จิ้งจอกเก้าหางในประวัติศาสตร์...
สุนัขจิ้งจอกเก้าหางในประวัติศาสตร์และ... เมื่อ... มันเป็นความจริงหรือที่พระเจ้าจะตกลงมาจากเมฆ....
จิ้งจอกเก้าหางถูกพบเห็นครั้งแรกในภูเขา Qingqiu โดยนักปราชญ์ "Shanhaijing" ของยุคก่อนกล่าวอ้างว่า....
"สามร้อยไมล์ทางตะวันออกเรียกว่าภูเขา Qingqiu หางของมันสีดั่งหยก และหยินของมันมีสีเขียวเข้ม (huò) เป็นสัตว์ซึ่งมีลักษณะเหมือนสุนัขจิ้งจอกและมีเก้าหาง เสียงของมันเหมือนทารก, สามารถกินคนได้ และคนที่กินมันจะสลายสารพิษในตัวได้”
มีจิ้งจอกเก้าหางในภูเขา Qingqiu ที่ฟังเสียงดูจะเหมือนเสียงทารกและกินคนได้การกินเนื้อของมันสามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายได้จริงๆอย่างนั้นหรือ???
แต่..... ในเวลานี้ ในปัจจุบันจิ้งจอกเก้าหางเป็นเพียงสัตว์ประหลาด
อดีต.... ในราชวงศ์ฮั่น นั่นคือเทพเจ้ามงคล.ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก... เมื่อ Dayu เห็นจิ้งจอกเก้าหางใน Tushan Tu Shange Dayu คิดว่าเธอเป็นเจ้าที่ และเธอก็แนะนำให้เขาแต่งงานกับหญิงคนนึง..เขาจึงแต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูล Tushan ชื่อ Jiao Jiao และได้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
จิ้งจอกเก้าหางในเวลานั้น...เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นมงคล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของลูกหลานและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
ในขณะเดียวกันผู้คนในราชวงศ์ฮั่น เชื่อว่าจิ้งจอกเก้าหางเป็นผู้ส่งสารของพระราชมารดาแห่งตะวันตก (Queen Mother of the West)มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สามตัว คือกระต่ายหยก จิ้งจอกเก้าหาง และอีกาดำสามขา.. มีหน้าที่แสวงหาอาหารล้ำค่าสำหรับเพื่อนำมาให้พระมารดาแห่งตะวันตก
กระต่ายหยกเป็นยาอายุวัฒนะแห่งความเป็นอมตะ และจิ้งจอกเก้าหางทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารของพระมารดาแห่งตะวันตก
เพื่ออัญเชิญ สัตว์ดังกล่าว ผู้คนในราชวงศ์ฮั่น ถึงกับได้แกะสลักภาพของสัตว์ดังกล่าวนี้ในหลุมฝังศพเพื่ออธิษฐานขอให้มีชีวิตยืนยาวในโลกหน้า....ดังนั้นในเวลานี้จิ้งจอกเก้าหาง...จึงเป็นเทพเจ้าแห่งการมีอายุยืนยาวเช่นกัน
ในช่วงราชวงศ์เว่ยจินและราชวงศ์เหนือและใต้
............ที่อยู่ในจุดสูงสุด..................
จิ้งจอกเก้าหางเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคลสำหรับพระมหากษัตริย์
ยกตัวอย่างเช่น "Shanhaijing Tuzan กับ จิ้งจอกเก้าหาง" และเหตุการณ์มงคลต่างๆ จิ้งจอกเก้าหางสิบตัว ที่ระบุไว้โดยเฉพาะในหนังสือประวัติศาสตร์เก่าๆ....สิ่งนี้น่าจะสืบทอดมาจาก "Baihu Tongde Lun Feng Chan" ของ Ban Gu ในสมัยราชวงศ์ฮั่น
ซึ่งกล่าวว่า...จิ้งจอกเก้าหางจะปรากฏตัวเมื่อพระมหากษัตริย์มีคุณธรรมกล่าวโดยย่อ...ภาพของจิ้งจอกเก้าหางในช่วงนี้ คือช่วงพีคสุดๆของราชวงค์.....
เด๋วๆๆๆๆ มาที่..ราชวงศ์ถังทูตที่ทำให้เก้าหางลดวาสนาลง
ภาพปีศาจและจิ้งจอกแปลกแยกอีกตัว ที่ลากความดีงามของจิ้งจอกเก้าหางลงมาและจิ้งจอกเก้าหางก็ไม่ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิอีกต่อไปและสถานะของมันก็ตกอยู่ในอันตราย ทำให้ จักรพรรดิสับสนกับปีศาจจิ้งจอกซึ่งอ้างว่าเป็นจิ้งจอกเก้าหางในภายหลัง
จิ้งจอกเก้าหาง ถูกใส่ร้ายต่างๆนาๆ จนในราชวงศ์ซ่ง จักรพรรดิถึงกับล้มแท่นบูชา
--ภาพของจิ้งจอกเก้าหางเริ่มพังทลายลง--
และในขณะเดียวกันผู้คน ก็เริ่มเปลี่ยนผู้หญิงที่ทำตัวงัวเงีย, Sexyและทำตัวไม่เหมาะสม เหล่านั้นให้กลายเป็นจิ้งจอกเก้าหาง....
