พ่อแม่ขอเงิน จนไม่เหลือเงินตั้งตัว ใครเป็นแบบผมบ้าง?
ผมชั่งใจอยู่นานมากครับว่าควรเขียนกระทู้นี้ดีไหม ผมเจอเรื่องหนักใจที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกครับ ปัญหาของผม คือพ่อแม่ไม่เข้าใจผมเลยครับ ผมเป็นครูเอกชนรายได้ประมาณ 19,000 ครับ ทุกเดือนผมมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายประจำ ค่าผ่อนรถ 6,000 ค่าบัตรเครดิตผ่อนจ่ายทุกเดือนเดือนละ 1,500 ครับ ค่าเช่าห้องรวมน้ำไฟ ประมาณเดือนละ 2,500 ครับ ค่ากิน 3,000-3,500 เฉลี่ยวันละ 100 หรือไม่เกิน 120 ครับ ค่าน้ำมันรถผมเฉลี่ยเติมประมาณ 1,000/เดือน ครับ เพราะผมไม่ค่อยขับไปไหน เนื่องจากผมย้ายที่ทำงาน ที่ทำงานใหม่อยู่ใกล้ที่พัก ผมใช้วิธีเดินไปทำงานครับ จะใช้รถเวลาต้องติดต่อธุระหรือออกไปซื้อของใช้จำเป็นเท่านั้นครับ ผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครับ เป็นลูกคนเดียว อาจเป็นเพราะผมเป็นลูกผู้ชาย พ่อแม่เลยไม่ห่วงเท่าไหร่ครับ ผมได้งานต่างจังหวัด พ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไร แต่ทุกเดือนพ่อแม่จะขอเงินค่าเลี้ยงดูผม เดือนละ 5,000 บาท ซึ่งผมไม่เหลือเงินเก็บที่พอจะสะสมเอาไปทำอะไรได้เลย อ่อ ลืมบอก ผมโสด ไม่มีภาระครอบครัวครับ แม่ผมเป็นแม่บ้าน พ่อผมเป็นข้าราชการเกษียณ ยังแข็งแรงทั้งคู่ ซึ่งพ่อผมได้เงินบำนาญทุกเดือนครับ แถมได้มากกว่าเงินเดือนของผมอีกครับ บ้านพ่อแม่ไม่ได้เช่าครับ รายจ่ายมีแค่ ค่ากิน ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์รายเดือน ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ผมรู้สึกแย่มากๆครับที่ทุกครั้งที่บ้านโทรมาก็จะถามแต่เรื่องเงินเดือนของผม เงินออกเมื่อไหร่ต้องโอนให้ โทรมาหาทีไรก็จะคุยเเต่เรื่องเงิน ผมเคยขอจ่ายให้เดือนละ 2,000 แต่แม่ก็ทำน้ำเสียงไม่พอใจ ให้แค่เดือน 2,000 เงินนิดเดียวจะไปทำอะไรได้ ผมฟังแล้วสะอึกใจมาก พ่อพูดสวนขึ้นมาในสายโทรศัพท์ แกคนเดียวจะใช้อะไรกันนักหนา รู้ไหมพ่อแม่ลำบาก อยู่กันสองปาก แกไม่คิดบ้างเหรอ ผมบอกตรงๆว่าผมรู้สึกแย่มากครับ เงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายประจำเดือนก็เหลือแค่ไม่กี่พันบาท รถผมก็ต้องผ่อนอีก 5 ปี ถึงผมจะไม่มีภาระเรื่องครอบครัว แต่ผมก็อยากเก็บเงินไว้ในยามที่ผมเจ็บป่วยหรือในยามที่ผมต้องใช้เงินไว้ใช้จ่ายฉุกเฉิน อีกอย่างผมมีแลนเรียนต่อโท อยากเก็บเงินไว้เรียนต่อด้วยครับ เพราะตั้งแต่ผมเรียนจบพ่อแม่ปล่อยให้ผมใช้ชีวิตของตัวเอง แต่หากมีภาระเรื่องเงินห้ามรบกวนท่าน มีครั้งหนึ่งผมเคยขอยืมเงินท่านให้ช่วยผมเรื่องจ่ายค่างวดรถ 1 งวด เพราะรถผมต้องซ่อม ใช้เงินเยอะพอสมควรเงินผมเลยไม่พอจ่ายค่างวด พ่อผมบอกผมว่าทำไมต้องช่วย รถของแก พ่อแม่ไม่ได้ใช้รถแก ที่ผ่านมาส่งแกเรียนก็หมดไปไม่รู้เท่าไหร่ ผมบอกกับตัวเองว่าต่อนี้ไป หากผมเดือดร้อน ผมจะไม่ขอร้องที่บ้านให้ช่วยผม ผมสำนึกในบุญคุณพ่อแม่เสมอครับ แต่การที่พ่อแม่ไม่เข้าใจผม ผมไม่รู้ควรทำยังไง บางทียังไม่ถึงสิ้นเดือนก็โทรมาย้ำผมเรื่องค่าเลี้ยงดู ถ้าผมจะให้น้อยกว่า 5,000 ก็ว่าผมอักตัญญู บอกว่าผมไม่ได้อยู่ดูแลก็ควรให้เงินตอบแทน ให้แค่ 5,000 มันยังน้อยไป ที่จริงควรให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ ผมเคยบอกว่าจะลาออกงานที่ทำอยู่ตอนนี้แล้วกลับไปหางานทำแถวบ้าน เงินเดือนอาจจะได้น้อยลงแต่ก็ได้อยู่บ้าน พ่อแม่ผมก็ไม่ยอม เคยเปิดใจคุยเรื่องเงินกับพ่อแม่แต่พ่อผมบอกว่าภาระของแกไม่เกี่ยวกับพ่อแม่ แต่แกต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ นั่นเป็นหน้าที่ของแก ผมไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากคุยโทรศัพท์ ยอมรับว่าทุกครั้งที่เห็นเบอร์โทรศัพท์ของพ่อหรือแม่ ผมไม่อยากรับสายเลย ผมคิดไม่ตก ผมเครียดมากครับ