เคล็ดลับเลือกฟิตเนสที่ใช่ ในราคาที่โดน
ค่าฟิตเนสไม่ใช่ถูกๆ ไม่อยากเสียดายกับเงินที่จ่ายไป ต้องรู้วิธีเลือกให้เหมาะสมนะ
ทุกวันนี้ผู้คนมากมายหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เพราะยิ่งแข็งแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งสุขภาพดีห่างไกลโรคภัยมากขึ้นเท่านั้น พร้อมที่จะใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรงสดใส แถมรูปร่าง บุคลิกภาพก็ดูดีชวนให้มอง สมเป็นคนรุ่นใหม่อีก หลายๆ คนเลยเริ่มต้นจากการออกกำลังกายกัน และการออกกำลังกายแบบคนยุคใหม่ที่ชีวิตเร่งรีบวุ่นวายนี้ การเลือกบริการฟิตเนสถือเป็นทางออกที่สะดวกที่สุด เพราะเราจะได้เลือกออกกำลังกายที่หลายได้นั่นเอง แต่ว่าค่าบริการของฟิตเนสแต่ละที่มีความแตกต่างกัน ความคุ้มค่าจึงต่างกัน เราจะเลือกยังไงให้คุ้มค่าคุ้มราคากับเงินที่เสียไปได้บ้าง มาดูทริคการเลือกได้เลยค่ะ
1. จุดประสงค์ของคุณเอง
แม้ว่าเราจะรู้ข้อดีของการออกกำลังกายกันอยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือรู้ความต้องการจากตัวคุณเองจริงๆ มากกว่า ว่าอยากได้อะไรจากการออกกำลังกายนี้ เช่น ต้องการให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น หรือมีเป้าหมายสำหรับการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ เพราะถ้ารู้เป้าหมายเหล่านี้แล้ว จะทำให้คุณเลือกประเภทของการออกกำลังกายได้ตรงกับความต้องการจริงๆ และอยากจะทำให้คุณอยากมาฟิตเนสเอง มากกว่ามาเพราะแค่เสียดายเงินค่าสมาชิกในภายหลังได้ค่ะ
2. เช็คดูว่าตัวเองเป็นสายไหน
การออกกำลังกายของฟิตเนสสามารถแยกประเภทให้ได้ง่ายๆ ก็มีอยู่ 2 แบบ คือสายยืดหยุ่นกับสายแข็งค่ะ
สายยืดหยุ่น
คือคนที่อยากออกกำลังกายเฉพาะส่วน หรือว่าต้องการการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และผ่อนคลายความเครียด ไม่อยากออกกำลังหนักๆ เพราะจะรู้สึกกดดัน เครียด เหนื่อยมากกว่าเดิม จึงควรเล่นเพื่อเน้นเล่นเสริมกล้ามเนื้อ อย่างเวทเทรนนิ่ง หรือถ้ายืดเส้นยืดสาย ควรลองเข้าคอร์สเรียนโยคะ พิลาทิส ถ้าอยากได้คาร์ดิโอ้ ก็เรียนเต้นซุมบ้า แอโรบิค เต้นฮิปฮอป เป็นต้น
สายแข็ง
คือคนที่ชอบออกกำลังกายหนักๆ ท้าทายพละกำลังของตัวเอง เป็นคนออกกำลังกายเป็นประจำมาสักพักแล้ว รู้สึกว่าการใช้กำลังออกกำลังกายปกติเริ่มน่าเบื่อสำหรับคุณไปแล้ว อยากได้อะไรที่ดีและเจ๋งกว่านี้ก็ต้องลอง ต่อยมวย ปั่นจักรยาน ปีนผาจำลอง โต้คลื่น ไตรกีฬา เป็นต้น
เมื่อแยกประเภทของตัวเองได้แล้ว คราวนี้ก็จะได้เลือกใช้บริการของฟิตเนสได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้นค่ะ เน้นแต่ที่ตัวเองต้องการอย่างเดียวไปเลยชัวร์สุดแล้ว
3. ให้ใกล้บ้านหรือออฟฟิศเข้าไว้
ความสะดวกในการไปฟิตเนสนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เลยค่ะ เพราะถ้าเดินทางได้สะดวกสบาย เราก็จะมีแรงจูงใจที่อยากจะไปออกกำลังกายได้บ่อยๆ มากขึ้น เพราะออกกำลังกายก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ไม่ควรต้องเหนื่อยเพราะการเดินทางด้วยอีก ทำให้หมดข้ออ้างเรื่องไปฟิตเนสบ่อยๆ ไม่ได้ เพราะไม่มีเวลา เพราะอยู่ไกลบ้านหรือที่ทำงานได้แล้วล่ะค่ะ
4. มีราคาแพ็คเกจที่จ่ายไหว
ค่าบริการฟิตเนสเป็นค่าใช้จ่ายที่จะมีเพิ่มขึ้นมาในแต่ละเดือน ครึ่งปี หรือ 1 ปี ก็แล้วแต่สถานที่นั้นๆ กำหนด เราจึงควรมีการวางแผนการจ่ายที่ดีเพื่อที่จะได้ไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน อย่างเช่น ช่วงแรกๆ ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะไปใช้บริการได้บ่อยๆ เป็นประจำ ก็ไม่ควรรีบทำสัญญาผูกพันเป็นระยะเวลายาวนานเกินไป เพราะถ้าไปใช้บริการต่อไม่ได้ก็จะได้ไม่เสียเปล่า รวมถึงเช็คโปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ ว่าร่วมกับบัตรไหนไหม? มีให้ผ่อนชำระหรือไม่? เพื่อจะได้เสียค่าใช้จ่ายในราคาที่สบายกระเป๋ามากขึ้นค่ะ
5. ดูองค์ประกอบโดยรวมของฟิตเนสที่นั้น
ฟิตเนสบางที่ราคาถูกก็จริง แต่ก็ควรจะพิจารณาหลายๆ เรื่องประกอบกันด้วยนะคะ อย่างเช่น อุปกรณ์พร้อมใช้มากแค่ไหน มีพนักงานหรือเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำที่ดีและถูกต้องอยู่หรือเปล่า คนที่มาใช้บริการมีจำนวนหนาแน่นต้องแย่งกันเล่นเครื่องเล่นบ่อยๆ หรือว่าคนเรียนต่อ 1 คลาสเยอะมีเกินไปไหม ไหนจะเรื่องความสะอาดของสถานที่ เวลาเปิดปิดที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณด้วย เพราะถ้าถูกแต่ไม่ดีก็ทนใช้ และไม่น่าลงทุนบริการแบบนั้นสักเท่าไหร่หรอกใช่ไหมล่ะคะ?
cr. http://homener.top/stretch-it-out-in-one-of-todays-top-rated-yoga-pants/?r=1379747575
ยังไงก็ดีการใช้ฟิตเนสให้คุ้มค่าที่สุด พื้นฐานคือคุณจะต้องมีวินัยกับการแบ่งเวลามาออกกำลังกายนั่นเองค่ะ เพราะจุดประสงค์หลักคือเราต้องการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงให้กับร่างกายโดยมีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้เราได้ยืมใช้นั่นเอง แค่มาให้ใช้สถานที่จนได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไปได้ที่สุดแล้วล่ะค่ะ
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