ข่าวประจำวัน(เรื่องสั้น)
ข่าวประจำวัน
-หนึ่ง-
ผมตื่นก่อนนาฬิกาปลุกห้านาที ระยะหลังๆ มานี้การตื่นนอนและการเข้านอนผิดเวลาไปจากเดิม จะเป็นเพราะผมหยุดดื่มเหล้าหรืออย่างไรก็ไม่แน่ใจ
ผมเลิกดื่มเหล้ามาได้เกือบๆ ห้าเดือนแล้ว สุขภาพดีขึ้น การงานก็ดีขึ้น ไม่ไปทำงานสาย ไม่ลาป่วย ไปทำงานก่อนใครอื่นในออฟฟิศ ผู้จัดการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
จากเมื่อก่อนเข้านอนดึกดื่น เมาหัวราน้ำ ข้าวปลาไม่สน เสื้อผ้ายับย่น นาฬิกาจะปลุกกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน ร่างกายทรุดโทรม ไปทำงานสาย ลาป่วยเป็น ว่าเล่น ผู้จัดการเห็นต้องเมินหน้าหนี
กดรีโมททีวีตามความเคยชินมากกว่าจะสนใจข่าวจริงจัง ชีวิตบนตึกสูงใจกลางกรุง ก็เป็นอย่างนี้แหละ จำเจกับป่าคอนกรีต จมปลักอยู่กับทะเลของยานยนต์ สำลักควันและมลพิษให้เต็มปอด
“เมื่อคืนเวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่งมีคนร้ายวัยรุ่นสองคนขี่จักรยานยนต์ในย่านถนนรัตนาธิเบศร์ พบพ่อค้าลูกชิ้นปิ้งริมถนน คนซ้อนท้ายใช้มีดกระหน่ำแทงพ่อค้าชะตาขาดไม่ยั้ง พ่อค้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ กระเป๋าเสื้อและกางกางของผู้ตายถูกรื้อค้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามโจรใจอำมหิต ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นติดยาในละแวกนั้น” (ภาพข่าว/รถเข็นขายลูกชิ้น รอยเลือดบนพื้นถนนคอนกรีต)
ผู้ประกาศข่าวสาวประจำทีวีช่องดังรายงานข่าว ผมคุ้นเคยใบหน้าหล่อนดี หล่อนนั่งคู่กับผู้ประกาศข่าวชายชื่อดัง ผมจำชื่อหล่อนไม่คอยได้ ทีวีทุกช่องมีข่าวเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่เป็นข่าวร้ายต้อนรับเช้าวันใหม่เสียด้วย
ผมแต่งตัวอย่างรีบเร่งด้วยกางเกงสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เน็คไทสีดำ ไม่ได้ไว้อาลัยให้ใคร ผมชอบของผมอย่างนี้เอง
................................................................
-สอง-
รถราบนท้องถนนคืบคลานทีละนิด คงอีกสักหนึ่งชั่วโมงนั่นแหละผมจึงจะถึงที่ทำงาน อย่างไรเสียผมก็คงไม่สาย ผมเผื่อเวลาไว้แล้ว กดวิทยุหาคลื่นที่ถูกใจเป็นเพื่อนยามอยู่กลางทะเลไอเสีย เช้าๆ อย่างนี้แทบไม่มีรายการอื่น นอกจากรายการข่าว เป็นเสียงผู้ประกาศข่าวสาวคนเดิมที่ออกอากาศทั้งทีวีและวิทยุ
“เธอเล่าว่า ขณะที่เธอขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากโรงงานเพื่อเดินทางกลับบ้าน ซึ่งอยู่ไกลออกไปประมาณห้ากิโลเมตร มีรถหกล้อแล่นตามมาด้วยความเร็วสูง แล้วก็เฉี่ยวมอเตอร์ไซค์ของเธอล้มลง เธอพยายามลุกขึ้นแต่ลุกไม่ได้เพราะมอเตอร์ไซค์ทับร่างเธออยู่ จากนั้นเธอเห็นรถหกล้อถอยกลับมาแล้วเหยียบเธอและมอเตอร์ไซค์ซ้ำอีก เธอแกล้งนอนนิ่ง ต่อมาเธอได้ยินเสียงคนลงจากรถ เธอได้ยินเสียงถามว่า “ตายหรือยัง” อีกคนตอบว่า “ตายแล้ว” เธอไม่กล้าลืมตาและขยับร่างกาย ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจอดแล้วก็มีเสียงถามว่า “ทำอะไรน่ะ” มีเสียงรองเท้ากระทบพื้นเหมือนคนวิ่งแล้วรถหกล้อก็ตะบึงหายไป” (คิดตามข่าว/ภาพหญิงสาวชุดคนไข้โรงพยาบาล มีผ้าพันแผลที่ศีรษะและแขนขา)
เวรกรรมจริงๆ มีแต่ข่าวร้ายทั้งนั้น ผมรีบเปลี่ยนไปคลื่นอื่นๆ แต่ก็มีข่าวแบบเดียวกัน
เสือกหัวรถเข้าไปได้พอดิบพอดี หากมาทำงานสายต้องจอดรถตากแดดทั้งวัน ตั้งแต่หยุดดื่มเหล้าผมไม่เคยให้รถคู่ชีพต้องจอดตากแดดตากฝนเลย ผมมาทำงานเช้ากว่าคนอื่นจึงมีที่จอดรถให้ผมเสมอ
ผู้ประกาศข่าวสาวรายงานข่าวชิ้นสุดท้ายก่อนที่ผมจะดับเครื่องรถ
