สาวที่เคยถูกครูทำอนาจารสรุปผล เอาผิดไม่ได้ แถมถูกข่มขู่ด้วย
น้องมาอัพเดทความคืบหน้าเกี่ยวกรณีทีออกมาเปิดเผยว่าเคยถูกครูทำอนาจารในชุดนักเรียน เอาไว้ในเพจ
หมวยแมวเมี๊ยว - Muay Maew Meowww ดังนี้
สรุปให้ว่าเอาผิดครูไม่ได้นะคะ ถึงต่อให้มีคลิบเสียงยืนยันว่าครูพูดว่าเกิดอารมณ์แบบผู้ชาย ก็เอาผิดไม่ได้ค่ะเพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่าอารมณ์อะไร
ส่วนพี่ที่อยากทราบโดยละเอียด
หนูขอแบ่งเป็น 4 ตอน
ตอนที่ 1 : ช่วงเวลาการเชิญไปรับฟังผลคำชี้แจง
ตอนที่ 2 : ช่วงเวลาก่อนเข้าพบ
ตอนที่ 3 : ผลคำชี้แจงจากทางโรงเรียน
ตอนที่ 4 : ประเด็นอื่นนอกจากการสอบสวน
[ที่เขียนยาว เพราะไม่อยากให้ข้อเท็จจริงเอนเอียงค่ะ อันไหนดีหนูก็เขียน อันไหนไม่ดีหนูก็เขียนค่ะ]
ช่วงเวลาการเชิญไปรับฟังผลคำชี้แจง
9 ธันวาคม 2563 - โรงเรียนส่งจดหมายเชิญคุณพ่อ คุณแม่ หนูไปฟังผลคำชี้แจงจากทางโรงเรียนในกรณีที่หนูถูกครูทำอนาจารในวันที่ 18 ธันวา
16 ธันวาคม 2563 - คุณแม่ส่งจดหมายปฏิเสธการรับฟังผลด้วยตัวเอง แต่ส่งตัวแทนไปฟัง เพราะว่าคุณแม่ผิดหวังกับการดำเนินการของทาง รร.
ในวันที่ 18 ธันวาคม 2563
มิสผู้ดูแลสอบถามว่า "หนูมาติดต่อใคร และติดต่อเรื่องอะไร"
หนูเลยบอกว่าหนูมาติดต่อผู้อำนวยการตามคำเชิญของ รร. ที่ส่งจดหมายเชิญมาให้
มิสผู้ดูแลบอกว่าไม่ทราบว่ามีการเชิญหนูเข้ามา จึงทำการติดต่อมิส ร. ผู้ดูแลฝ่ายบุคลลากร
ระหว่างที่คุยมิสสอบถามว่ามีคุณพ่อ คุณแม่มาด้วยไหม เพราะทางโรงเรียนเชิญแค่คุณพ่อกับคุณแม่มาฟังผล หนูเลยแจ้งว่าคุณพ่อมอบอำนาจในการตัดสินใจให้หนู ซึ่งหนูต้องการให้เพื่อนทั้งหมดเข้าไปฟังด้วยกัน
รร.เชิญหนูมา
แต่บุคลากรด้านในแทบไม่มีใครรู้ แง
หลังจากนั้นก็มี "มิส ร." "มิสแว่น" และ "นักกฏหมาย" เข้ามาในห้อง แล้วก็แจ้งว่าอนุญาตให้แค่คนในครอบครัวเข้าไปได้เท่านั้น
มิสแว่นแจงว่า "ขอคนที่เกี่ยวข้องทางสายเลือด ถ้าไม่มีก็ขอเป็นผู้แทนของคุณพ่อ คุณแม่ อย่างละคน ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าฟังผล เพราะนี่เป็นการคุยแบบครอบครัว ไม่ใช่การตั้งโต๊ะแถลงข่าว และเป็นสิทธิ์ของโรงเรียนที่สามารถใช้ได้"
หนูใช้สิทธิ์อะไรได้บ้างวะเนี่ย ?
