทรศัพท์และออกท่าทางเต้นตามที่เห็นในคลิป เพราะปกติตนเป็นเด็กชอบทำอะไรตลกๆ ขำ ๆ อยู่แล้ว แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
สามเณร เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุสามเณรฟิล์ม เป็นคนถ่ายคลิป ก่อนที่สามเณร เจมส์ เอาคลิปไปโพสต์ในกลุ่มของเณร และถูกนายพี เพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันนำคลิปไปตัดต่อลงเสียงเพลงดังเหมือนงานปาร์ตี้ และปลอมเฟซบุ๊กของตนโพสต์คลิป จนมีคนเข้าใจผิดเข้ามาแสดงความคิดเห็นจนเกิดความเสียหาย จากนั้นสามเณรน็อต จะเปิดคลิปต้นฉบับให้ดูเพื่อยืนยันกับผู้สื่อข่าวดูว่าไม่มีการจัดปาร์ตี้โดยในคลิปต้นฉบับมีการเปิดเพลงแต่เป็นคนละเพลงกัน และไม่ได้ดังขนาดที่มีการแชร์กันออกไป
ล่าสุดเวลา 15.00 น .วันเดียวกัน สามเณรน็อต พร้อมด้วยบิดา นำเอกสารหลักฐานคลิปดังกล่าวเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สพัศ ปราการพิทักษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางพลี เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีกับนายพี เพื่อนรุ่นพี่ ที่ปลอมเฟซบุ๊ก นำคลิปไปเผยแพร่บนโซเชียล จนทำให้ตัวเองและทางวัดเกิดความเสียหาย ขณะที่ช่วงเย็นทางเพจ “ที่นี่บางพลี” ยังได้มีการโพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “โลกะวัชชะ เป็นการประทำที่โลกติเตียนทำตัวไม่เหมาะสมในฐานะสมณะเพศ…ยังมีการเบิ้ลรถข้างเมรุ ส่งพี่ขึ้นสวรรค์อีกไอ้เรื่องแจ้งความนะไม่ต้องเอามาขู่ ความจริงก็คือความจริง ไม่ใช่เฟคนิวส์”