“ข่าวการเสียชีวิตของนางสาวเอนามสมมุติที่คอนโดย่านบึงกุ่มที่เรารายงานไปเมื่อวานนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มที่เป็นแฟนของนางสาวเอนั่นเอง เขาชื่อคุณสมชาย คุณสมชายให้การว่าวันนั้นเขาดื่มเหล้าเมาและมีเรื่องทะเลาะกับนางสาวเอ เนื่องจากนางสาวเอมีคนมาติดพันเยอะ เขาใช้น้ำมันราดตัวนางสาวเอก่อนจะจุดไฟเผา” (คิดตามข่าว/ภาพร่างไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังห่อด้วยผ้าขาว)
ผมไขกุญแจออฟฟิศ แม่บ้านยังไม่มา คนอื่นๆ ก็ยังไม่มา นี่ผมมาทำงานคนแรกอีกแล้วหรือนี่ เหลือบดูงานบนโต๊ะก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก ไม่ดื่มเหล้า มาทำงานเช้า แล้วจะมีอะไรเหลือให้ทำนัก
……………………….......................................
-สาม-
วันหยุดเสาร์อาทิตย์คนอื่นใช้ชีวิตอย่างไรผมไม่รู้ สำหรับผมจะนอนตื่นสาย ตื่นแล้วก็แต่งตัวไปเดินเล่นแถวๆ ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เดี๋ยวนี้ห้างที่มีชื่อเสียงใหญ่โตมีอยู่แทบทุกซอย จะเดินหรือนั่งรถไปก็แล้วแต่สะดวก
เสาร์นี้ก็เช่นกันผมไปกินข้าวกลางวันที่ห้างใกล้บ้าน อิ่มท้องแล้วก็ไปที่ร้านหนังสือ ได้หนังสือเล่มเล็กติดมือมาหนึ่งเล่ม ย้ายก้นตัวเองเข้าไปเลือกแผ่นหนัง เลือกหนังเก่าๆ ได้สามเรื่อง เดินเอ้อระเหยรับแอร์เย็นฉ่ำไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ประหยัดค่าไฟที่ห้องพักได้เยอะ มาใช้ไฟรวมที่ห้างดีกว่า มีแต่ความสะดวกและความสวยงามรอบกาย
มีคนกระแทกผมอย่างแรง ผมผงะหงาย ถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะมองหาคู่กรณี
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” เสียงคุ้นหู ใบหน้าสวยหวานคุ้นตา
“เป็นอะไรไหมคะ”
“ไม่..ไม่เป็นไรครับ”
ผมตอบอึกอักด้วยความคาดไม่ถึง ผมเห็นหล่อนทุกเช้าตอนตื่นนอนและเวลาพลบค่ำ หล่อนปรากฏกายพร้อมกับข่าวร้ายประจำวัน ถึงจะเป็นข่าวร้ายผมก็ชอบหล่อน
ข่าวภาคค่ำวันเดียวกัน ผมเห็นหล่อนนั่งอ่านข่าวเหมือนเดิม
“เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบอุบัติเหตุเด็กพลัดตกตึกอาคารเอ ชั้นเจ็ด แฟลตที่พักของพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พบเด็กชายอายุสามขวบ เสียชีวิตอยู่ที่พื้นด้านล่าง โดยมีพ่อแม่เด็กร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ สอบสวนได้ความว่า ทั้งคู่เป็นพนักงานขับรถและทำความสะอาดของบริษัท เวลาออกไปทำงานจะฝากลูกชายไว้กับเพื่อนข้างห้อง เพราะมีลูกวัยไล่เลี่ยกัน ก่อนเกิดเหตุเพื่อนข้างห้องอาบน้ำให้ลูก ทิ้งเด็กชายวัยสามขวบเล่นอยู่ลำพัง พอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นเด็กแล้ว สักพักถึงรู้ว่าตกตึกเสียชีวิต คาดว่าเด็กคงปีนเล่นซุกซนตามประสาตรงระเบียงหน้าห้องก่อนพลาดร่วงลงไปตายสยอง” (ภาพข่าว/แม่ร้องไห้ก้มกอดลูก พ่อนั่งคุกเข่าน้ำตานองหน้า)
ตามด้วยข่าวต่างประเทศ สีหน้าแววตาผู้ประกาศข่าวสาวสลดหดหู่กับข่าวนี้
“ตำรวจบังคลาเทศเข้าช่วยเหลือชาวพม่าที่ล่องเรือหลบหนีออกจากประเทศพม่าเพื่อลักลอบข้ามพรมแดนไปยังบังคลาเทศ แต่เนื่องจากขาดน้ำดื่ม เพราะน้ำที่เตรียมมาใช้ได้เพียงหนึ่งเดือน ขณะที่ต้องเดินทางอยู่กลางทะเลถึงสองเดือน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนเก้าสิบแปดคน ต้องทิ้งศพผู้เสียชีวิตลงกลางทะเลศพแล้วศพเล่า” (ภาพข่าว/แม่ใบหน้ากร้านแดดลมกำลังอุ้มลูกน้อยผอมโซและร้องงอแง ด้านหลังเป็นกลุ่มคนแววตาสิ้นหวังกลุ่มใหญ่)
..................................................................