พี่ "กว." บอกว่าตามหลักกฏหมายแล้วสามารถให้ทนาย และนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปได้ โดยที่ยังไม่รวมผู้ไว้วางใจอีก 3 ท่าน ในกรณีของน้องผมเป็นผู้ป่วยจิตเวชสามารถพาผู้ไว้วางใจเข้าไปได้อีก 1 คน รวมเป็น 6 คน
มิสแว่นบอกว่า "นี่เป็นรร. ไม่ใช่สถานีตำรวจ และรร.ไม่ใช่ผู้ต้องหา การคุยกับเอินวันนี้เป็นการคุยแบบครอบครัว"
พี่ "กว." เลยบอกว่าเมื่อเป็นการคุยแบบครอบครัวทำไมถึงต้องกำหนดคนในการเข้า ถ้าครอบครัวจริงพี่จะเชิญนักกฏหมายมาทำไมครับ
ระหว่างนั้นหนูก็เกิดภาวะแพนิค แอทแทค ชัก ร้องไห้ กรี๊ด เพราะกลัวที่ต้องไปเจอบราเดอร์ และคู่กรณี ตอนนั้นน้อง กับเพื่อนเริ่มเข้ามากอดแล้วถามว่าไหวไหม
" มิสแว่น" หันมาพูดกับพี่หนูว่า "ตอนนี้คนอยู่เยอะขนาดนี้ยังไม่สามารถควบคุมสติให้น้องได้เลย เข้าไปเยอะๆจะสร้างประโยชน์อะไร"
สรุปหนูผิดที่เป็นแพนิคแอทเทคหรอคะ ?
แล้วก็พูดแต่สิทธิ์ รร. ไม่เห็นพูดสิทธิ์หนูบ้างเลย
จะมีน้ำใจเผื่อแผ่อะไรขนาดนี้คะ
พี่นักสังคมสงเคราะห์เลยถามหนูว่าถ้าทุกคนได้เข้าไปเอินจะรู้สึกดีขึ้นไหม เอินก็พยักหน้า ระหว่างนั้นก็มีพยายามเข้ามาวัดความดัน (มิสผู้ดูแลจุดคัดกรองเป็นคนโทรเรียก)
ระหว่างวัดความดันพี่นักกฏหมายก็บอกว่าเราเชิญน้องมาเพื่อรับฟังผลคำชี้แจง แสดงให้น้องเห็นว่ารร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่อยากให้น้องพูดว่า รร. ไม่จัดการอะไร
ขนาดนี้คุณพี่ยังไม่คิดถึงหนูหรอคะ
พี่บ. ก็เลยบอกว่า "ถ้าแบบนั้นผมถามน้องเลยว่ากลับเลยดีไหม เพราะยังไงก็ส่งจดหมายมาก็ได้ เพราะการที่น้องมาที่นี่ก็เหมือนการซ้ำแผลเดิม แล้วน้องก็รู้สึกแย่กว่าเดิมมากๆ"
พี่นักกฏหมายบอกว่ามาถึงแล้วก็ฟังผลดีกว่าเผื่อน้องมีข้อสงสัยเพิ่ทเติมอะไรจะได้ถามกับทางโรงเรียนได้เลย [ขอบคุณที่ใส่ใจนะคะ]
พอจะกลับอยากให้อยู่
พอจะอยู่ให้เข้าได้แค่3คน
กราบแทบตักกกก
หมายเหตุ : บราเดอร์ไม่ได้เข้ามาชี้แจงผลด้วยตัวเองเนื่องจากท่านป่วย เลยส่งผู้แทนมา 3 คน คือ มิส ร. [หัวหน้าบุคคล] มิสแว่น และพี่นักกฏหมาย
ทางโรงเรียนใช้สิทธิ์ตัวเองให้บุคลากร3คนมาแทนบราเดอร์คนเดียว ในขณะที่หนูเป็นคนถูกกระทำกับใช้ได้แค่อย่างสิทธิ์ สุดยอดไปเลยยยยย
ผลคำชี้แจงและการสอบสวนของทางโรงเรียน
1. หนูเคยขอให้มีการจัดอบรม หรือหลักสูตรการสอนให้นักเรียนรู้จักสิทธิเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกายที่จะไม่ให้คนอื่นละเมิดได้ และไม่ไปละเมิดในเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น
มิส ร. แจ้งว่าการอบรมและหลักสูตรการสอนดังกล่าวนั้นมีการอบรมอยู่แล้ว ซึ่งสิทธิของเนื้อตัวร่างกายสอดแทรกในหลักสูตรแกนกลาง วิชาสังคมศึกษา
หนูไม่ได้รับการสอนให้เข้าใจ
ในเรื่องนี้สมัยตอนเรียนมอปลายเลย ?
มันมีสอนยังไงหรอคะ
ครูหัวหน้าหมวดวิชาสังคมชี้แจงว่าคุณครูทุกท่านได้สอนเรื่องสิทธิให้นักเรียนเพิ่มเติมจากหลักสูตรด้วย เช่น การวางตัว การแต่งตัว การนั่ง เป็นต้น
พึ่งรู้ว่าการวางตัวเป็นเรื่องสิทธิ
เข้าใจผิดมาทั้งชีวิตได้ยังไง
ครูสังคมแจ้งว่าการที่ไม่ทราบถึงสิทธิเนื้อตัวร่างกายของตนเองนั้นอาจจะเกิดจากข้อบกพร่องทางการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งคุณครูไม่สามารถยัดเยียดความรู้เหล่านี้ให้นักเรียนเข้าใจเท่ากันทุกคนได้
สรุปเด็กโง่เองที่เข้าใจไม่ได้
แต่บังคับให้เด็กตัดผมทรงเดียวกันทั้ง รร. ได้
ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว...
2. หนูขอให้มีการอบรมอาจารย์ให้รู้จักสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของนักเรียน
มิส ร. แจ้งว่าโรงเรียนมีการอบรมจากบุคลากรภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจในสิทธิมนุษยชนอยู่แล้วประจำทุกปี โดยให้การอบรมทั้งบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน
แต่พอถามว่าคนอบรมมาจากไหน
ไม่บอก บอกไม่ได้ 55555555555
หนูเสนอให้เบอร์ติดต่อนักมนุษยชนจาก UN
เพื่อเข้ามาสร้างองค์ความรู้แก่นักเรียนและครู
นักกฏหมายปฏิเสธการรับเบอร์ติดต่อ โดยชี้แจงว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของหนู และเป็นเรื่องที่คณะบริหารต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
ขอโทษที่จุ้นจ้านนะคะ
3.การดำเนินการสอบสวนที่หนูถูกครูทำอนาจาร
ไม่สามารถเอาผิดครูที่ทำอนาจารได้ แต่เอาผิดเรื่องที่อยู่สถานที่ไม่เหมาะสมกับนักเรียนในยามวิกาลแทน เพราะครูผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่ได้อนาจารหนู ทำเพียงแค่โอบกอดเท่านั้น
ทางโรงเรียนแจ้งว่าการกระทำดังกล่าวยังไม่เข้าขั้นการอนาจารจึงไม่สามารถลงโทษได้
ตามกฏหมาย
โอบกอดก็นับนะคะ
อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนก็เห็นว่าอาจารย์ท่านนี้ประพฤติไม่เหมาะสมในด้านวินัยเนื่องจากอยู่กับนักเรียนหญิงสองต่อสองในยามวิกาล
จากโทษหนัก
เป็นโทษเบา
เหลือแค่ภาคทัณฑ์
หนูถามทางโรงเรียนในกรณีที่ไม่สามารถเอาผิดอาจารย์ได้ เนื่องจากในคลิปเสียงซึ่ง อาจารย์กึ่งรับสารภาพไว้แล้วโดยกล่าวว่า "เกิดอารมณ์แบบผู้ชาย"
เมื่อหนูถามเรื่องนี้ทางโรงเรียนชี้แจงว่าโรงเรียนไม่สามารถระบุว่าอารมณ์แบบผู้ชายที่พูดนั้นหมายถึงอารมณ์แบบใด
และแม้ว่าอาจารย์จะเกิดอารมณ์ทางเพศจริง แต่อาจารย์ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการอนาจาร ทำเพียงแค่การโอบกอดเท่านั้น ตามความจริงมีการสอดมือไปใต้เสื้อด้วย
แต่ที่สงสัยจริงๆ รือ แค่อารมณ์แบบผู้ชาย
นี่มันยังไม่ชัดพออีกหรอคะ?
