เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์โดนผีอำกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แล้วเคยสงสัยกันบ้างไหม ว่าอาการผีอำน่ะจริง ๆ แล้ว ตกลงมันเป็นผีที่มาอำจริงตามชื่อ หรือมันเป็นเพียงความผิดปกติอย่างหนึ่งของร่างกาย มาครับ วันผมจะพาทุกท่านไปหาคำตอบในเรื่องนี้กัน

 

ผีอำคืออะไร?

 

แปลกันตรง ๆ ตามความหมาย ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 “ผีอำ” (Sleep Paralysis) ก็คือ"อาการที่ปรากฏเมื่อเวลานอนเคลิ้มไปว่ามีคนปลุกปล้ำหรือยึดคร่าให้มีอาการเหนื่อยหอบจนตื่นขึ้น"

 

แต่ในความเข้าใจของคนทั่วไป ผีอำนั้นคือ สภาวะที่ขยับร่างกายไม่ได้ขณะครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็นความรู้สึกอึดอัดในแบบที่หาทางออกไม่ได้ บางคนรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หนักอึ้งไปทั้งตัว ซึ่งแม้พยายามจะอ้าปากพูด แต่เสียงก็ไม่ออกมา บ้างก็เห็นผีมานั่งทับอก หรือยืนคร่อมตัวอยู่ หลอนแท้!!!

 

ทว่าในทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ ผีอำนั้นจัดเป็นอาการผิดปกติอย่างหนึ่งของการนอนหลับ โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนอนฝันร้าย ซึ่งมักจะเกิดในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น ในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับ หรือใกล้ตื่นนอน และผีอำนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

 

สาเหตุของการเกิดผีอำคืออะไร?

 

ผีอำเป็นอาการที่ร่างกายกับจิตใต้สำนึกหลับหรือตื่นขึ้นมาไม่พร้อมกัน ซึ่งจะกินเวลาราว ๆ 2 วินาที-10 นาที ก่อนจะค่อย ๆ หายไปเอง หรือว่าหายไปในทันที เมื่อถูกเรียก สัมผัส หรือปลุก และเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะจำเหตุการณ์ และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ

 

แท้จริงมีคำอธิบายชัดเจนในการเกิดผีอำนั่นก็คือ เมื่อเราเข้านอนด้วยความเหนื่อยล้า ก็จะเกิดการประสานกันระหว่างสารเคมีกับสภาพชีวเคมีของร่างกาย เลยเกิดอาการกดหรือว่าค้าง ทำให้การขยับเขยื้อนร่างกายเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งสภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่คุณกำลังตื่น สมองทำงานอยู่ แต่ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้ เลยเหมือนมีใครมาควบคุมร่างกายไว้ หลายคนจึงเชื่อมโยงเอาเองว่ามีผีมาจับตัว ซึ่งที่แท้จริงแล้วมันคือความไม่สัมพันธ์กันระหว่างสมองกับร่างกายต่างหาก และจะเกิดขึ้นแค่ชั่วครู่เท่านั้น

 

ผีอำแก้ไขได้อย่างไร?

 

อาการผีอำนั้นสามารถหายไปได้เองภายใน 10 นาที ดังนั้นแค่เรานอนเฉย ๆ ไม่นานก็จะหายไปเอง (รู้น่ะว่าหลอน!!!) แต่หากใครรู้สึกอยากออกจากอาการที่ว่าโดยเร็ว ก็ให้ลองพยายามขยับกล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อนิ้ว หรืออะไรที่เล็ก ๆดูก่อน เพราะหากขยับได้ ก็จะทำให้เราหลุดออกจากอาการผีอำได้ในทันทีเหมือนกัน

 

เนื่องจากอาการผีอำไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายโดยตรง ดังนั้นการรักษาจึงยังไม่มีวิธีที่แน่นอน เพียงแต่มีแนวทางที่ควรปฏิบัติ ดังนี้

 

1. พักผ่อนให้เพียงพอ

 

2. ฝึกการหายใจเข้า-ออกที่ถูกต้อง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

 

3. ตั้งสติให้ดีเมื่อเกิดอาการผีอำ

 

4. กรณีที่มีโรคประจำตัวที่สุ่มเสี่ยงกับการเกิดอาการผีอำได้ง่าย อาทิ โรคเครียด ไมเกรน ควรปรึกษาแพทย์

 

การป้องผีอำทำได้ดังนี้

 

1. ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

2. อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน

 

3. จัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการนอน

 

4. ผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้สงบก่อนเข้านอน

 

5. ดื่มนมอุ่น ๆ สักแก้วก่อนนอน

 

6. ควรเข้านอนเวลาเดิม และตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ด้วยจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสม

 

7. เปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ ช่วยกล่อม

 

และสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากถูกผีอำ มีอะไรบ้าง

 

1. ออกกำลังกายอย่างหนักก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง

 

2. สูบบุหรี่ก่อนเข้านอน เพราะทำให้หัวใจเต้นเร็ว จนนอนหลับได้ยาก

 

3. ดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เพราะทำให้หลับตื้น และตื่นง่าย

 

4. เข้านอนทั้ง ๆ ที่หิว หรืออิ่มมาก ๆ

 

5. เล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง

 

6. ดูโทรทัศน์ก่อนนอน โดยเฉพาะเรื่องเครียด ๆ

 

7. นอนในที่ที่ไม่เหมาะแก่การนอน อาทิ โซฟา เป็นต้น

 

8. นอนหลับทั้งที่ร่างกายไม่อยู่ในสภาวะที่พร้อม เช่น อ่อนเพลียมากเกินไป

 

9. นอนหลับในช่วงเวลาโพล้เพล้ ซึ่งเป็นช่วงกึ่งสว่างกึ่งมืด ซึ่งจะทำให้ร่างกายหลับได้ไม่สนิท

 

10. นอนกอดอก เพราะอาจทำให้รู้สึกคล้ายผีอำได้จากแรงกดของมือ และแขนของตัวเอง

 

ที่ได้อ่านจบไปแล้ว คือข้อมูลเกี่ยวกับผีอำที่ผมได้สรุปมา อย่างไรก็ตาม หากมีมีอาการดังกล่าวบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษา และหาทางออกที่ถูกต้องก็จะดีที่สุดนะครับ