-สี่-
ผมงัวเงียแหกขี้ตาตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียง สงสัยวันวานคงเพลียไปหน่อย ผมจึงหลับเป็นตายจนรุ่งเช้า สั่นศีรษะไล่ความมึนงงแล้วฝืนใจลุกขึ้น ไม่ลืมที่จะควานหารีโมททีวี กดปุ่มไปที่ช่องประจำ ถึงไม่ได้ดูข่าวก็ขอให้ได้ฟังเสียงระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน เสียงผู้ประกาศข่าวชายชื่อดังใส่อารมณ์เจื้อยแจ้วเช่นเดิม ส่วนผู้ประกาศข่าวสาวเปลี่ยนหน้าเป็นสาวใบหน้าคมขำ ไม่ใช่หญิงสาวใบหน้าสวยหวานคนเดิมที่ผมคุ้นหน้าคุ้นเสียง หล่อนหายหน้าไปหลายวันแล้ว
ผมรีบเข้าห้องน้ำ แปรงฟัน อาบน้ำชำระล้างร่างกาย เสร็จแล้วก็แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่แต่สีเดิม คือกางเกงสีดำเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว และเน็คไทสีดำ
“ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่จะต้องอ่านข่าวนี้ ผู้ที่เป็นเหยื่อในข่าวนี้เคยนั่งข้างๆ ผมนี่เองเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ รายละเอียดของข่าวเป็นอย่างนี้ครับ แม่บ้านที่พบศพบอกกับนักข่าวว่า ปกติจะทำความสะอาดคอนโดทุกวันในเวลาประมาณเก้าโมงเช้าถึงเที่ยง ตึกมีแปดชั้น ไม่ได้ทำในห้อง แต่ทำความสะอาดบริเวณทางเดินทุกชั้น เก็บขยะหน้าห้องและปัดกวาดเช็ดถู เมื่อวานขณะหล่อนกำลังทำความสะอาดหน้าห้องสามสองหนึ่ง แม่บ้านได้กลิ่นเหม็นคล้ายหนูตายหรืออะไรสักอย่าง หาซากเท่าไรก็หาไม่พบ เคาะห้องสามสองหนึ่งหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับ กลิ่นเหม็นดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นทุกที แม่บ้านจึงไปเรียกผู้ดูแลตึกเพื่อใช้กุญแจสำรองเปิดห้อง พอเปิดห้องแม่บ้านถึงกับเป็นลม สภาพศพเธอบวมอืด ตาเหลือกถลน มีร่องรอยของการต่อสู้ ข้าวของภายในห้องกระจัดกระจาย พนักงานสอบสวนสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วห้าวัน” (ภาพข่าว/ร่างบวมอืดกลางห้องนอนที่ไม่เป็นระเบียบ ตัดสลับกับภาพหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน)
ผู้ประกาศข่าวชายบรรยายเพิ่มเติมว่าสถานที่เกิดเหตุคือ ห้องสามสองหนึ่ง แสนสุขคอนโดมิเนียม หญิงสาวที่กลายเป็นศพคือผู้ประกาศข่าวซึ่งเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของชาวบ้าน ชื่อนางสาวเสาวรส บางคนดี ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อเวลาประมาณสองทุ่มของวันที่สิบตุลาคมหญิงสาวกลับคอนโดพร้อมกับชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่งซึ่งสวมกางเกงสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับถึงข้อศอก และผูกเน็คไทสีดำ ภาพใบหน้าของชายหนุ่มไม่ชัด จากการตรวจสอบปรากฏว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวออกจากตึกไปเวลาประมาณสี่ทุ่ม
ผมเปลี่ยนใจแล้ว วันนี้ผมจะลาป่วยหนึ่งวัน ผมจะต้องไปตัดผมให้สั้นเกรียน และหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทิ้งกางเกงสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว และเน็คไทสีดำให้หมด
พิมพ์ครั้งแรก
สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์
๗-๒๓ กันยายน ๒๕๖๑