มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน โลงผีคนนอน
ผู้ที่ท้อแท้ หรือสิ้นหวังในชีวิตจนไม่มีกำลังใจจะสู้ต่อไป ล้วนย่อมหาทางออกต่างๆ เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ อยู่ที่ใครจะสะดวกทางไหน ไม่ว่าจะดูดวง ทำบุญ บนบานศาลกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้คนในการสะเดาะเคราะห์ ก็คือการนอนในโลงศพให้พระท่านทำพิธีสวดศพเหมือนกับคนผู้นั้นได้ตายไปแล้ว เปรียบเหมือนการตายแล้วเกิดใหม่ทิ้งสิ่งเลวร้ายและต่อดวงชะตาชีวิต
ผันเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบแต่อุปสรรคในชีวิตจนเธอรู้สึกหลังชนฝา หาทางออกไม่ได้ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งได้แนะนำว่าให้เธอลองไปนอนในโลงศพดู อะไรๆ อาจจะดีขึ้น ด้วยความอับจนหนทางผันจึงยอมเชื่อคำแนะนำ และเดินทางมาที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถูกพูดถึงในการนอนในโลงศพต่อดวงชะตา
เมื่อมาถึงผันก็เห็นผู้คนมากมายมายืนต่อแถวรอทำพิธี แถวยาวเหยียดจนล้นออกจากศาลาการเปรียญของวัด ผันอดใจรออยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมงแต่แถวก็ยังลดลงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง เธอจึงขับรถออกไปหากินข้าวร้านข้างทางรอเวลา ด้วยความที่ผันพึ่งมาแถวนี้เป็นครั้งแรก เธอยังไม่ชำนาญทางจึงทำให้ขับหลงอยู่หลายรอบกว่าจะหาทางเข้าวัดเจอในที่สุด
พอมาถึงผันก็รีบตรงดิ่งไปที่ศาลาการเปรียญทันทีเพราะกลัวจะเสียเที่ยว โชคดีที่เธอไปได้ทันเวลาเป็นจังหวะที่ชุดสุดท้ายที่จะได้นอนในโลงถึงคิวพอดี ผันกึ่งเดินกึ่งวิ่งมุ่งหน้าไปที่โลงศพที่หันไปทางทิศตะวันตก รับธูปสีดำกับดอกบัวสดหนึ่งดอกจากคุณป้าท่านหนึ่ง ผันมองดูคนอื่นๆ เห็นว่าเขาเข้าไปนอนในโลงแล้วพนมมือด้วยท่าเหมือนคนตาย เธอจึงทำตาม หลังจากที่นอนราบในโลงศพเรียบร้อยแล้วก็มีคนมาเลื่อนประตูโลงปิดให้ แต่ก็ยังเหลือช่องว่างเล็กๆ เหนือศีรษะให้เป็นช่องทางหายใจ
ต่อมาพระ 4-5 รูปที่เธอเห็นตอนแรกท่านก็สวดบังสุกุลตายพร้อมๆ กัน เป็นบทสวดบังสุกุลเดียวกันกับที่สวดในงานศพไม่มีผิดเพี้ยน ผันจึงหลับตาพนมมือด้วยความตั้งใจ เธอเฝ้าภาวนาขอให้การทำเหมือนตายแล้วของเธอครั้งนี้ ทำให้เธอสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้เสียที
ปึก !