ครูต้องพูดชัดแบบไหน
ผมกำลังเกิดอารมณ์กำหนัด
ผมกำลังมีอารมณ์ทางเพศ
หรือต้องบอกว่าผม เxี่ยน โว้ยยย
ไม่เข้าใจจริงๆนะอันนี้
หลังจากฟังผลการสอบสวนพี่นักสังคมเลยถามว่าโรงเรียนสอบสวนยังไง
มิส ร. ชี้แจงว่าใช้การสอบสวนสอบจากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมที่สามารถหาได้ ประกอบกับคำบอกเล่าของหนู คลิปเสียง และเรียกอาจารย์ผู้ถูกกล่าวหามาสอบถาม แต่ไม่ได้แจ้งว่าสอบถามใครบ้าง
คนที่ใช้ในการสอบสวนเป็นคนภายใน สอบสวนโดยใช้ความรู้โดยตำแหน่ง ปังปุริเย่มากๆ
แค่มีความรู้โดยตำแหน่ง
ก็สอบสวนได้ งงไปเลย
หนูสอบถามเรื่องแหล่งรับเรื่องปัญหาการคุกคามภายในโรงเรียนว่ามีแหล่งรับเรื่องหรือไม่
- ทาง รร. มีกล่องจดหมายให้นักเรียนสามารถส่งเรื่องราวที่เป็นปัญหาถึงอธิการได้
- ทาง รร. ให้ครูประจำชั้นเป็นผู้ดูแลนักเรียนและรับเรื่องปัญหาของนักเรียน จากนั้นจึงส่งให้หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานบุคลากร และอธิการตามลำดับ
- เรื่องปัญหาของนร.ที่ไม่ขึ้นมาจนถึงด้านบน
แปลว่าเคลียร์ปัญหาจบไปแล้วตั้งแต่ครูประจำชั้น
- มิส ร.หัวหน้าบุคลากรบอกว่าไม่เคยได้รับแจ้งปัญหาการคุกคามทางเพศหรือความรุนแรงในรั้วโรงเรียนเลย เพราะถ้าทราบจะรีบดำเนินการแก้ไข
น่าตกใจที่คนข้างบน
ไม่เคยเห็นการคุกคามใน รร.
ในขณะที่เด็กๆเห็นจนเกือบเป็นเรื่องชินตาทุกวัน
หนูเลยมองว่ากระบวนการรับเรื่องนั้น
อาจไม่มีประสิทธิภาพทำให้ปัญหาของนักเรียน
ที่แจ้งนั้นขาดหายไป ทำให้ไม่เกิดการแก้ปัญหา
นักกฏหมายเห็นด้วยที่การรับเรื่องอาจไม่มีประสิทธิภาพ และบอกกับหนูจะนำประเด็นนี้ไปพิจารณาและแก้ไขต่อไป
ขอบคุณนะคะ
พี่นักกฏหมายชี้แจงว่าโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรียินดีช่วยเหลือหนูอย่างเต็มที่
เงื่อนไข : การช่วยเหลือและดำเนินการอื่นๆได้ก็ต่อเมื่อหนูเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมีผลการตัดสินจากศาลที่พิสูจน์ได้ว่าอาจารย์ท่านนั้นกระทำผิดจริง
อันนี้ไม่ได้เรียกว่าเต็มที่ครับ
อันนี้เรียกเพลย์เซฟ 5555
เพราะถ้าโรงเรียนไล่ออกครูท่านนี่อาจจะฟ้องโรงเรียนได้ โรงเรียนก็ต้องปกป้องตัวเองด้วย
หวังว่าเอินน่าจะเข้าใจทางโรงเรียนนะครับ
แต่มีเรื่องน่ายินดีอยู่อย่าง
ทางโรงเรียนยินดีที่จะยืนยันว่าหนู นางสาวนลินรัตน์ ตู้ทับทิม เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนอัสสัมธนบุรีจริง โดยได้เข้าศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
เป็นพระคุณอย่าสูง :)
พี่นักกฏหมายขอร้องให้หนูหยุดกระทำการใด ๆ ที่ทำให้โรงเรียนเกิดภาพลักษณ์ด้านลบ และทำให้ผู้ปกครองสูญเสียความเชื่อมั่นที่มีต่อ รร.
