เรื่องสั้น ชัยชนะที่ไม่เคยได้สัมผัส
บางเหตุการณ์ก็ไม่เคยแปรเปลี่ยน แค่ความคิดว่าคุ้มกันหรือไม่กับชีวิตที่สูญเสียไปไม่อาจย้อนคืน คนข้างหลังต้องทุกข์ตรมขนาดไหน
*****
เรื่อง : ชัยชนะที่ไม่เคยได้สัมผัส
โดย : อักษราลัย
ลดา ... หันไปคว้ารีโมทขึ้นมากดปุ่มปิดโทรทัศน์ ภาพเนื้อหาในข่าวที่เธอเพิ่งดูจบไปคือการเรียกร้องของคณะราษฎร กับการประกาศข้อเรียกร้องสามข้อก่อนนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคม 2563
เธออดคิดย้อนไปในเช้าวันฝนพรำปีนั้นไม่ได้ ภายในบ้านหลังน้อยที่เขาและเธอนั่งคุยกันเบา ๆ บนชานระเบียงหน้าบ้าน ลดาในตอนนั้นกำลังตั้งท้องลูกน้อย ลูกคนแรกของพวกเขาที่รอลุ้นว่าจะได้เพศหญิงหรือชาย เธอไม่ยอมอัลตร้าซาวด์ เพราะอยากลุ้นตอนคลอด เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นหญิงหรือชายเธอก็รัก ส่วนชัยชนะเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำแข็งแรง มัดกล้ามที่แข็งแรงไปทั้งตัวเกิดจากการทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก
คืนนั้นฝนพรำทั้งคืน สวนปาล์มที่ชอบน้ำใบของมันแกว่งไกวไหวตามแรงลมที่พัดมา มองคล้ายกำลังเริงระบำรับน้ำฝนอย่างยินดี แต่ในส่วนสวนยางฝนตกทำให้ไม่ต้องออกไปกรีดยาง ทั้งคู่นั่งคุยกันถึงราคาพืชผลทั้งสองชนิดที่ตกต่ำมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว และขณะนี้ที่กรุงเทพฯ กำลังมีเหตุการณ์สำคัญ ชัยชนะกำลังพูดหว่านล้อมลดา เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปที่กำลังพูดถึงกันอย่างเข้มข้นทางโทรทัศน์ช่องสีฟ้าที่เขาเป็นสมาชิกและเปิดดูเพียงช่องเดียวทุกวัน
หลายคนในหมู่บ้านรวมตัวกันนัดแนะว่าจะขึ้นไปสมทบ พวกเขาใฝ่ฝันถึงการปฏิรูปมาชั่วชีวิต จริง ๆ ก็ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตาทวดแล้วมากกว่า ตอนนี้ทุกคนพูดกันถึงรัฐบาลคนกลาง การจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศก่อน ถึง ค่อยเลือกตั้ง จนมีการตั้งคำขวัญว่า "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"
ลดาเจอกับชัยชนะผู้เป็นสามีที่ตัวจังหวัดจากงานเสวนาทางการเมือง พวกเขาอยากได้การเมืองที่ขาวสะอาด นักการเมืองคิดทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พ่อแม่ของเขาหัวเราะและเยาะเย้ยพวกเขาว่า "แม้ตายแล้วเกิดใหม่มึงก็ไม่มีวันได้เห็น" แต่เขากับลดาเชื่อว่าสักวันการปฏิรูปจะต้องมีขึ้น การเมืองที่ใสสะอาดจะต้องเกิดขึ้นในรุ่นของพวกเขา
นี่จึงเป็นโอกาสเหมาะที่เขาจะเข้าร่วม ติดอยู่ที่ลดากำลังท้องแก่ พวกเขานั่งคุยกันแผ่วเบาถึงกำหนดนัดเดินทางขึ้นไปกรุงเทพฯ ภาพของชัยชนะในวันนั้นติดตราตรึงความรู้สึกของลดา สิ่งที่จะไม่มีวันลืมได้เลยคือแววตาที่หิวโหยในชัยชนะสมชื่อของเจ้าของดวงตาคู่นั้น ดวงตาที่มีแต่ความมุ่งมั่น และเป็นแววตาที่เธอหลงรักนักหนา
ระยะทางจากนราธิวาสบ้านเกิดขึ้นไปกรุงเทพฯ ต้องใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่าสิบห้าชั่วโมง คนท้องแก่ใกล้คลอดอย่างเธอจึงจำต้องรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านด้วยใจจดจ่อ แม้เธอเองจะสนใจเรื่องการเมืองไม่แพ้ชัยชนะ แต่ภาวะร่างกายแบบนี้เธอจำต้องยอมยืนมองผู้เป็นสามีจากไปด้วยประโยคที่ตรึงเธอไว้นั่นคือ "เพื่ออนาคตของลูกเรา ลูกจะต้องมีสิ่งที่ดีกว่า และการปฏิรูปเพื่อประชาชนคราวนี้จะต้องสำเร็จ"
.
