หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลองอ่าน จะเข้าใจ คนที่ไม่มีลูก แก่ไปใครจะเลี้ยง

โพสท์โดย Ciphatha

ในปัจจุบันนี้ก็มีคนแก่ชราหลา ยคน มากที่เข้ากับครอบครัวของลูก ๆ ไม่ได้ บางทีความคิดแบบเดิมมันอาจจะต้องปรับแล้วก็ได้ ทำไมไม่คิดว่าอยากจะให้ลูกเลี้ยงดูในตอนแก่เป็นการ ดูแลตัวเองได้ในตอนแก่บ้าง จะเอาสมัยก่อนกับปัจจุบัน มาเที่ยวกัน มันไม่ได้ ที่พ่อแม่มีลูกตั้งหลา ยคนยังเลี้ยงได้ ทำไมลูกเลี้ยงพ่อแม่บ้างไม่ได้ ซึ่งมันก็อาจจะน่าคิด แต่ลองมองถึงค่าครองชีพและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันสิมันเหมือนสมัยก่อนงั้นหรือ

เชื่อว่าคงมีหลา ยคนเคยได้ยินคนพูดกันว่า หากมีลูก เเก่ตัวมาจะได้มีคนเลี้ยงเเละ อีกคำพูดหนึ่งคือ ถ้าหากไม่มีลูก เเก่มาใครจะเลี้ยง ซึ่งความคิดแบบนี้ถูกส่งต่อสืบทอ ดกัน มาตั้งแต่โบราณกันเลยทีเดียวและในหลา ย ๆ คนก็ยังคิดแบบนี้กันอยู่เสี ยด้วย

แต่ว่าก็ยังมีคนเเก่ที่ปรับตัวอยู่กับครอบครัวไม่ได้ แล้วคุณล่ะคิดกับเรื่องนี้อย่างไร เอาล่ะไม่ต้องตอบเราแต่คุณลองมาดูและให้คำตอบตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยสอนใจได้ไม่น้อยเลย เรื่องมีอยู่ว่า

มีคุณแม่คนหนึ่งที่สามีของเธอเสี ยไปนานแล้ว เธอทำงานคนเดียวโดยสอนหนังสือหาเงิน มาเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงลูกชายจนเติบโตมา และ เด็ ก ชายก็เป็นคนว่าง่ายเชื่อฟังแม่ตั้งแต่ เด็ ก ๆ เลย พอลูกโตก็ส่งไปเรียนต่อ อ เม ริ กา หลังจากเรียนจบเขาก็อยู่ทำงานที่นั่นต่อ ซื้อบ้าน แต่งงาน มีลูก 1 คน สร้างครอบครัวอบอุ่นและมีความสุข

แล้วแม่เขาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับลูกและลูกสะใภ้และหลานที่ อ เม ริ กา ในช่วงวัยหลังเกษียณ ชีวิตบั้นปลา ยก็มีความสุขดี ซึ่ง 3 เดือนก่อนที่จะเกษียณนั้นก็รีบเขียนจดหมดบอ กกับลูกชาย

ซึ่งบอ กถึงความปรารถนากับลูกชายว่า มีลูกเอาไว้เลี้ยงยามเเก่ คิดถึงสายตาของญาติพี่น้อง เพื่อน ๆ เพียงแค่คิดถึงภาพเหล่านั้นว่าทุกคนจะอิจฉาเธอ เธอก็มีความสุขและจากนั้นส่งไปก็รอจดหมายตอบกลับจากลูกชาย ซึ่งเธอก็จัดการเรื่องบ้าน งานต่าง ๆ เรียบร้อย

และในคืนสุดท้ายก่อนที่เธอเกษียณนั้นจดหมายจากลูกชาย ณ แดนไกลก็มาถึง พอเปิดออ กมาดูก็เห็นเป็นเช็คมูลค่า 3 หมื่นเหรียญด อ ล ล่า ห์ เธอก็แปลกใจมาก ๆ เพราะลูกชายไม่เคยส่งเงินให้เธอเลย แล้วจากนั้นก็ได้เปิดอ่า นจดหมายที่มีใจความว่า

แม่ครับ เราได้คุยกันแล้วตัดสินใจและได้ข้ อสรุปว่า พวกเราไม่ยินดีให้แม่มาอยู่ด้วยที่อ เม ริ กา ถ้าแม่คิดว่าแม่มีบุ ญคุณที่เลี้ยงดูผม คำนวณตามราคาตลาดก็ประมาณ 20,000 กว่าเหรียญ ผมก็เลยเพิ่มให้นิดหน่อยแล้วส่งเช็คให้ 30,000 เหรียญมาให้แม่นะครับ หวังว่าต่อไปนี้แม่จะไม่เขียนจดหมายหาผมอีก

