มารู้จักโรคส่าไข้กันเถอะ!!
มารู้จักโรคส่าไข้กันเถอะ!!
หลายๆคน คงจะเคยได้ยินหรือเห็นอาการ ของโรคส่าไข้หรือหัดกุหลาบ ในลูกน้อยหลังจากที่ไข้ลดลง ว่าแต่ว่าโรคนี้มันคืออะไรกันนะ? และ มีอาการอย่างไรบ้าง?
โรคส่าไข้หรือหัดกุหลาบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อว่า "Human Herpesvirus Type 6 (HHV-6)" เป็นเชื้อไวรัสพวกเดียวกับ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม พบได้บ่อยที่สุดในช่วงอายุ 6-12 เดือน และ พบได้น้อยมากในเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป
ซึ่งสามารถติดต่อได้ โดยการหายใจสูด เอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วย ที่ไอหรือจาม หรือติดต่อโดยการสัมผัส คือ เชื้ออาจติดอยู่ที่มือของผู้ป่วย ติดตามสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เมื่อคนปกติมาสัมผัส เชื้อก็จะติดมากับมือของคนๆนั้น และ เมื่อแคะจมูก หรือ ใช้นิ้วมือขยี้ตา เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว จะแสดงอาการภายใน 5-15 วัน
อาการของส่าไข้หรือหัดกุหลาบ
ในระยะแรกจะมีไข้สูงเฉียบพลัน ซึ่งสูงถึง 39.5 ถึง 40.5 องศาเซลเซียส อาจมีอาการชักจากไข้ขึ้นสูง หรือ ตัวร้อนอยู่ตลอดเวลา จากนั้น 3 วัน ไข้ก็จะลดลงเป็นปกติอย่างรวดเร็ว หรือ อาจจะค่อยๆลดลง หลังจากไข้ลดไม่กี่ชั่วโมง ก็จะมีผื่นเล็กๆสีแดง คล้ายกุหลาบขึ้น เริ่มที่หน้าอก หลัง ท้อง คอ และ แขน อาจขึ้นที่ใบหน้าหรือขาก็ได้ แต่จะไม่ค่อยมีอาการคัน
ผื่นอาจอยู่นาน 1-3 วัน หรือ อาจขึ้นมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะจางหายไปเอง ในบางรายอาจพบว่ามีอาการคอแดง เยื่อบุตาแดง หรือ มีอาการอักเสบที่แก้วหูร่วมด้วย และ อาจคลำพบต่อมน้ำเหลืองโต ที่บริเวณหลังหู ท้ายทอย หรือ บางรายอาจมีเพียงไข้สูง โดยไม่มีผื่นขึ้น หรือ อาจขึ้นจางๆไม่ชัดเจน ซึ่งก็ทำให้การวินิจฉัยได้ไม่แน่ชัด
การรักษาส่าไข้หรือหัดกุหลาบ
เมื่อมีไข้สูง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดตัวบ่อยๆ ไม่สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ หรือ ห่มผ้าหนาๆ เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อน รับประทานยาลดไข้ ควบคู่กันไปกับการเช็ดตัว หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน เพราะอาจเสี่ยงการเกิด "โรคเรย์ซินโดรม" และ ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ
โรคนี้มักหายได้เองภายใน 3-5 วัน หรือ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ หากพบว่าเด็กมีอาการซึมลง ภายใน 3-5 วัน ไข้ไม่ลดลง ไม่ปัสสาวะนาน 4-6 ชั่วโมง หายใจหอบ อาเจียน หรือ มีอาการชักร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที!!
รูป: Google