เสียงไม้กระทบกันดังขึ้น ผันรีบเบิกตาดูว่ามันคือเสียงอะไร พบว่ามันเป็นเสียงฝาโลงกระทบกับขอบโลง เธอรู้สึกแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆ ฝาโลงมันถึงปิดเองได้ หรือว่ามีคนตั้งใจปิดเพื่อทำพิธีให้สมจริง ผันคิดวกวนไปมาจนรู้สึกว่าคิดไปก็ไม่ได้อะไร ฝืนทำพิธีให้มันจบๆ ไปดีกว่า ไหนๆ ก็เสียเงินเสียทองทำบุญค่าโลงศพแล้ว
เสียงพระด้านนอกค่อยๆ เบาลง อาจเพราะโลงศพนั้นถูกปิดสนิท อากาศด้านในก็เหมือนจะค่อยๆ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ผันเริ่มอึดอัด หายใจลำบากขึ้นทุกที ผันแอบคิดในใจว่าหากเธอสะเดาะเคราะห์ด้วยการแกล้งตายแต่ดันตายขึ้นมาจริงๆ คงน่าขัน
อยู่ๆ กลิ่นธูปก็อบอวลทั่วทั้งโลงศพ หลังจากนั้นผันก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังนอนเบียดเธออยู่ แต่เพราะด้านในโลงมันมืดมาก และไม่มีช่องให้แสงสว่างผ่านได้เธอจึงมองไม่เห็นว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร
ผันพยายามตั้งสติทำพิธีให้จบ แม้ความจริงอยากจะวิ่งออกไป ณ เดี๋ยวนั้น แต่ถ้าทำแบบนี้มันจะเป็นการทำลายพิธีของคนอื่นไปด้วย เธอจึงค่อยๆ หายใจเข้า หายใจออก นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เข้าไว้
หลังจากที่พระสวดบังสุกุลตายจบต่อไปก็จะเป็นการสลับทิศทางของโลงศพให้หันหัวในทิศตะวันออก คนที่คอยปิดฝาโลงศพให้เมื่อตอนแรกก็ไล่เปิดฝาโลงให้ทีละโลงจนกระทั่งมาถึงโลงของผัน ลุงที่รับหน้าที่เปิดปิดฝาโลงพยายามเปิดฝาโลงเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก จนป้าที่เป็นฝ่ายจัดการเรื่องธูปกับดอกไม้ต้องมาช่วยเปิด แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งๆ ที่ฝาโลงไม่ได้มีล็อกอะไรที่น่าจะติด และไม่ได้ตอกตะปูสักดอกเดียว
ผู้คนที่มาร่วมพิธีต่างก็พากันฮือฮาพร้อมกับขนลุกขนชันไปตามๆ กัน เพราะเมื่อครู่พึ่งสวดบังสุกุลตายจบไป ไม่แน่ว่าผีไร้ญาติที่ไหนอาจจะมาขอส่วนบุญอาศัยนอนในโลงด้วยก็ได้
พระรูปหนึ่งเดินมาที่โลงศพแล้วสวดแผ่เมตตาที่หน้าฝาโลงของผัน หลังจากนั้นพระท่านจึงได้ลองให้เปิดฝาโลงอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้สามารถเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
ผันอยู่ในสภาพช็อกถลึงตา จนผู้คนพากันแตกตื่น อาการของผันน่าเป็นห่วงจนคนที่ร่วมพิธีแนะนำให้พาตัวเธอส่งโรงพยาบาล แต่พระท่านได้ยั้งเอาไว้แล้วจึงให้คุณลุงที่คอยเปิดปิดฝาโลงอุ้มผันไปยังโลงศพที่หันหัวไปด้านทิศตะวันออก รวมถึงให้คนอื่นๆ นอนในโลงศพทิศตะวันออกเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงใช้จีวรพระคลุมให้กับทุกคนแล้วพระท่านก็เริ่มสวดบังสุกุลเป็นเพื่อจบพิธี
หลังจากพระท่านสวดจบผันก็ค่อยๆ ได้สติจนสามารถพูดจารู้เรื่อง เธอได้เล่าเรื่องให้พระท่านฟัง พระท่านเลยบอกเธอว่าเธอเป็นคนจิตอ่อน มักจะถูกก่อกวนได้ง่าย พร้อมทั้งมอบพระพิมพ์องค์หนึ่งให้ผันพกติดตัวเอาไว้ ผันจึงได้รับมา และกราบลาพระ จากนั้นเธอก็โทรเรียกเพื่อนให้ขับรถมารับแทนที่จะขับกลับเอง เพราะเธอยังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย
สามารถรับชมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/30jmNvO