ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ศักดิ์ศรีความเป็นมนษุย์เป็นถ้อยคำที่อธิบายถึงสิทธิมนษุยชนในแง่ของการให้คุณค่าของ ความเป็นมนุษย์ ว่ามนุษย์ทุกคนมี “คุณค่าเท่าเทียมกัน” นับว่าเป็นหลักการที่มีความสาคัญมากประการหนึ่งของเรื่องสิทธิมนษุยชนในฐานะที่เป็นแนวคิดที่อธิบายถึงสิทธิที่ติดตัวมาตั้งแต่ เกิด ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และในขณะเดียวกนั ก็ไม่สามารถที่จะโอนให้บคุคลอื่นได้ สิทธิดังกล่าว ได้แก่ “สิทธิในการมีชีวิต” และ “สิทธิที่จะมีความมั่นคงในชีวิต”
ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มิอาจจะถูกละเมิดได้ด้วยอำนาจรัฐ ด้วยการกระทำหรือด้วยมาตรการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือแม้แต่โดยเพื่อนร่วมโลกด้วยกันเอง
การธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์จะต้องกระทำโดยรัฐในเบื้องต้น ซึ่งได้แก่การพยายามขจัดตัวแปรที่จะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำในสังคม สิ่งที่รัฐต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ก็คือต้องทำให้มนุษย์ที่อยู่ในสังคมและอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐนั้นสามารถธำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ อันได้แก่
ประการแรก
(1) สมาชิกของสังคมนั้นแม้จะยากจนข้นแค้นเพียงใดก็ตาม จะต้องมีปัจจัยสี่เพื่อการดำรงชีวิตที่มีศักดิ์ศรี อันได้แก่ ต้องมีอาหารพอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย ไม่อดอยาก
(2) ต้องมีเสื้อผ้าที่จะสวมใส่เพื่อป้องกันความหนาวเย็น และเพื่อมิให้เกิดความสังเวชใจเนื่องจากการใส่เสื้อผ้าขาดและปะทั้งตัว
(3) จะต้องมีที่อยู่อาศัย ไม่นอนตากฝน ตากแดด ตากลม ขาดความเป็นส่วนตัว
(4) เมื่อเจ็บไข้ต้องมียารักษาพยาบาล หรือได้รับการรักษาจากสถานพยาบาล
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะมีอาหารพอเพียง มีเสื้อผ้าสวมใส่ มีที่อยู่อาศัย ได้รับการเยียวยารักษาเมื่อเจ็บป่วย โดยสังคมและโดยรัฐที่ตนเป็นสมาชิก
ประการที่สอง
สิทธิเสรีภาพขั้นมูลฐานของมนุษย์ที่เป็นสมาชิกในสังคมและภายใต้รัฐนั้น ต้องได้รับความคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญและการบังคับกฎหมาย สิทธิดังกล่าวถือเป็นสิทธิมูลฐานอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่นได้ เพราะเป็นหลักประกันสำหรับมนุษย์เพื่อธำรงความเป็นศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไว้ได้
ประการที่สาม
มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในสังคมหรือภายใต้รัฐที่กล่าวมาเบื้องต้นต้องมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคม และสถานะทางเศรษฐกิจของตนเอง ถ้าหากว่ามีความสามารถ มีความขยันหมั่นเพียร เพื่อการดังกล่าวจะต้องเปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงการศึกษา และโอกาสการเข้าทำงานอย่างเสมอภาคกัน และจากการเปลี่ยนแปลงฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจดังกล่าว ก็ย่อมเปิดโอกาสให้สมาชิกของสังคมซึ่งอยู่ภายใต้รัฐนั้นสามารถแสดงออกถึงสิทธิของตนซึ่งเป็นสิทธิขั้นมูลฐาน ทั้งในแง่การแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมในฐานะของประชาชน หรือแม้ในฐานะของผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมืองได้
สิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นสิทธิที่มีอยู่โดยตามปกติภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่สำคัญพอๆ กับสิทธิเสรีภาพคือการเคารพและการมีหลักประกันในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และโดยสมาชิกของคนในสังคมนั้น รวมทั้งของคนในสังคมโลก