เมื่อโควิดซาชั้นจะไปอีก ชวนเที่ยวทิพย์เกาะลันตา จ.กระบี่
เนื้อหาโดย iannja
บันทึกความทรงจำขอลาเจ้านายเที่ยวทะเล ดำน้ำดูพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะลันตา จ.กระบี่
โดยทริปนี้เราจะไปดำน้ำกันให้จุใจที่เกาะรอกและเกาะห้า และกิจกรรมที่มีความสุขที่สุดในทริปนี้คือ “การนั่งเรือแจวชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่ทุ่งหยีเพ็ง” สุดยอดมากๆ มีความสุขจนยกให้เป็นไฮไลท์ของทริปอ่ะคิดดู สิ พร้อมแล้วตาม จขกท. กันมาค่ะ!
--------------------------------------------
โดยจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ อยู่ที่เกาะลันตา ทวินเบย์รีสอร์ทค่ะ
ถามว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ถ้าให้ตอบแบบตรงๆ ก็คือมาตามเพื่อนค่ะ ด้วยความที่เวลาเราเที่ยวเราจะแบ่งตำแหน่งหน้าที่กัน สายกินพกไว้ไม่อดตาย สายหาที่พักเชื่อมั่นได้ว่าที่พักต้องดี และสายเก็บภาพบรรยากาศ จะได้มีภาพสวยๆ ไว้อวดในโซเชียล ดังนั้นเมื่อสายที่พักนำรายชื่อทวินเบย์รีสอร์ทมานำเสนอ ก็ให้เหตุผลว่าราคาดี ภูมิศาสตร์เจ๋ง อยู่ตรงแหลมคอกวาง หาดทรายโค้งกว้าง ที่พักติดชายหาดให้ความรู้สึกว่ามีหาดส่วนตัว ที่สำคัญดำน้ำได้ง่าย ไม่ต้องนั่งเรือก็ดำได้
จากนั้นก็ไม่ช้าทีเขียนใบลาพักร้อนยื่นให้กับเจ้านาย พร้อมกับไหว้ย่อ ขอหนูไปนะคะร่างกายต้องการน้ำทะเลและปะการังอย่างมากค่ะ เมื่อเจ้านายอนุญาตดิฉันและผองเพื่อน จึงทำการวาร์ปร่างพาตัวเองขึ้นเครื่องบิน ลงเรือ ข้ามสะพานยาว พาตัวเองมาที่เกาะลันตาจนได้
จบการเกริ่นนำ เรามาเริ่มต้นทริปของเราดีกว่า
Day 1:: พวกเรามาถึงเกาะลันตาแล้วก็เข้าที่พักที่ทวินเบย์รีสอร์ท มีพนักงานต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม มีเวลคัมดริ้งมาต้อนรับ จากนั้นพี่พนักงานก็พาพวกเราเข้าห้อง และนี่คือภาพห้องพักของเราในทริปนี้ค่ะ
ห้องพักได้แบบวิวติดทะเลด้วยนะ
แล้วเราก็ทำการเก็บข้าวของจากการสอบถามข้อมูลกับทางพี่พนักงานรีสอร์ทว่ามีที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่แนะนำให้เราได้ไปเยือนอีกบ้าง พี่เค้าก็แนะนำให้มาที่นี่เลย “บ้านดิน Asalanta” พี่พนักงานที่รีสอร์ทบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่ว่าฝรั่งรู้จักเยอะ มีอาสาสมัครมาเยอะ จากการ google เพิ่มเติมพบว่าเจ้าของเป็นฝรั่งด้วยนะ
ข้างในบ้านดินจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ โดยจะเน้นความเป็นธรรมชาติมากที่สุด กิจกรรมก็เช่นทำแก้วไม้ไผ่จากไม้ไผ่ที่ปลูกเองระบายสีจากสีธรรมชาติดินใบไม้กิจกรรมสนามเด็กเล่นให้เด็กๆได้สนุกกับการผจญภัย แล้วยังมีในส่วนของที่ระลึกทำมือออกมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว
มีมุมคาเฟ่ที่น่ารักมากๆ ด้วยนะ บรรยากาศในบ้านดินทุกอย่างคือทำจากธรรมชาติทั้งสิ้นเลยเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้
จากนั้นก็เดินทางไปยังทางตอนใต้ของเกาะลันตา ก็คือ อุทยานแห่งชาติเกาะลันตา จุดสังเกตจะมีจุดชมวิวที่มองเห็นประภาคารตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่ที่ท้ายเกาะ และหาดหิน
จากนั้นก็กลับมารีสอร์ท ขอกระโดดน้ำสระเล่นกันน้ำกันเสียหน่อย สระเห็นวิวชายหาดและทะเล ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับท้องทะเลมากๆ
เมื่อช่วงเวลาเย็นย่ำ ก็เดินชมวิวชมพระอาทิตย์ตกดิน บ๊ายบายนะพระอาทิตย์ ขอให้ความเหนื่อยจงหายไปกับแสงอาทิตย์ของวันนี้แล้วกันนะ
Day 2:: วันนี้มีคิวดำน้ำกัน พวกเราจึงทำการโหลดอาหารเช้าจากทางรีสอร์ทเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย
พี่พนักงานทวินเบย์บอกว่าหน้าหาดของเขาตรงนี้เดินลงไปในทะเลอีกไม่ไกทงบย
ล ก็สามารถที่จะดำน้ำโดยใส่สน็อคเกิ้ลได้ด้วย ใครที่อยากจะดำน้ำแต่ไม่อยากนั่งเรือออกไปไกลๆ ตรงนี้ตอบโจทย์มากค่ะ กับอีกจุดหนึ่ง คือเดินเยื้องไปหน่อย ทางขวามือที่เป็นแหลมยื่นไปในทะเล ตรงนั้นจะเป็นโขดหินไม่มีหาด แต่ก็สามารถจะดำน้ำได้อีกเช่นกัน ดีจังเลยทำไมเกาะนี้นึกอยากจะดำน้ำตรงไหนก็ได้ง่ายขนาดนี้นะ
ส่วนตรงนี้เป็นส่วนที่เดินมาจากหน้ารีสอร์ท ที่ได้ชื่อว่าแหลมคอกวางก็ตรงนี้ จะไม่มีหาดจะมีแต่หิน ตรงนี้เราก็เห็นฝรั่งเดินถือสน็อคเกิ้ลมาดำน้ำเหมือนกันนะ
เมื่อถึงเวลาที่นัดไว้ เรือสปีดโบ้ทก็มารับเรา โดยจุดหมายปลายทางที่เราจะไปดำน้ำกันในวันนี้คือ “เกาะรอกและเกาะห้า”เปิดทริปดำน้ำกันที่เกาะรอก
นั่งสปีดโบ้ทออกไปไม่รู้ว่าระยะทางไกลแค่ไหน แต่เวลาก็เกือบๆ ชั่วโมงได้ เกาะรอกที่นี่จะมีหาดทรายขาวสวยน้ำใส
ใช้เวลาที่เกาะรอกกันอย่างจุใจ พี่คนขับก็พาเราไปยังจุดหมายต่อไป นั่นก็คือเกาะห้า ในตำนานนั่นเอง
ระยะเวลาที่ใช้เดินทางก็พอๆ กับที่ไปเกาะรอกนั่นแหละ นั่งเรืออิ่มลม อิ่มแดด อืมมมมม แต่ถึงแม้ว่าจะไกลแค่ไหน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะมันจะมีโอกาสสักกี่ครั้งที่อยู่ท่ามกลางทะเลสีครามได้นานขนาดนี้ ลมปะทะหน้าถึงแม้ว่าจะทำให้หัวเรายุ่งเหยิงก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาหยุดยั้งการเดินทางของพวกเราได้
เมื่อเราไปถึงเค้าก็ปล่อยให้เราลงดำน้ำกันตรงนี้ โดยภูมิศาสตร์ของเกาะห้า จะมีบรรดาเกาะต่างๆ รายล้อมเราไว้อยู่ประมาณ 5 เกาะเล็กๆ
วันนี้เราดำน้ำด้วยสน็อคเกิ้ลกันค่ะ เพราะในทริปไม่มีใครสามารถดำน้ำแบบใช้แทงค์ได้เลย ถ้าใครอยากดำลงไปลึกๆ ก็ลองใช้ความสามารถพิเศษ ถอดสน็อคเกิ้ลใช้ความอึดของตัวเองลงไปดำผุดดำว่ายใต้ท้องทะเลสีครามอันกว้างใหญ่ เหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของท้องทะเลนี้ โผล่ขึ้นมาจากน้ำก็เจอฟ้าสวย ดำลงไปน้ำทะเลใสเห็นปะการังและเจ้าผองปลาทั้งหลาย นั่งเขียนอยู่นี่ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี ดังนั้นไปเถอะค่ะ มันดีต่อใจจริงๆ
ปล.เซิร์ฟบอร์ดที่เห็นนั่น ยืมมาจากรีสอร์ททวินเบย์ นะคะ เค้าใจดีให้อุปกรณ์เล่นน้ำมาเพิ่มด้วย อิอิ
เราใช้เวลากับกิจกรรมดำน้ำกันอยู่ที่ประมาณ 3-4ชม. กลับเข้าฝั่งมาก็อาบน้ำพักผ่อนเล็กน้อย แล้วก็ค่อยมานัดทานมื้อเย็นกัน
เนื่องจากเราใช้พลังกันแบบหมดก๊อก เมามันกับการดำน้ำทั้งวัน กระเพาะของเราจะหิวเป็นพิเศษ จึงเกิดไอเดียว่า “หมูกระทะกันมะ” รีสอร์ทมีไว้บริการด้วย เรามาทำให้ทุกคนรู้ว่า หมูกระทะไม่จำเป็นต้องอยู่บนดอยเสมอไป หมูกระทะริมทะเล ก็เท่ไปอีกแบบ ว่าแล้วก็ลุย!!
Day 3:: เริ่มต้นวันที่ 3 ของทริป ด้วยการดูพระอาทิตย์ขึ้น ใช่ค่ะฟังไม่ผิด “พระอาทิตย์ขึ้น” โดยปกติแล้วการมาเที่ยวทะเลใต้ส่วนใหญ่มักจะเป็นโมเม้นท์ของการชมพระอาทิตย์ตกดินซะมากกว่า แต่ที่เกาะลันตานี้แตกต่างออกไป เราจะไปดูเพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ “ทุ่งหยีเพ็ง” การเดินทางจะเป็นการนั่งเรือแจวออกไป สองฝั่งคลองจะเป็นป่าชายเลน ที่มีแต่ความสงบ เงียบสงัด เสียงที่ได้ยินก็เป็นเสียงแจวเรือ กับเสียงนกร้องในตอนเช้า ไม่มีเสียงของเครื่องยนต์ หรือเสียงของนวัตกรรมที่เราคุ้นเคยกันให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
คนเมืองอย่างเราที่เจอกับความวุ่นวายเสียเป็นส่วนใหญ่ เมื่อมาเจอกับบรรยากาศยามเช้า ที่เงียบสงบ ในท้องน้ำอันแสนกว้างใหญ่ มีไอหมอกลอยเหนือน้ำ ให้ความรู้ราวกับเราขึ้นมาบนสวรรค์สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราไม่สามารถพบเจอตามวิถีชีวิตคนเมืองอย่างเราเป็นแน่ แสงแดดเริ่มทอประกาย กระทบกับหมอก ช่างเป็นภาพที่ประทับยากที่จะลืมเลือนได้ ในขณะที่กำลังฟินกับบรรยากาศ ก็เกิดคำถามกับตัวเองว่า
“นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม ทำไมถึงขึ้นมาอยู่บนสวรรค์แบบนี้ได้เนี่ย”
“แค่ตื่นเช้าก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้วเหรอดีจริงๆ เลยนะ”
ใครไม่เชื่อต้องไปลองโดนกับตัวเอง
ความประทับใจสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้นไม่ใช่แค่บรรยากาศเพียงอย่างเดียว แต่เป็นลุงคนแจวเรือคนนี้ค่ะ น่ารักอัธยาศัยดีมาก ถ่ายรูปก็เก่ง แนะนำให้ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ ส่วนคำแนะนำของคุณลุงก็ไม่มีอะไรมาก “กดรัวไปเลยหนู พระอาทิตย์ขึ้นแสงมันต่างกัน” โอเคค่ะ รัวก็รัวค่ะ
เท่าที่รู้มากการนั่งเรือแจวชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทุ่งหยีเพ็ง เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มชาวบ้าน พูดอย่างเป็นทางการคือวิสาหกิจชุมชน เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอกจากจะได้บรรยากาศสวยๆ แล้วยังเป็นการท่องเที่ยวแบบอุดหนุนคนในท้องถิ่น
จบทริปชมพระอาทิตย์กันในช่วงสายๆ ของวัน รู้สึกประทับใจอิ่มเอมใจกับทริปเกาะลันตา จ.กระบี่นี้มาก โดยเฉพาะการดูพระอาทิตย์ขึ้น จริงๆ มันไม่ได้อยู่ในแพลนของเราเลยด้วยซ้ำ อันนี้ต้องขอขอบคุณพี่พนักงานทวินเบย์ ที่มีความเป็นกันเองสูงมากๆ ดูแลอย่างดี พร้อมกับแนะนำที่ท่องเที่ยวให้กับพวกเรา
รู้สึกประทับใจกับวิถีชุมชนทั้งคนไทยในพื้นที่ และฝรั่งที่เข้ามาเป็นจิตอาสา ที่ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมวิถีชีวิตให้คงเดิมเอาไว้ สำหรับเราแล้วทริปเกาะลันตา จ.กระบี่ เป็นทริปที่สมบูรณ์แบบอีกทริปหนึ่งในชีวิตของเรา ที่เราไม่เคยได้เจอะเจอกับมาก่อน และด้วยความประทับใจอันเอ่อล้น จึงอยากจะมาแชร์เรื่องราวอันนี้มาฝากทุกๆ คนในกระทู้นี้ค่ะ
สุดท้ายนี้.......................
ขอบคุณเจ้านายด้วยที่ยอมให้ลูกน้องอันแสนเหนื่อยล้าได้มาเปิดหูเปิดตา
ขอบคุณคุณเพื่อนๆ ที่ลุยด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีบ่นสักกะแอะ ยกเว้นบ่นหิว อิอิ
ขอบคุณรีสอร์ททวินเบย์ด้วยที่ให้คำแนะนำและบริการกับเราดีมากๆ สิ่งใดที่โล้งเล้งไปบ้างก็กราบอภัยมาด้วยนะคะ
และขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อยู่กับเราจนจบทริป อย่างไรก็ดี ฝากเกาะลันตา จ.กระบี่ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
เนื้อหาโดย: iannja
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4.8/5 จาก 5 คน)
VOTED: postdd, ขี้ลอยน้ำ, มยุริญ ผดผื่นคัน, ก็ไม่เล็กนะ, อ้ายเติ่ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด อ.ออร่า ตารางทักษามหารานีราคาทองร่วงหนัก10 อันดับเลข ยอดฮิต หวยแม่จำเนียร 16/11/67"รวมเลขเด็ดโค้งสุดท้าย! เลขดังจากโซเชียล ลุ้นรวยหวย 16/11/67"“ก้าวผ่านความสูญเสีย: วิธีเยียวยาหัวใจและเริ่มต้นใหม่ในทุกสถานการณ์“"ว่าที่บ่าวสาว แม็ค-วิว เปิดบ้านสุดอบอุ่นที่แคนาดา พร้อมโมเมนต์สุดพิเศษ"ลาก่อนพระปีนเสา! เจ้าอาวาสวัดสามชุกสั่งไล่ออกสังกัดวัด หลังพฤติกรรมไม่เหมาะสมครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีความละอายHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฟิล์ม ถูกกล่าวหาหลอกผู้เสียหาย ลงทุนน้ำมัน พบผู้เสียหายหลายร้อยคน มูลค่ารวมเกือบ 800 ล้านปลาปักเป้า ปลาที่มีความสามารถในการพองตัว แม้แต่ "ลูกปลาปักเป้า" ก็ยังสามารถพองตัวได้อย่างน่าทึ่งราคาทองร่วงหนักconfirm: ยืนยัน"ว่าที่บ่าวสาว แม็ค-วิว เปิดบ้านสุดอบอุ่นที่แคนาดา พร้อมโมเมนต์สุดพิเศษ"