เรื่องสั้น "เศษความหวัง"
เศษความหวัง
โดย : อักษราลัย
อนงค์มองเป็ดที่แขวนเรียงรายอยู่ในตู้ใบนั้นอย่างพอใจ ขณะก้าวขาเข้าไปในร้าน เธอมาที่นี่บ่อยอย่างน้อยก็อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง นอกจากจะมีเป็ดพะโล้ที่อร่อยมากแล้ว ร้านนี้ยังมีอาหารตามสั่งขาย เมนูโปรดของเธอก็คือ ข้าวไก่กระเทียมพริกไทย ที่แม่ค้าทำได้ถูกใจเธอเหลือเกินไก่แห้ง ๆ จนคล้ายไก่ทอดกับรสที่พอดิบพอดีระหว่างเค็มนิด ๆ หวานหน่อย ๆ และที่ติดใจต้องสั่งคู่กันคือเครี่องใน ที่เธอเลือกเฉพาะเลือดกับตับมากินแกล้มกับข้าวด้วยเสมอ แค่นึกก็น้ำลายสอเสียแล้ว
สั่งอาหารแล้วเธอก็เดินมานั่งลงยังโต๊ะริมน้ำ สายลมแผ่วเบาพัดมาต้องผิวกายสดชื่นดีเหลือเกิน ปลาตัวโตลอยตัวขึ้นมาอ้าปากอยู่บนผิวน้ำ ตรงชายน้ำฝั่งตรงข้ามเป็นกอไผ่สองกอที่ปลายของทั้งสองต้นโค้งงอเข้าหากันมองเหมือนซุ้มประตู ด้านใต้ของต้นมีใบไผ่ตกอยู่หนาจนมองคล้ายพรมใบไผ่ เป็นร้านในเมืองที่เป็นเพิงธรรมดา หากแต่มีวิวที่พิเศษที่เธอบังเอิญได้พบเจอ
ราคาอาหารที่ไม่แพงจนเกินไปนักกับคนเงินเดือนน้อยเช่นเธอ ร้านนี้จึงเป็นร้านโปรดในดวงใจ ด้านหลังโต๊ะที่เธอนั่งมีสะพานไม้แผ่นเดียว ที่ตรงด้านหัวและท้ายมีราวยึดเกาะ แต่ตรงกลางสะพานกลับโล่ง และเธอไม่เคยเห็นใครข้ามสะพานนี้เลยสักคน อยากเห็นเหมือนกันว่าสะพานนี้ใช้ได้จริงไหม เพราะถ้าเป็นเธอพอพ้นจากจุดที่มีราวเกาะ เธอคงก้าวไปได้อีกไม่เกินสองก้าวแน่ ๆ คงตกลงไปในน้ำนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
อาหารที่สั่งมาแล้ว ระหว่างที่อนงค์นั่งละเลียดกินอาหารอย่างเพลิดเพลินนั้น ชายหนุ่มใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น ดีดกระดิ่งรถจักรยานอยู่หน้าร้าน ตรงตระแกรงท้ายมีเด็กหญิงอายุราวสามสี่ขวบซ้อนท้ายมาด้วย ชายหนุ่มจอดรถจักรยานก้าวลงพร้อมกับอุ้มเด็กหญิงลงมายืนรอข้างฟุตบาธหน้าร้าน เด็กหญิงยืนมองเป็ดในตู้และยกนิ้วโป้งขึ้นดูด ชายหนุ่มหยิบแผงพลาสติกพับเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีเชือกคล้องสำหรับสะพายแขวนไว้กับลำตัวจากตระกร้าด้านหน้า เขาเดินเข้ามาในร้าน ยามเช้าแบบนี้ลูกค้าในร้านมีอนงค์เพียงคนเดียว เขาเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเด็กหญิงที่เดาได้ว่าคือลูกสาว เขายิ้มให้เธอพร้อมกับกางแผงนั้นออก
"รางวัลไหมครับ" เขามองสบตาเธอแล้วเอ่ยถาม
อนงค์เลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ กับเจ้ากระดาษใบน้อยที่ควรมีราคาแปดสิบบาทนี้มานานแล้ว แต่วันนี้เธอกลับให้ความสนใจมัน
"85 มีไหม"เธอถามกลับไป
เขาชี้มือลงไปยังตำแหน่งที่มีเลขนี้ติดอยู่ พร้อมกับดึงมันขึ้นมาเตรียมยื่นให้เธอ
"กี่บาท" อนงค์ถามกลับยังไม่ยอมยื่นมือออกไปรับกระดาษใบเล็ก ๆ นั้น
"ร้อยหนึ่งครับ"
เขาตอบพร้อมกับหันไปดูเด็กหญิงที่ดึงชายเสื้อของเขามองมาด้วยสายตาละห้อย อนงค์มองตาม เธอสบตากับเด็กหญิงคนนั้น สายตาเธอสื่ออะไรออกไปก็ไม่รู้ได้ แต่เด็กน้อยนั้นยิ้มตอบกลับมา นัยน์ตาสดใสเป็นประกาย
อนงค์ยิ้มตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ชายหนุ่ม คำพูดที่เตรียมจะถามหาความถูกต้องของราคาตามที่รัฐประกาศถูกกลืนหายไปในลำคอ มือล้วงไปในกระเป๋าหยิบแบงค์ร้อยขึ้นมายื่นให้ชายหนุ่ม ชำเลืองมองตัวเลขแห่งความหวังนั้นแว่บเดียวก่อนจะยัดมันลงไปในกระเป๋าสะพายข้างตัว
เด็กน้อยเดินจูงมือชายหนุ่มผู้เป็นพ่อเดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะอีกมุมด้านหนึ่งของร้าน เธอตะโกนสั่งแม่ค้าด้วยน้ำเสียงสดใสว่า
"หนูเอาข้าวหน้าเป็ดเหมือนเดิมค่ะ"
อนงค์อมยิ้มกับภาพนั้น เศษเสี้ยวของความหวังบนแผ่นกระดาษนั้น มีค่าน้อยกว่ารอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั้นเสียอีก
แต่...ถ้ากระดาษแผ่นนั้นจะตอบแทนเธอกลับมาบ้างเธอก็เอานะไม่ใช่ไม่เอา ... ▪︎