แหม่ม-คัทลียา เคลื่อนไหวแล้ว หลังมีข่าว บีบี๋ สงกรานต์ ถูกศาลสั่งล้มละลาย
แหม่ม-คัทลียา เคลื่อนไหวแล้ว หลังมีข่าว บีบี๋ สงกรานต์ ถูกศาลสั่งล้มละลาย กลายเป็นข่าวร้อนก่อนหน้านี้ สำหรับกรณีนักธุรกิจหนุ่ม สงกรานต์ กระจ่างเนตร์ สามีของนักแสดงสาว แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช
ได้ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลายและให้พิทักษ์ทรัพย์ ทำให้หลายคนเป็นห่วงทั้งคู่และคนในครอบครัว เมื่อได้เจอ แหม่ม คัทลียา มาร่วมงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 11 ณ สตูดิโอบ้านริก ซ.นวมินทร์ 111 นักข่าวเลยถามถึงเรื่องดังกล่าว
ถามถึงเรื่องข่าวของคุณสงกรานต์?
“อ๋อ ไม่เกี่ยวกับพี่เลยค่ะก็เป็นเรื่องหลายสิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพี่ ถามว่าตกใจมั้ย ไม่ตกใจค่ะ ทราบมาตลอด เขาเล่าให้ฟังอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร”
มีผลกระทบอะไรมั้ย?
ไม่เลยค่ะ ที่จะกระทบคือกระทบโควิดค่ะ เพราะรีสอร์ตที่ตรังต้องปิดไป 6 เดือน แต่ว่ากำลังจะเปิด เชื่อว่าโควิดคงกระทบทุกคนเนอะ ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย”
ทุกคนก็เป็นห่วง?
ขอขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วง ทั้งที่ส่งข้อความมาหรือว่าฝากคนรู้จักมา ก็เป็นกำลังใจที่ดี เรียนตรงนี้ว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับแหม่ม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
การแสดงก็ยังทำงานเหมือนเดิม สิรินทร์ฟาร์มก็ยังผลิตโปรดักต์ใหม่ๆ รีสอร์ตที่ตรังก็ปิดเพราะโควิดตั้งแต่เดือน มี.ค. แต่ว่าตอนนี้กำลังจะเปิดแล้ว ต้นเดือน ต.ค. นี้จะเปิดให้คนไทยเที่ยวกัน”
ให้กำลังใจสามียังไงบ้าง?
คือเอาจริงๆ เรารู้มานานแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว เพราะฉะนั้นเรารู้มานานแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราก็อยู่กับเขามาตลอด โดยไม่ได้สร้างปัญหาหรือนำเรื่องมาให้เขาเพิ่ม
เขาก็ไม่ต้องคิดมากอะไร ดูแลครอบครัวไปอย่างมีความสุข ก็อยู่อย่างอบอุ่น ตอนนี้ลูกๆ เริ่มทำกับข้าวเก่งขึ้นแล้วเพราะคุณพ่อสอน แม่ก็สบาย ไม่ต้องทำกับข้าว”
คนถามเรื่องนี้เยอะมั้ย?
ก็มีบ้างค่ะแต่ไม่เยอะเลยค่ะ คนไม่ได้ถามเยอะ แต่รับรู้ได้เหมือนกันว่ามีคนเป็นห่วงแต่ไม่กล้าส่งข้อความหรือโทรมา แต่เวลาพบเจอก็จะถามว่าโอเคมั้ย เราก็บอกโอเคค่ะ ถามว่าได้เห็นข้อความให้กำลังใจในโซเชียลมั้ย มีบ้าง
แต่เอาจริงๆ ด้วยความที่ตอนนี้ยุ่งมากเรื่องโควิด เรื่องลูกยังไม่กลับไปเรียน ต้องเรียนออนไลน์ มีเพื่อนๆ โวยวายเหมือนกันว่าทำไมหลังๆ ไม่ค่อยลงไอจี คือไม่มีเวลาเลยค่ะ แล้วลูกๆ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพ แฟนคลับก็อยากจะเห็นลูกหรือพัฒนาการของเด็กๆ เหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็เห็นแล้วอยากถ่าย แต่เขาก็จะไม่ยอม เริ่มโตแล้วก็เริ่มไม่ค่อยให้ถ่าย”
แต่พอไม่ลงรูปในไอจี คนก็นึกว่าเราเครียด?
อ๋อ ไม่ๆไม่เลยค่ะ ไม่เครียดเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง คือทุกอย่างเหมือนเดิมปกติ แต่เรื่องลูกเราขอให้เขาอยู่กับเราอีกเทอมนึงก่อน เพราะยังไม่รู้ไงว่ากลับไปแล้วจะยังไง ก็ให้เรียนออนไลน์ รอถึง ม.ค. ค่อยกลับไป เขาก็เริ่มอยากกลับไปเรียนแล้วค่ะ”
ตอนนี้แฮปปี้ดี?
