เรื่องดีๆ สุดท้ายที่ "ท่านผู้นำทีชาร่า" ได้ทิ้งไว้ให้ชาวโลก
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย กับการจากไปของนักแสดงผิวดำ ที่พึ่งสร้างปรากฏการณ์ให้กับเหล่าฮีโร่ในนามแบล็คเพนเธอร์ กับนักแสดงที่ชื่อว่า "แชดวิก โบสแมน" นักแสดงวัย 43 ปีนั่นเอง
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ที่เขาพยายามต่อสู้กับโรคมะเร็งลำใส้มากว่า 4 ปีโดยไม่บอกใคร จะมีคนรู้ก็แค่ญาติสนิทๆ และคนในครอบครัวเท่านั้น โดยตัวเขาเองก่อนที่จะเข้ามารับบทบาทในมาเวล เส้นทางชีวิตก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อบ้างนิดหน่อย แต่การเข้าร่วมเซ็นสัญญาเข้ารับบทแบล็คเพนเธอร์ นั่นคือสิ่งที่เขามองว่า เป็นสิ่งที่เขาต้องการสร้างชื่อสร้างฐานะให้ตัวเอง เป็นอะไรที่เขาจะไม่ยอมให้หลุดมือเป็นอันขาด
หลังจากนั้นเขาก็พยายามปกปิดเป็นความลับ รู้แต่ไม่กี่คน และพยายามอดทนเล่นภาพยนตร์ในมาเวลมาแล้ว 4 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรก กัปตันอเมริกา ภาค ซิวี่วอร์, แบล็คเพนเธอร์, เอ็นเกมส์ 1 และ เอ็นเกมส์ 2 นั่นเอง
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเงียบหายไป และแฟนๆ ก็กำลังรอคอยการกลับมาของแบล็คแพนเธอร์ 2 โดยมีการพูดถึงว่า ตัวละครที่จะปรากฏในครั้งหน้า เป็นไปได้น่าจะเป็น นอร์แมน (ฮีโร่ในทะเล คล้ายๆ อควาร์แมนในดีซี) และในอนาคต แบล็คแพนเธอร์ อาจจะได้จับคู่กับสตอร์มก็ได้ เพราะตอนนี้มาเวล ได้ x-man กลับมาไว้ในมือเรียบร้อย... แต่ข่าวการอัพเดทก็ยังคลุมเครือๆ
จนช่วงโควิต โบสแมน ได้ออกมาบริจาคเงิน ถ้านับเป็นเงินไทยก็ราวๆ 130 ล้านบาท (เยอะมากกกกก) ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อร่วมต่อสู้กับโควิค แต่การปรากฏตัวครั้งนั้นของเขาก็แปลกตาไปทันที เนื่องด้วยสภาพที่ผอมซีด จนทำให้แฟนๆ มองว่า นี่น่าจะเป็นการลดน้ำหนักเพื่อเล่นหนังเรื่องต่อไป..."หรือติดยา"??
ประเด็น "ติดยา" นี่ร้อนแรงมา เอาไปพูดกันในเชิงสนุกปาก ว่ากษัตรืิย์ทีชาล่า ทรงเสพโคเคนจนผอมเข้าให้แล้ว จึงนำไปสู่การล้อเลียนต่างๆ กันอย่างมากทั่วโลก แต่เขาก็ไม่ได้ออกมาแก้ข่าวแต่อย่างใด ยิ่งสร้างความเชื่อผิดๆ ให้กับคนที่โพสกันอย่างสนุกสนานกันเรื่อยมา
จนสุดท้ายเขาก็ได้จบชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำใส้ เรื่องราวทุกอย่างจึงถูกเปิดเผยขึ้น โดยทางครอบครัวของเขาได้กล่าวว่า "เราอยากจะให้ทุกคนที่เคยว่าเขา เคยล้อเลียนเขา ให้ช่วยขอโทษเขาด้วย หลายคนชอบวิจารย์คนอื่นโดยเห็นแต่รูปลักษณ์ภายนอก โดยที่คุณไม่รู้เลยว่า เขากำลังต่อสู้กับอะไร.. ซึ่งเขาเองที่ไม่เคยแก้ข่าว เพราะเขาไม่อยากให้ใครมาสงสาร เขารู้สึกยินดีที่เห็นแฟนคลับทั่วโลกยิ้มหัวเราะ แม้จะมองเขาผิดไปแค่ไหนก็ตาม เขาพยายามต่อสู้ และทำให้ทุกคนได้เห็นว่า การเคารพกันเป็นสิ่งที่ดี และการต่อสู้มันเริ่มได้จากตัวเอง.."
เรียกได้ว่า แม้พระองค์จะแพ้ให้กับโรคมะเร็ง...แต่พระองค์ก็ชนะใจแฟนคลับและนับเป็นคำสอนดีๆ สุดท้ายที่ได้ทิ้งไว้ให้บนโลกใบนี้..."เลิกดูถูกคนอื่นจากภาพลักษณ์ภายนอกที่เราเห็นได้เสียที"