ความเดียวดาย
ความเดียวดาย
โดย : อักษราลัย
เอกจ้องมองภาพในจอโทรทัศน์อย่างซึมเซา ยอดตัวเลขผู้ป่วยจากไวรัสโคโรน่าสูงขึ้นทุกวัน วันนี้เขาได้รับข่าวว่าลูกสาวต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งจากอาการความดันต่ำและขาดสารอาหาร กานอดีตภรรยาโทรศัพท์มาบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับจะหมดหวัง
เอ คือลูกสาวคนเดียวของพวกเขา จากที่เคยเป็นลูกสาวตัวอวบอ้วน น้ำหนักเกือบร้อยกิโล ตอนนี้ลูกกลับซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ด้วยอาการของโรคร้ายในช่องท้อง ทำไมไม่เป็นเขา เขามีชีวิตมานานพอแล้ว แลกกันได้ไหมเขาเอ่ยขอวิงวอนทุกคราวที่สวดมนต์
เมื่อได้ฟังว่าลูกต้องเข้าโรงพยาบาลกระทันหันเขาตั้งใจจะเข้าไปเยี่ยมลูกทันทีที่รู้ข่าว แต่กานอดีตภรรยาของเขาบอกว่าไปไม่ได้ โรงพยาบาลเขาไม่ให้ไป ไม่ให้นอนค้าง ไม่ให้คนอื่นไปเยี่ยม นอกจากเธอเพราะลงชื่อไว้แล้ว เพราะเป็นมาตรการดูแลตามกฏของโรงพยาบาลในช่วงนี้
"แล้วจะไปเยี่ยมได้เมื่อไหร่" เขาถาม
"พรุ่งนี้ล่ะไปได้ไหม ผมเป็นพ่อของลูกนะ แล้วลูกก็ป่วยหนักขนาดนี้" เขากล่าวตอบเธอไปด้วยน้ำเสียงที่เจือความอึดอัด
"ไม่รู้นะ เดี๋ยวจะลองถามให้" กานตอบกลับมาเบา ๆ
วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว ใจของเขากลับระทมทุกข์หนักขึ้นกว่าเดิม
"มันอะไรกันนักหนาวะ ปีที่แล้วหมอนัดผ่าตัดก็ต้องเลื่อนเพราะไอ้โรคเวรนี่ทีเดียว" เขาคิดอย่างทดท้อใจ แล้วนี่ยังไม่ให้เยี่ยมอีก
ครั้งที่แล้วที่เจอกันลูกก็ซูบซีด แววตาหม่นหมอง และวูบหนึ่งเขาอดคิดไม่ได้ว่า แววชีวิตของลูกหายไป เขาหวั่นมาตั้งแต่คราวนั้นว่า หากลูกต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง เขาจะได้เห็นลูกกลับออกมาอีกหรือไม่
พรุ่งนี้ยังไงเขาก็ต้องหาทางไปเยี่ยมลูกให้ได้ ลูกของเขาทั้งคน เขาจะปล่อยให้เธอเดียวดายได้ยังไง และที่สำคัญที่เขาแอบคิดคือ "ไม่มีใครอยากตายเพียงลำพัง" เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ต้องไป เขาคิดด้วยใจที่ระทมทุกข์ แม้จะเป็นคนเข้มแข็ง แต่ก็อดมีน้ำตาคลอออกมารอบดวงตาไม่ได้
เช้าแล้วเขาออกมายืนแกว่งแขนหน้าบ้าน แดดรำไรจากแสงดวงอาทิตย์ที่ทาบทาเข้ามายังบริเวณที่เขายืน ภาพนี้เคยเป็นภาพแห่งความหวัง แต่วันนี้กลับให้ความรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้ามลอยปลิดปลิวจากขั้วเคว้งคว้างร่วงลงสู่พื้นดิน อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกใจหายชอบกล
"เอ...ลูกพ่อ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะลูก…รอพ่อก่อน"
เขารีบเดินเข้าบ้านเพื่อไปหยิบโทรศัพท์โทรหากานอดีตภรรยา ขณะกำลังเลื่อนมือเพื่อปัดหน้าจอเข้าสู่โหมดกดโทรศัพท์ มือถือของเขาก็กรีดเสียงร้องขึ้นมาก่อน จนเขาสะดุ้ง กานนั่นเองที่โทรมา
"ว่าไงมีอะรึเปล่า โทรมาแต่เช้าเชียว" เขาละล่ำละลักพูดออกไป กานไม่ตอบ มีเพียงความเงียบ
"กาน...ว่าไงมีอะไร ทำไมถึงโทรมาแต่เช้า" เขากล่าวถามซ้ำด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม
"ไม่มีอะไรหรอก จะโทรมาบอกว่าไม่ต้องมาเยี่ยมลูกแล้ว ลูกจะกลับบ้านแล้ว ลูกจะกลับไปอยู่บ้านถาวรแล้วนะพี่"
โทรศัพท์ร่วงจากมือสู่พื้นแตกกระจาย น้ำจากดวงตาหลั่งรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยให้ใครเห็น เขาทรุดสะอื้นไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
"พ่อขอโทษนะลูก พ่อขอโทษ ที่ทำให้หนูต้องเดียวดายเพียงลำพัง"
~⚘~