นี่เป็นที่มาของการปรากฏตัวของ "วิญญาณจิ้งจอก" ที่เก่าแก่มากที่สุด
ต่อมา Chen Pengnian ผู้หญิงที่มีไหวพริบและพร้อมทรยศ
นาง..ถูกบันทึกใน "The Confucian Discussion of the Scholars" จักรพรรดิและ ผู้คนต่างเรียกนางว่าจิ้งจอกเก้าหาง
ใน "Hou Makolu" ยังมีโสเภณีนางหนึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า "Nine-tailed Wild Fox" ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโสเภณีและทำให้นางต้องไว้ทุกข์ให้กับจิ้งจอกเก้าหางอย่างเงียบ ๆ ...
ในขณะเดียวกันในญี่ปุ่น ก็มีคำกล่าวว่า Daji ก้อแปลได้เป็นจิ้งจอกเก้าหาง โดยเห็นจากหนังสือ"ตามรอยวรรณกรรม" ของญี่ปุ่นทั่วๆไป
ราชวงศ์หมิง...เริ่มประทับตราของผู้กระทำความชั่วเช่นนี้ต่อมา "Fengshen Yanyi" ผู้เฒ่าที่มีชื่อเสียงได้ถือกำเนิดขึ้น
ภาพของ Daji จิ้งจอกเก้าหางก็ได้ถูกสร้างขึ้น... ชัดเจนยิ่งขึ้นและจิ้งจอกเก้าหางได้กลายเป็นผู้ชั่วร้ายที่น่าหลงใหลในโลกที่สับสนวุ่นวายนี้
และภาพนั้นกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
สถานะของจิ้งจอกเก้าหางถูกลดลงอย่างสิ้นเชิง .....จากเทพ.... จากสัตว์ร้าย...และสัตว์ร้ายในร่างนางฟ้า
ในราชวงศ์ชิง...นี้คือ..ชื่อรหัสของ....โสเภณี
จิ้งจอกเก้าหางที่นักเขียนในราชวงศ์ชิง..อธิบายได้ว่าเทียบเท่ากับโสเภณีจริงๆเช่น... โสเภณี Hu Baoyu ใน "Nine-tailed Fox" มีชื่อเล่นว่าจิ้งจอกเก้าหาง
และในเรื่อง "Jin Ping Mei" Wu Yueniang ภรรยาคนโตของ Ximen Qing ก็เรียก Pan Jinlian ว่า "จิ้งจอกเก้าหาง"
ในราชวงศ์ชิง ภาพของจิ้งจอกเก้าหางได้ตกลงไปในโคลน และไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไป
___นี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย___
นอกจากนี้ในญี่ปุ่น...ยังมีตำนานของจิ้งจอกเก้าหางซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ เช่น ทามาโมะมาเอะ (Tamamo-no-Mae)
ตามตำนาน...เล่าว่าจิ้งจอกเก้าหางซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ชื่อ Daji และ Sisi ได้หลบหนีเข้ามาในนามแฝงของญี่ปุ่นกลับเรียกว่า "Sao Nu"
และถูกส่งตัวไปที่พระราชวัง เพราะความงดงามของเธอ...ครั้งนั้นเธอได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากจักรพรรดิ Toba
จนเธอได้รับชื่อเป็น "Yu Zao Qian"เพราะผิวขาวและเปล่งประกาย จนอาเบะฮารุอากิ (ลูกผสมระหว่างหญิงและมนุษย์จิ้งจอกเก้าหาง) มองเห็นตัวตนของจิ้งจอกเก้าหาง และทำให้เธอหลบหนีจากไป
แน่นอนในประวัติศาสตร์ ผู้ชนะย่อมเป็นผู้เขียน.....สุนัขจิ้งจอกป่าเก้าหางเดิมเป็นเทพเจ้าแห่งการมีอายุยืนยาว
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคล...ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของลูกหลานและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
และแน่นอน....ปลาเน่าเพียงตัวเดียว จำให้ต้องทิ้งปลาทั้งเข่ง ฉันใด...ก็ฉันนั้น...
ต่อๆมา...ผู้คนจึงใช้ชื่อจิ้งจอกป่าเก้าหาง...เพื่อเปรียบเทียบกับคนทรยศและประจบสอพลอและผู้หญิงที่มีตัณหาและมีเสน่ห์....