ช่วงนี้ก้รักกันดี ปกติ แฮปปี้ ยังทำอาหารให้พวกเราทานอย่างเอร็ดอร่อย และสอนไปถึงลูกๆ ลูกๆ ก็เริ่มทำกับข้าวให้แม่ทานได้แล้ว แม่ก็ภูมิใจ ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชมในตัวลูกนะคะ มีกระแสเข้ามาว่าอุ๊ย น้องแมคโตแล้ว ก็ขอบคุณมาก”
คนชมว่าหล่อมาก?
ขอขอบคุณนะคะ ก็พ่อแม่ก็อาจจะมีส่วนในการที่ลูกออกมาหน้าตาดี…มั้ย (หัวเราะ)”
เมื่อไหร่จะให้น้องเข้าวงการ?
อุ๊ย!!! ยังเรียนหนังสืออยู่เลย แต่ก็ลองถามเขาเหมือนกันว่าสนใจมั้ย เขาบอกว่าเขาก็คงเหมือนลุงลี่ (วิลลี่ แมคอินทอช) คงเล่นละครได้ ไม่ยากหรอก ก็ขี้โม้ไปอะ แต่ตอนนี้ให้เรียนหนังสือก่อน เพราะเขาก็เรียนหนัก”
พอลูกหล่อ คุณแม่หวงมั้ย?
“ไอ้เรื่องหวงก็คงไม่หวง พี่ว่าคงเป็นห่วงมากกว่า เพราะยุคสมัยนี้กับยุคสมัยเรามันไม่เหมือนกัน เราก็ต้องไปให้ทันกับยุคสมัย สมัยเราไม่มีมือถือ โซเชียล สมัยนี้ก็ต้องอยู่ให้ได้อย่างแข็งแรงเนอะ”
จริงๆ น้องแมคเนื้อหอมมั้ย?
ตอนนี้ยังไม่ได้มีใครติดต่ออะไร ก็มีถามบ้างค่ะ แต่ว่าเขายังไม่ 15 เลยอะ และยังต้องเรียนหนังสือ ยังต้องไปเรียนต่างประเทศ เรียนโรงเรียนประจำ ถามว่ามีสาวๆ เข้ามามั้ย พอดีอยู่โรงเรียนชายล้วนเลยยังไม่มีใคร แต่ว่าโรงเรียนกำลังจะปรับ ปีหน้าเขาจะทำเป็นแบบสหแล้วค่ะ ซึ่งพี่ก็ว่าดีค่ะ”
มีแอบถามเรื่องสาวๆ ไหม?
ก็มีแอบๆถามอยู่เหมือนกัน มีคุณยายถามว่ามีสาวมาเกาะแกะวอแวอะไรยังไงมั้ย แมคยังไม่ทันตอบ แม่ก็สวนเลยบอกว่า โอ๊ย ยังไม่มีหรอก ยังไม่ถึงเวลา ต้องเรียนหนังสือก่อน (หัวเราะ)”
แสดงว่าแม่หวง?
แม่ก็ไม่ค่อยหวงนะ แต่แม่ก็คิดว่ายังไม่ถึงเวลา (หัวเราะ) ไม่หรอก แล้วแต่เขา เราเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน มีอะไรก็ให้คุยกัน ตอนนี้ก็เรียนก่อนเพราะเขาเรียนโรงเรียนประจำ ตอนนี้เรียนออนไลน์ ก็ต้องระวังตัว ไม่ออกไปที่คนเยอะ การ์ดห้ามตกกับสถานการณ์โควิด”
โรงเรียนที่โน่นมีมาตรการอะไรบ้าง?
เขาก็เริ่มเปิดแล้วนะ ครูและโรงเรียนก็อยากจะให้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนปกติ พี่ว่าเขาก็ดูแลดี บริหารจัดการดี แต่ของเราติดตรงที่ว่าเป็นนักเรียนต่างชาติ การเดินทางมันไม่ได้มีไฟลต์บ่อยๆ สมมติถ้าไปแล้วเกิดมีอะไร จะกลับก็ไม่ใช่ว่ากลับได้ทันที สมมติแม่ไปส่ง กลับมาต้องกักตัว 14 วัน แล้วแม่มีงานที่ค้างคาอยู่ เราก็เลยดูให้มั่นใจกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ”
ขอบคุณข้อมูลจาก >>> https://jajazupzipdara.blogspot.com/2020/09/blog-post_12.html
อ้างอิงจาก: https://jajazupzipdara.blogspot.com/2020/09/blog-post_12.html