ลดา... เฝ้าโหยหาไออุ่นจากสามี เธออยากให้เขากลับมาดูแลเธอตอนคลอด เธอครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่า
"จำเป็นต้องเป็นเราด้วยเหรอ ที่ต้องห่างกัน คนอีกตั้งมากมาย"
นั่นคือสิ่งที่เธอคิด แต่ปากของเธอกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว คำห้ามปราม คำชักชวนกลับบ้าน ถูกกลืนหายกลับเข้าไปทันที เมื่อเห็นแววตาแห่งความมุ่งมั่น แววตาที่โหยหาชัยชนะตรึงเธอให้กลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไป ทำได้แต่ยิ้มและพูดให้กำลังใจ
ทุกครั้งที่วิดีโอคอลหากัน เธอเฝ้าแต่ถามความคืบหน้า และเฝ้ารอคอยวันแล้ววันเล่าที่ทุกอย่างจะจบลง เพื่อจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ลูกที่ทั้งเขาและเธอรอคอยมาเนิ่นนาน ก่อนวางสายในแต่ละวัน ชัยชนะจะให้เธอเอาโทรศัพท์ไปวางไว้บนท้อง ทุกถ้อยคำที่เอ่ยลูกเองก็คงรับรู้แกเต้นถีบแขนขาจนมองเห็นเป็นรูปปูนโปนขึ้นมาบนท้องได้ชัด แม้จะเจ็บ แต่เธอก็ยินดีมองภาพพ่อลูกคุยกันแบบนั้นอย่างแสนรัก
ชัยชนะคอยบอกเล่าข่าวคราวที่มากกว่าในโทรทัศน์ให้เธอรับรู้ ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความหวัง บางครั้งเขาโชว์ภาพรอบ ๆ ให้เธอดู ประชาชนมากมายที่อยู่รายล้อมรอฟังเสียงการปราศรัยบนเวที สีหน้าทุกคนดูมีความหวัง เสียงที่ปลุกเร้าบนเวทีที่ดังลอดมาบ่งบอกพลังแห่งความมุ่งมั่นฮึกเหิม ที่พวกเขามั่นใจว่าการชุมนุมครั้งนี้พวกเขาจะต้องชนะ แต่ลดากลับไม่คิด เช่นนั้น
.
ชัยชนะวางสายจากการพูดคุยกับลดาเมียรักซึ่งท้องแก่ คืนนี้เขารู้สึกเหงาและอ้างว้างขึ้นมาอย่างประหลาด เดือนกว่าแล้วที่เขาเดินทางมาร่วมชุมนุม ยอมลำบากนอนกลางถนน เพราะคำว่า "ปฏิรูปประเทศไทย" ประโยคเดียวแท้ ๆ ที่ดึงเขาออกจากบ้าน ห่างจากลูกและเมียที่ท้องแก่ใกล้คลอดให้เป็นหน้าที่ของน้องสาวให้คอยดูแล เขากำลังนั่งฟังการปฏิรูปจากคนบนเวที ทุกอย่างดูดีมากจะมีการปฏิรูปในทุกมิติของสังคม แต่ที่เขาสนใจมากที่สุดไม่ใช่การเลือกตั้งที่ใสสะอาดไม่มีการซื้อเสียง ไม่ใช่การปราบปรามคอรับชั่น ไม่ใช่การถอดถอนผู้มีอำนาจทางการเมือง ที่เขาสนใจที่สุดในตอนนี้คือการขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม แก้ปัญหาความยากจนให้หมดไป และการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ
เขาเอ่ยเล่าเรื่องการปฏิรูปให้ลดาฟังทุกวัน เพราะเขาห้ามเธอดูโทรทัศน์ด้วยไม่อยากให้เธอเครียด โดยให้ฟังเรื่องของการชุมนุมจากปากของเขาจะดีกว่า วันนี้เขาพูดคุยกับเธอด้วยน้ำเสียงร่าเริงผิดปกติ เพราะกลัวเธอจะจับสังเกตได้ว่าเขามีเรื่องในใจ เขาจะกล้าบอกเธอไหมว่าการปฏิรูปนี้ต้องแลกมาด้วยเลือด มีคนเสียชีวิตไปแล้วหลายคน และล่าสุดประคองเพื่อนที่เขาเจอในการชุมนุมถูกระเบิดตาย จากมือมืดที่ลอบปาระเบิดเข้ามาในขบวนที่กลุ่มของพวกเขาเดินทางผ่านถนนบรรทัดทอง
โชคดีเป็นของเขาที่รอดชีวิต แต่ประคองไม่โชคดีแบบเขา เขารู้มาว่าประคองมีลูกถึงสามคน ลูกและเมียที่ต้องเสียหัวหน้าครอบครัวจะมีชีวิตอยู่อย่างไร เพราะประคองจะไม่ได้กลับบ้านไปหาลูกเมียอีกแล้ว เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็เอ่อออกมาอย่างสุดกลั้น มันไหลลงมาเป็นทางยาว เขาเอาหลังมือปาดมันไปอย่างง่าย ๆ แล้วเช็ดมือนั้นกับชายเสื้อ คืนนี้เขารู้สึกทดท้อใจอย่างที่สุด เขาคิดถึงบ้าน คิดถึงสวนปาล์ม คิดถึงอ้อมกอดของลดาเมียรัก และคิดถึงลูกที่กำลังจะเกิดมาในอีกเดือนกว่าข้างหน้านี้ ลูกที่เขาเฝ้ารอ ลูกที่เป็นแรงขับให้เขาเดินทางมาในครั้งนี้
.