ไม่อย่างนั้นโรงเรียนอาจต้องใช้อำนาจและสิทธิ์ของโรงเรียนดำเนินการความผิดของหนูในกรณีที่ตรวจสอบได้ว่าหนูเป็นผู้ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง
อันนี้ขู่ป่ะคะ ฮือ
แต่พอหนูบอกว่าตัวเองเสียหายเรื่องอะไรบ้าง
ก็ตัดบทบอกว่าให้ปล่อยเป็นเรื่องอดีต
สุดยอดไปเลยจริงๆ ประทับใจมาก
มิสแว่นถามหนูว่าจะมั่นใจได้ยังไงว่าหลังจากคุยครั้งนี้หนูจะไม่โพสต์อะไรที่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงอีก
มิสคะ ที่ผ่านมาหนูก็ไม่เคยเปิดเผยชื่อโรงเรียนนะคะ แล้วความจริงเรื่องนี้หนูเสียหายที่สุดนะ
ตั้งแต่เข้ามาไม่พูดเรื่องหนูเลยนะ
งงมากว่าเรียกมาทำไม 55555
พี่นักกฏหมายบอกว่า อดีตที่ผ่านมาแล้วมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ให้มาดูดีกว่าว่าอนาคตจะยุติความเสียหายที่เกิดขึ้นในโรงเรียนได้ยังไง
ผมเข้าใจน้องนะเพราะผมก็มีลูกสาวเหมือนกัน โรงเรียนพร้อมยืนข้างน้องถ้าชั้นศาลมีผลว่าครูของเราผิดจริง
อยากบอกโรงเรียนว่าถ้าคุณจัดการเรื่องนี้เหมือนว่ามันเกิดกับลูกสาวคุณ คุณจัดการมันได้ดีกว่านี้แน่ๆค่ะ แล้วก็เลิกอ้างเรื่องโรงเรียนเสียชื่อเสียงเถอะค่ะ หนูเสียคุณภาพชีวิต เสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพจิตคุณไม่เห็นพูดเลย พูดแต่เป็นเรื่องอดีต
ศักดิ์ศรี ชื่อเสียงของโรงเรียน
มีค่ากว่าศักดิ์ศรีความเป็นคนของหนูตรงไหนหรอ?
แล้วก็เรียกมาคุยแบบนี้มันไม่ใช่การชี้แจงนะคะ
แบบนี้เรียกข่มขู่ค่ะ ^ ^
ปอลอ. อยากแซะ อยากด่าอะไรก็มาค่ะ พร้อมฟ้องเสมอเหมือนกัน ช่วยแชร์ไปทีค่ะขี้เกียจเจอคนให้กระเช้า ^ ^
ขอบคุณเพื่อน พี่ ๆ ที่ไปอยู่กับเรานะ กอด
โพสต์แรกที่เปิดเผยว่าถูกครูทำอนาจารทางเพจของตัวเอง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=164803071748196&id=114268650134972
โพสต์ที่สองที่ที่เปิดเผยว่าถูกครูทำอนาจารทางเฟสบุ๊กส่วนตัว
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4399942670077746&id=100001861685555
ลำดับเหตุการณ์การดำเนินการกับอาจารย์
https://www.facebook.com/114268650134972/posts/227076715520831/