ข้าว กข43 ทางรอดของผู้ป่วยเบาหวาน
เป็นที่แน่ชัดครับว่าผู้ป่วยในประเทศไทยที่เป็นเบาหวานมีจำนวนมาขึ้นทุกวัน จากการสำรวจวิจัยพบว่าคนไทยทานข้าวเป็นหลัก ทำให้มีภาวะน้ำตาลสะสมเป็นระยะเวลานานจึงทำให้เป็นเบาหวาน คนไทยป่วยเป็นเบาหวานไม่ใช่แค่ผู้สูงวัยเท่านั้น ปัจจุบันยังพบคนไทยที่เป็นเบาหวาที่อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 4.8 ล้านคนเป็นโรคเบาหวาน และมีคนไทยมากถึง 7.7 ล้านคน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน อีกทั้งในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนคน และมีอายุเฉลี่ยในการเป็นโรคเบาหวานน้อยลง ซึ่งพบว่า 1 ใน 12 คน เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นเบาหวานอายุจะน้อยกว่า 30 ปี นอกจากนี้ 1 ใน 4 คนจะไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวานเพราะไม่ปรากฏอาการ นั่นแหละครับจึงเป็นที่มาของบทความวันนี้ที่จะบอกแก่ผู้อ่านทุกคนครับ
ข้าว กข43 ครับถือเป็นปัจจัยแรกครับที่จะช่วยให้คนในครอบครัวผู้อ่านไม่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและยังช่วยควบคุมค่าน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นด้วย ใช่แล้วครับ ข้าว กข. 43 มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวอื่นๆ ทั่วไป ซึ่ง ข้าว กข43. มีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ที่ 57.5 เท่านั้นเองครับ นั่นหมายความว่ามีค่าน้ำตาลน้อยกว่าข้าวขาวทั่วไปถึง 42.5 % ครับ จากการศึกษาวิจัยของกองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ข้าวเจ้าพันธุ์ กข.43 ให้ปริมาณน้ำตาลกลูโคสต่ำกว่าข้าวอมิโลสต่ำชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีค่าอมิโลสต่ำ ซึ่งอยู่ที่ 18.82 % (ระดับที่เหมาะสมคือ 10-19) ทำให้ข้าว กข. 43 มีความอ่อนนุ่ม รับประทานง่าย นั่นเองครับ (อมิโลสในข้าว หรือ Apparent amylose-content คือ คุณภาพข้าวทางเคมี เป็นค่าที่สามารถระบุความนุ่มเหนียว และร่วนแข็งของข้าวได้ ค่าอมิโลสสูง-ข้าวยิ่งแข็งร่วน ค่าอมิโลสต่ำ-ข้าวจะนุ่ม)
สุดท้ายนี้ก็เป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยทุกท่าน และขอให้ผู้อ่านดูแลสุขภาพและรักษาตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอนะครับ ฝากกดดาวเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยครับ