7 อาหารทานแล้วน้องมีกลิ่น ไม่ดีนะ ไม่เอานะ!!
เวลากลิ่นแรงทำให้ขาดความมั่นใจสุดๆ กลัวคนจะได้กลิ่นปลาเค็มเอาง่าาาา
แม้จุดซ่อนเร้นเราจะปกปิดไม่สามารถให้ใครมาเห็นง่ายๆ แต่สิ่งที่บางทีเราไม่อาจปกปิดอยู่นั่นก็คือ 'กลิ่น' ซึ่งใครๆ ก็ไม่อยากมี เพราะมีแล้วมันเสียความมั่นใจสุดๆ เลย โดยเฉพาะเวลาที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น ถ้าเขารู้ว่ากลิ่นเค็มๆ นั้นมาจากเราด้วย คงได้อายไม่น่าสู้เขาอีก บางทีเราก็มั่นใจว่าดูแลความสะอาดแล้วแต่ทำไมกลิ่นก็ยังมีได้ นั่นเพราะอาหารที่กินก็มีส่วนนะคะ ต้องลองเช็คให้ดีแล้วล่ะค่ะ ว่ามาจากของกินหรือเปล่า รีบเช็คดูเลยว่ามีอะไรที่เรากินแล้วจะทำให้น้องสาวเกิดกลิ่นบ้าง
1. ของหมักดอง
ของที่ทำให้น้ำลายสอ เป็นของโปรดของสาวๆ หลายคนที่ชอบเอาไว้ทานเล่นเลย แต่ต้องระวังในการรับประทานด้วย เพราะสารจากของดองและในกรรมวิธีการผลิตจะมีการใช้เกลือเพื่อยืดอายุของอาหารเป็นจำนวนมาก รสชาติที่หวานหรือเค็มเกินไป อาจส่งผลต่อกลิ่นที่น้องสาวของเราได้ หากจะกินก็อย่าลืมนะคะ ว่าอาจจะทำให้มีกลิ่นตรงนั้นเอาได้
2. น้ำตาล
สาวๆ อย่างเราโปรดปรานของหวานเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เค้ก ไอศกรีม บิงซู น้ำหวานต่างๆ หรือแม้กระทั่งลูกอม หมากฝรั่งก็ตาม แต่น้ำตาลนี่แหละ คือสาเหตุที่ทำให้จุดซ่อนเร้นของคุณสาวๆ มีกลิ่นได้ น้ำตาลทำให้เกิดโอกาสที่จะติดเชื้อราในช่องคลอดได้ เพราะไปทำลายแบคทีเรียดีในช่องคลอด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือว่าเป็นโรคเบาหวานก็จะยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกตินั่นเอง ควรกินน้ำตาลตามมาตราฐานที่กรมอนามัยกำหนดไว้ 6 ช้อนชาต่อวันจะดีที่สุดค่ะ
3. แอลกอฮอล์
สาวๆ นักดื่มหรือสายปาร์ตี้หากรู้แบบนี้แล้ว อาจจะต้องลดการดื่มลงไปบ้างแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าเหล้า เบียร์ หรือแอลกอฮอล์ เวลาที่เราดื่มเป็นตัวการหลักที่ทำให้น้องสาวของเรามีกลิ่น เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมากๆ จะทำให้เกิดอาการเป็นพิษกับเลือด และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะการที่ต้องขับของเสียออกจากร่างกายจะทำให้มีกลิ่นต่างๆ ทำให้เสียสมดุลย์ที่ดีในช่องคลอดด้วย ดังนั้นแล้วไม่อยากมีกลิ่นที่รุนแรงบริเวณนั้น ก็ควรงดดื่มหรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีกว่าค่ะ
4. อาหารพวกเนื้อแดง
พวกเนื้อย่างเองก็คงเป็นของโปรดของใครหลายๆ คนเช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะคะ กินอร่อยแล้วฟินมากมายเลย แต่ว่าอาหารจำพวกเนื้อแดงทำให้ค่า pH ไม่สมดุลย์ เพราะอาหารที่มีอัลคาไลน์ในปริมาณสูงอย่างเนื้อสัตว์ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาจนมีกลิ่นตรงนั้นได้ เพราะตามปกติการกินเนื้อสัตว์ก็จะทำให้กลิ่นตัวแรงอยู่แล้ว ยิ่งตรงนั้นก็ยิ่งแรงเลยล่ะหากกินเข้าไปมากๆ ดังนั้นแล้วลองลดการกินพวกบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างลงสักหน่อย แล้วเพิ่มผัก เพิ่มผลไม้แทนดีกว่าค่ะ
5. ปลาร้า ปลาเค็ม ปูเค็ม
อาหารเหล่านี้ปกติก็มีรสและกลิ่นที่รุนแรงมากอยู่แล้ว ถ้ากินเข้าไปก็ย่อมไปส่งผลให้ร่างกายของเรามีกลิ่นไปด้วย เพราะอาหารเหล่านี้มักเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการของช่องคลอดอักเสบ และติดเชื้อจากแบคทีเรียได้ หากกินมากไปอาจทำให้มีอาการตกขาวเยอะ ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นที่คล้ายคาวปลาและมีอาการระคายเคืองคันที่ช่องคลอดด้วย ใครที่ชอบกินส้มตำปลาร้าเป็นประจำคงต้องเปลี่ยนมากินให้น้อยลงแล้วล่ะจ้า
6. อาหารทะเล
พวกปลาเค็มหรืออาหารทะเล ส่วนใหญ่มีรสจัดมีความคาวอยู่ในอาหารนั้นสูง ทำให้ร่างกายเสียสมดุลย์ความเป็นกรด-ด่างในช่องคลอดเอาได้ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอจนติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดตกขาวที่มีสีเทาอ่อน และมีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเค็ม รู้แล้วก็ควรลดปริมาณการกินลงก่อนที่จะเกิดอาการเอาค่ะ
cr. https://www.negativefoodphoto.com/album/16051/thai-food
7. ยาปฏิชีวนะ
บางคนเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ทำให้ต้องกินยาปฏิชีวนะ หรือใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ระมัดระวัง เช่น กินยาแก้สิวเองก็อยู่ในกลุ่มยาปฏิชีวนะด้วย ซึ่งสารเหล่านี้จะไปทำลายแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสที่อยู่ในช่องคลอด ซึ่งคอยทำลายเชื้อราของเราออกไป เพราะถ้าไม่มีอยู่เชื้อราก็เติบโตทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นได้ หากกินยาแล้วมีกลิ่นแสดงว่าแบคทีเรียที่ดีถูกทำลายไปแล้วนั่นเองค่ะ
นั่นก็คืออาหารที่ส่วนจะทำให้จุดซ่อนเร้นของคุณสาวๆ มีกลิ่นได้ ถ้าหากว่ามีกลิ่น ลองลดอาหารเหล่านี้กันดูค่ะ เผื่อจะช่วยได้ นอกเหนือจากแค่เรื่องรักษาความสะอาดค่ะ อย่าไปหลงซื้อยาชวนเชื่อที่โฆษณาว่าทำให้จิ๊มิ๊หอมมากิน หรือเอาอะไรไปสอดใส่เลยค่ะ จะได้รับอันตรายเปล่าๆ แค่ลดการกินอาหารพวกนี้แล้วดูแลความสะอาดอย่างถูกวิธีก็เพียงพอแล้วค่ะ
บทความ โดย : Akine_noxx
ฝากติดตาม กดให้ดาว กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