มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน เตียงข้างๆ
ผมเป็นเซลล์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นเซลล์มันจึงทำให้ผมได้เดินทางออกไปหลายๆที่ไม่ว่าจะต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
ซึ่งทุกครั้งที่เดินทางผมก็จะรีเควสไปเลยว่าขอไปคนเดียว เพราะผมรู้สึกว่าการไปคนเดียวมันสะดวกกว่า หรือถ้าจำเป็นต้องไปสองคนก็ขอนอนห้องเดี่ยวเพราะผมชอบนอนคนเดียว
และครั้งนี้ก็เช่นกันผมมีโอกาสได้ออกไปพบลูกค้าที่ภาคเหนือ แต่การไปครั้งนี้ผมไปกับพี่คนหนึ่ง ซึ่งพี่คนนี้เป็นคนที่ขี้กลัวมาก ไม่ชอบการนอนคนเดียว การไปครั้งนี้เขาจึงขอนอนห้องเดียวกับผมแต่ผมก็ปฎิเสธไปทุกทางว่ายังไงก็ไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ยอมอ้อนวอนอยู่อย่างงั้นจนผมใจอ่อนยอมนอนกับเขาก็ได้
และพอมาถึงวันที่ต้องไป..เราก็นัดกันว่าต้องไปคุยกับลูกค้าก่อนถึงจะไปเข้าพักที่โรงแรม
และหลังจากที่คุยกับลูกค้าเสร็จ ผมกับเขาก็เดินทางไปยังโรงแรมเป้าหมาย ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยการจองห้องครั้งนี้เป็นการจองผ่านโดยฝ่าย HR ของบริษัทผม
ซึ่งด้วยความที่มันเป็นโรงแรมห้าดาวห้องมันก็เลยเหลือแค่ห้องเดียวเท่านั้น พอมันเหลือห้องเดียวปุ้บพี่ที่จะไปกับผมก็เริ่มมโนไปล่ะว่าทำไมไม่มีสิทธิ์ได้เลือกห้อง และทำไมเหลือแค่ห้องเดียว
พอแกพูดมากผมก็รำคาญเลยตัดสินใจเอาห้องนั้นเลย
แต่การตัดสินใจของผมก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรเลยนะ เพราะห้องที่ได้มันใหญ่มาก ดูสะอาดสะอ้าน ห้องหอมไปด้วยกลิ่นสมุนไพร
และที่สำคัญเตียงนอนของห้องเป็นสองเตียงที่มีขนาดใหญ่มาก
ซึ่งมันก็เป็นการดีสำหรับผมเพราะผมจะได้ให้พี่ที่มาด้วยไปนอนอีกเตียง แต่พี่เขากลับไม่ยอมจะนอนเตียงเดียวกับผมให้ได้ ผมก็เลย เอ่อๆ ตามใจ
จนกระทั่งถึงเวลานอนพี่เขาก็สวดมนต์ยาวเหยียดก่อนนอน และพอทิ้งตัวลงนอนได้ เขาก็หลับไปเลย
ส่วนผมนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะแปลกที่นะ แต่ไม่เคยนอนกับใครแบบนี้
โดยพอพี่เขาหลับผมก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่จะย้ายไปนอนเตียงใหม่ และพอก้าวขาลงจากเตียงได้ ผมก็สัมผัสได้ว่าเหมือนมีมือมาจับแขนผมไว้ จนผมต้องหันควับไปมอง
แต่พอหันไปก็ไม่เจออะไร เจอแค่พี่เขาพลิกตัวกลับมาทางฝั่งผมแค่นั้น
ผมจึงกลืนน้ำลายเฮือกหนึ่งแล้วค่อยๆก้าวไปที่เตียง และพอถึงเตียงผมก็นั่งลงทันที
ซึ่งพอก้นถึงเตียง หูผมก็เหมือนจะได้ยินเหมือนเสียงคนมากระซิบว่า
“ อย่ามานอนทับที่กู”