หลังจากอ่า นจดหมายจบก็น้ำตาไหลเลย รู้สึกเหมือนต้องเป็นม่ายตลอ ดชีวิต และเธอก็ตัดสินใจศึกษาพระพุ ท ธ ศา ส นา หลังจากนั้นเธอก็คิดได้ว่าเธอใช้เงิน 3 หมื่นเหรียญไปเที่ยวรอบโลกจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ แล้วจากนั้นเธอก็เขียนจดหมาย 1 ฉบับหาลูกชาย ใจความในจดหมายเขียนว่า

ลูกรัก ลูกไม่อยากให้แม่เขียนจดหมายมาอีกก็ให้คิดเถอะว่าจดหมายฉบับนี้เป็นข้ อความเพิ่มเติมจากฉบับที่แล้วนะ แม่ได้รับเช็คแล้วและใช้เงินนั้นเดินทางเที่ยวรอบโลก ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวอยู่นั้น อยู่ ๆ แม่ก็รู้สึกว่าแม่ควรขอบใจลูก ขอบใจที่ทำให้แม่ได้เห็นอะไรหลา ย ๆ อย่าง

แม่ได้ปล่อยวาง ทำให้แม่ได้เห็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อน คนรัก ไม่มีรากหยั่งลึก เปลี่ยนแปลงได้ตลอ ด ถ้าวันนี้แม่ยังคิดไม่ตก ยังยึดติด ยังทุ ก ข์ แม่คงจากไปแล้วจากการปฏิเสธของลูก ทำให้แม่ได้เห็นว่าคนเราถ้ามีวา ส นาก็ได้เจอ หมดวา ส นาก็ต้องจากการ ทุกอย่างไม่เที่ยงแท้ ทำให้แม่เรียนรู้ที่จะสงบ มองทุกอย่างในเชิงบวก แม่ไม่มีลูกแล้วไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

ฉะนั้นแม่ถึงสามารถอยู่ได้โดยไม่มีมัน พ่อแม่ที่น่าสงสาร คนเป็นพ่อแม่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับมามันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด มีคนกล่าวเอาไว้ว่า บ้านของพ่อแม่คือบ้านของลูกตลอ ดเวลา บ้านของลูกไม่เคยเป็นบ้านของพ่อแม่หรอ ก

การให้กำเนิดลูกเป็นงานที่ต้องทำ การเลี้ยงดูเป็นภาระหน้าที่ การพึ่งพาลูกเป็นความเข้าใจผิ ด ช่างเป็นเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่แต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ แม้ว่าไม่ใช่ลูกทุกคนจะเป็นเหมือนลูกชายในเรื่องนี้ ที่ไม่มีหัวใจ แต่คนเป็นพ่อแม่ ไม่ควรคิดว่าเเก่แล้วจะต้องพึ่งพาลูก ๆ

หากจะพูดกันตามตรง เเก่แล้วก็ต้องดูแลตัวเอง เมื่อลูกกตัญญูต่อคุณแสดงว่าคุณมีบุ ญมาก หากลูกไ ม่กตัญญูพอพ่อแม่ก็ทำอะไรไม่ได้ วิ ธีที่ดีที่สุดคือ การวางแผนชีวิตตนเอง พึ่งพาตนเองให้ได้ จากมุมมองของสังคม การมีลูกจะได้มีเลี้ยงตนตอนเเก่เป็นความปรารถนาของใจ แต่ในปัจจุบันนี้อะไรหลา ยอย่างมันเปลี่ยนไป และยุคนี้ไม่เหมาะที่จะคิดว่ามีลูกเอาไว้เลี้ยงตอนเเก่อีกด้วย

หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยเตื อ นสติใครหลา ย ๆ คน การไปวางความคาดหวังไว้กับลูกนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย ขนาดคุณยังชอบที่จะเลือ กทางเดินให้กับตัวเองแล้วลูกคุณเขาจะไม่อยากทำบ้างหรือ หากคาดหวังมีลูกเอาไว้เลี้ยงตอนเเก่นั้น มันผิ ดและเห็นเเก่ตัวตั้งแต่คิดแล้ว เขาควรจะมีชีวิตที่เขาเลือ กเอง ในขณะเดียวกันคุณก็เลือ กที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้เหมือนกัน

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://pluto134340.com/บทความ/11594/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Ciphatha's profile


โพสท์โดย: Ciphatha
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
9 VOTES (4.5/5 จาก 2 คน)
VOTED: zerotype, ไทยเฉย
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
วิธีล้างผักให้สะอาดปราศจากสารพิษตกค้างจริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสีย
ตั้งกระทู้ใหม่