เสียงนกร้องประสานเสียงดังขึ้น เสียงที่เคยฟังว่าเริงร่ารับอรุณ วันนี้เธอกลับฟังว่าเศร้าสร้อย เช้าวันใหม่แล้วลดาพลิกตัวหันตะแคงน้ำตาอาบแก้มลงมาจนหมอนหนุนเปียก เธอแอบดูโทรทัศน์เพื่อรับฟังข่าวสาร ข่าวเพื่อนร่วมขบวนการโดนระเบิดเสียชีวิตที่ถนนบรรทัดทองทำให้เธอเสียขวัญ พี่ชายคนนั้นคือคนสนิทที่ชัยชนะคุ้นเคย เขาเคยทักทายเธอสองสามครั้งผ่านหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อคืนชัยชนะทำท่าทางร่าเริงผิดปกติ
พอวางสายโทรศัพท์เธอจึงเปิดโทรทัศน์เพื่อดูข่าว เมื่อรู้ข่าวเธอถึงกับจะเป็นลม ดีที่น้องสาวนั่งอยู่ด้วยและรับเธอไว้ได้ทัน เธอเข้านอนทั้งน้ำตา และจนบัดนี้น้ำตายังไม่อาจเลือนหาย ใจเธอหวั่นไหวและกังวล ความตายที่มีนับรวมถึงตอนนี้มีมากมายเหลือเกิน การชุมนุมก็ยังไม่ยุติ ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงมากขึ้นทุกวัน ทั้งการเข้ายึดสถานที่ราชการเพื่อบีบให้ปิดทำการ นั่นทำให้มีเหตุปะทะกันมีคนเสียชีวิตถึงสี่คน และบาดเจ็บถึงห้าสิบเจ็ดคน ไหนจะมีการปิดถนนสายหลักในกรุงเทพฯ เพื่อกดดันรัฐบาล คนไทยต้องห้ำหั่นกันจนถึงเลือดถึงเนื้อแค่เพราะคิดต่างไปคนละทางอย่างนั้นเหรอ
เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นทุกวัน มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าในกรุงเทพมหานครและภาคใต้ ทำให้การเลือกตั้งเสียระบบ และไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะอ่อนลง สีหน้าของชัยชนะอิดโรย บางครั้งเขาดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ลดาเห็นมันในแววตานั้น ความหิวโหยในชัยชนะ ปลิดปลิวออกไป คงเหลือแค่คำว่า "อยากปฏิรูปให้สำเร็จ" เขาว่าเดินกันมาไกลเกินกว่าจะย้อนกลับแล้ว
.
เมื่อคืนชัยชนะอยู่ที่หน้าพระบรมรูปทรงม้าใกล้กับบช.น. ลดาได้เห็นหน้าชัยชนะแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที ด้วยเหตุการณ์ขมวดเกลียวหนักขึ้นจนไม่อาจคุยกันได้สะดวก รู้แค่ว่าวันพรุ่งนี้พวกเขาจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล หลังวางสายโทรศัพท์ลดารี รุดไปจุดธูปไหว้พระ หลัง ๆ นี้หลังคุยกันเธอจะจุดธูปสวดมนต์อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวันให้คุ้มครองทุกคน ไม่ว่าจะคิดเห็นแตกต่างกันอย่างไร ขอให้ทุกคนปลอดภัย อย่าได้มีการเสียเลือดเนื้อหรือบาดเจ็บกันอีกเลย ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ปฏิรูป" กลายเป็นความคิดไกลตัวสำหรับเธอไปแล้ว เธอแค่อยากให้ชัยชนะและทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทุกคนล้วนมีครอบครัว ล้วนมีคนที่รักเฝ้ารออยู่ข้างหลัง และเช่นเคยชัยชนะยังคงยืนกรานว่าขอทำหน้าที่ให้สำเร็จก่อน เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอและเพื่อลูก ทุกอย่างควรจะต้องจบลงที่รุ่นของเรา รุ่นลูกจะต้องมีชีวิตที่ดี ไม่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่มีการกดขี่จากผู้มีอำนาจอีกต่อไป
.
เช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ลดารู้สึกเจ็บหน่วง ๆ ที่ท้องตั้งแต่เช้า แต่ใจเธอกลับหวิวอย่างประหลาด มือไม้ก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ น้องบอกว่าไม่น่ามีอะไร เธอคงคิดมากไปเอง และเดินลงเรือนไปเพื่อไปเตรียมรถพาไปโรงพยาบาล ลดารู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอคิดถึงชัยชนะ เธออยากได้ยินเสียงเขาเหลือเกิน ป่านนี้เขาคงกำลังเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลตามที่ บอกเธอไว้
เธอไปนอนรอคลอดอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่สาย ตอนนี้เธอปวดท้องจนทำอะไรไม่ถูก เย็นแล้ว เธอคิดถึงชัยชนะจนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอกดโทรศัพท์หาเขา ขอแค่ได้ยินเสียง ขอแค่กำลังใจ ไม่มีใครรับสาย... ลดาต้องเข้าไปคลอดตามลำพัง เธอได้ลูกชาย ลูกชายที่แข็งแรงสมบูรณ์เหมือนพ่อของเขา ลูกชายที่เธอให้ชื่อว่า "ชนะชัย"
คืนนั้นหลังถูกย้ายเข้าห้องพักฟื้น เธอก็ได้รู้ความจริงที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต หนึ่งชีวิตแสนรักที่เธอได้มา เธอต้อง สูญเสียอีกหนึ่งชีวิตที่รักมากไป ความหวังทั้งหมดทั้งมวลพังทลายไปแล้ว นี่หรือการปฏิรูปที่เธอใฝ่ฝัน เธอกรีดร้องร่ำไห้ สุดเสียง ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร น้ำตาไหลราวทำนบแตกจนแทบกลายเป็นสายเลือด ดวงตาช้ำจนเส้นเลือดฝอยแตก ไม่มีอีกแล้วพ่อแม่ลูก เหลือเพียงเธอกับลูกเท่านั้น เธอร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเป็นลมล้มพับไป
.
ปีนี้... พ.ศ. 2578 ชนะชัยมีอายุได้ยี่สิบเอ็ดปี เขามีบุคลิกท่าทางไม่ผิดจากพ่อของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ความคิดความอ่าน ตอนนี้เขาเป็นหนุ่มน้อยนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทางการเมืองแถวท่าพระจันทร์ตามที่ใฝ่ฝัน ส่วนลดาในปีนี้แก่ขึ้นแล้วเริ่มมีไรผมหงอกขึ้นแซมประปรายตามริมหน้าผาก เธอกดเปิดดูข่าวเที่ยงทางโทรทัศน์เหมือนเช่นทุกวัน
ภาพในโทรทัศน์ที่เห็นทำให้เลือดในกายเธอแข็งเย็นเฉียบ สองตาเบิกค้างขึ้นมาทันที หัวใจคล้ายจะหล่นวูบลงไปกองอยู่ที่เท้า ภาพในนั้น...บุตรชายของเธอ "ชนะชัย" กำลังกล่าวปราศรัยอยู่บนเวที
คำกล่าวปราศรัยที่แว่วเข้าหู เธอจับใจความได้เพียงเลา ๆ ว่า "ให้มันจบลงที่รุ่นของเรา" คำกล่าวนี้ช่างคุ้นหู เธอเคยได้ยินคำนี้มาแล้วในปี 2557 และนี่มัน...
ลดาจ้องมองภาพนั้นอีกครั้งอย่างตกตะลึง ท่วงท่าและแววตาของคนในนั้น คนคนนั้นคือลูกของเธอ ลูกที่เหมือนมีเงา ของชัยชนะผู้เป็นพ่อซ้อนทับภาพบุตรชายของเธอ
ที่เห็นนั่นคือ 'ชนะชัย' หรือ 'ชัยชนะ' กันแน่นะ ที่กำลังปราศรัยเรียกร้องความยุติธรรมจากรัฐบาลบนเวทีชั่วคราวในมหาวิทยาลัย ...▪︎
.