พอสิ้นเสียงนี้ผมก็หันซ้ายหันขวาซึ่งก็ไม่เจออะไรเลยคิดว่าตัวเองคงหูฝาด แล้วผมก็ทิ้งตัวลงนอนไปทันที
และในขณะที่ผมกำลังเริ่มจะหลับอยู่ล่ะ ผมก็รู้สึกเหมือนว่ามีคนเดินไปเดินมาอยู่รอบเตียง แต่ ณ ตอนนั้นมันคือความรู้สึกที่เหมือนเรารับรู้ได้ว่ากำลังมีคนเดินไปเดินมารอบๆเตียงโดยที่ผมเองลืมตามองไม่ได้
ถามว่าผมอยากมองไหม? คืออยากแหล่ะ แต่มันลืมตาไม่ได้
และสักพักจากที่เดินรอบเตียงก็เดินขึ้นมาบนเตียงล่ะ โดยที่นอนยุบลงไปตามจังหวะการเดิน
ณ เวลานั้นผมสัมผัสได้ว่ามีคนเดินบนเตียงจริงๆ ผมพยายามจะลืมตามองแต่ลืมไม่ขึ้น ร่างกายก็เริ่มขยับไม่ได้ จนผมรู้สึกว่า ผมเริ่มอัดอัดเหลือเกิน และก็เริ่มที่จะดิ้นๆๆ ดิ้นแรงไปเรื่อยๆ จนสามารถเริ่มลืมตามาได้
แต่พอลืมตามาได้ผมก็แทบอยากหลับตาลงไปอีก เพราะสิ่งที่ผมเห็นเบื้องหน้าคือ ผู้ชายร่างใหญ่ หน้าเละ นั่งค่อมร่างผมอยู่ แถมใบหน้าก็อยู่ใกล้หน้าผมมาก และที่สำคัญมือของเขาเปิดเปลือกตาผมให้เปิดอยู่
ตอนนั้นผมสั่นไปหมด พยายามดิ้น แต่ดิ้นไม่ได้ และยิ่งดิ้นก็ดูเหมือนจะยิ่งได้ใจเขา เพราะในขณะที่มือของเขาเปิดเปลือกตา ปากของเขาก็สะแยะยิ้มใส่ผมพร้อมทำเสียง แฮร่ๆ แล้วพูดว่า
“ กูบอกมึงแล้วว่าอย่ามานอนทับที่กู ”
พอเขาพูดจบผมไม่รู้ว่าด้วยความกลัวหรืออะไรทำให้ผมสามารถลุกขึ้นนั่งได้ และพอลุกนั่งได้ ผมก็หอบแฮ่กๆก่อนจะหันมองเตียงพี่ข้างๆ
พอหันไปมองก็ทำให้ผมตกใจไปอีกเมื่ออยู่ดีๆพี่ที่กำลังนอนอยู่ก็ลุกขึ้นมารำซะงั้น
ณ จุดนั้นผมรีบลุกพรวดไปเขย่าพี่พร้อมถามเขาว่า
“ เป็นไรอะไรพี่ ลืมตาๆๆ ลืมตาดิ”
ผมเขย่าเขาอย่างแรงจนเขาลืมตาได้แล้วมองหน้าผม….พร้อมกับถามผมว่าเขาละเมอหรอ?
แล้วเขาก็ขอโทษผมยกใหญ่เลยว่า เขาชอบละเมอเขาจึงไม่ชอบนอนคนเดียวเวลาไปไหนมาไหน?
แต่สิ่งที่เขาขอโทษผมมันไม่ใช่ประเด็นที่ผมสนใจเลย เพราะสิ่งที่ผมสนใจคือ
“ สิ่งที่ผมเจอคือไร และห้องนี้มันมีอะไรกันแน่”
และคืนนั้นทั้งคืนผมก็นอนไม่ได้เลย เอาแต่นั่งนิ่งๆมองพี่เขานอนไป
จนกระทั่งรุ่งเช้าผมพยายามถามคนในโรงแรมก็ไม่มีใครบอกผม จนผมต้องอาศัยคำตอบจากโซเซียลมันจึงทำให้ผมรู้ว่า
“ ห้องที่ผมมาอยู่เหมือนเคยถูกเปิดเป็นแหล่งมั่วสุมมาก่อน โดยวันเกิดเหตุได้มีเสี่ยมาเช่าและพาผู้หญิงมาคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองทำอะไรกันในคืนนั้น แต่มีคนบอกว่ามีเสียงดนตรีไทยดังมาจากในห้องนั้นทั้งคืน และพอรุ่งเช้าทั้งคู่ก็กลายเป็นศพไปละ”
พอผมอ่านปุ้บ ผมก็กุมขมับทันที…พร้อมคิดว่า ถ้าจะไปพักที่ไหน สงสัยจะต้องได้เช็คประวัติที่พักทุกครั้งล่ะมั่ง
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/2Wt45AU