คิดละภัยเวรขณะถูกเบียดเบียน จะค่อยๆห่างจากภัยเวร
โดนหมั่นไส้
มีศัตรูง่าย
ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรให้ใคร
เกิดจากกรรมเก่าแบบไหน?
หากอยู่ในช่วงเวลา 'โดนรุมเกลียด'
แบบหาความสมเหตุสมผลไม่ได้
ให้สันนิษฐานว่า
ครั้งหนึ่งเราอาจเคยมีอำนาจ
ในการเบียดเบียนคนบางกลุ่ม
จึงต้องเจอคนบางกลุ่ม
เป็นเครื่องลงโทษสาสมกัน
ต้องมาเป็นศัตรู
อยู่ในบ้านเดียวกัน หนีไปไหนไม่รอด
หรืออยู่ในที่ทำงานเดียวกัน
โดนแรงกระทบกระแทกประการต่างๆ
ทั้งจากการแดกดัน จากการกลั่นแกล้งในหน้าที่
หรือจากการปล่อยให้ติดขั้นเดิมไม่ไปไหน
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
โดยใจความสรุป
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
ถ้าไม่ละภัยเวร ๕ ประการ
ย่อมเป็นผู้ทุศีลในโลกนี้
ย่อมเป็นผู้เข้าถึงนรกในโลกหน้า
ภัยเวรทั้ง ๕ ได้แก่
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ
และดื่มน้ำเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ผู้ไม่ละภัยเวรทั้ง ๕
ย่อมประสบภัยเวรทั้งในปัจจุบัน
ทั้งในสัมปรายภพ
ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสอย่างใดอย่างหนึ่งแม้ทางจิต
(เวรสูตร)
พูดง่ายๆ
บาปที่ทำให้โดนรุมประชาทัณฑ์ด้วยความเกลียด
ก็คือการเคยเป็นผู้มีใจไม่ละอายในการก่อบาป
สร้างการเบียดเบียนได้ทุกชนิด
เมื่อถึงเวลาที่บาปจะเผล็ดผล
ก็โดนเบียดเบียนรอบทิศได้
ต่อให้ช่วงนั้นนิสัยดีแค่ไหน ก็ไม่แน่ว่าจะพ้นศัตรู
เพราะบาปเก่าจะเหวี่ยงไปอยู่กับกลุ่มคนแบบหนึ่ง
ที่รู้สึกว่าหน้าตาหรือชื่อแซ่ของคุณ
รบกวนจิตใจพวกเขามาก
อย่างที่ภาษาวัยรุ่นเรียกกันว่า
แค่เจอ ก็ทนไม่ไหว
รู้สึกว่าหน้าตากวนตีนเหลือเกิน
ขอเป็นคนไม่ชอบหน้ากันหน่อยเถอะ
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
เมื่อคิดละภัยเวร
แม้ยังโดนเบียดเบียนอยู่
ในที่สุดก็จะค่อยๆห่างจากภัยเวร
และกลายเป็นผู้ไม่ประสบภัยเวร
แบบเห็นทันตาในชาตินี้
และจะได้เห็นเด่นชัดในชาติต่อไป
เมื่อคู่เวรปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าในชีวิตนี้
ให้บอกตัวเองว่า นี้ไม่ใช่ครั้งแรก
นี่คืออีกชาติหนึ่งที่ได้เจอกัน
เป็นโอกาสแห่งกรรมใหม่
ให้ตัดสินใจปฏิบัติต่อกันแบบ
ต่อเวรอีก หรือ ตัดเวรทิ้งเสียที!
อ้างอิง : ดังตฤณ