5 เรื่องจริงของปืน Kalashnikov AK-47
โพสท์โดย มารคัส
5 เรื่องจริงของปืน Kalashnikov AK-47
Kalashnikov คือ หนึ่งในปืนไรเฟิลจู่โจมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
สัญลักษณ์ของความเรียบง่ายและน่าเชื่อถือ/ไว้วางใจได้
จนกระทั่ง Kalash กลายเป็นชื่อสามัญทั่วไปที่เรียกขานกัน
แต่อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับปืน Kalashnikov
ที่มักจะเชื่อกันอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับตำนานปืนไรเฟิลชนิดนี้
1. AK-47 ลอกเลียนแบบจาก Sturmgewehr
ในเอกสารเกี่ยวกับอาวุธปืนบางฉบับ
มักจะระบุว่าพื้นฐานปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashinkov
ลอกเลียนแบบมาจากปืนไรเฟิลจู่โจมเยอรมัน STG-44 (Sturmgewehr)
แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้ยังห่างไกลจากความจริงอยู่มาก
เพราะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้างอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม
โดยการใช้แมกกาซีนบรรจุลูกระสุนตรงช่วงกลางของปืนกล
มีการผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในสหภาพโซเวียตช่วงต้นเดือนกรกฏาคม 1943
หลังจากยึดปืนไรเฟิลจู่โจมของเยอรมัน Mkb-42 มาได้
ในปี 1943 นักออกแบบอาวุธปืนของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
ได้รับคำสั่งให้สร้างอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม
ที่มีแมกกาซีนบรรจุกระสุนปืนตรงกลาง
ในปี 1944 มีการประกวดแข่งขันอาวุธปืน
ปืนไรเฟิลจู่โจม (Sudayev AS-44) ได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้
โดยปืนรุ่นนี้ออกแบบโดย Alexei Sudayev
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการได้มีข้อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงบางอย่าง
ที่มา https://goo.gl/9fgz8r
ในปี 1946 Alexei Sudayev เสียชีวิตอย่างกระทันหันในวัย 34 ปี
และโชคร้ายไม่มีใครที่จะสามารถสานงานปรับแต่งปืนของท่านได้อีก
พื้นฐานการสร้างปืนไรเฟิลจู่โจมจึงถูกวางทิ้งไว้ก่อน
และได้มีการประกวดแข่งขันกันใหม่อีกครั้ง
โดยมีข้อกำหนดทางเทคนิคส่วนใหญ่
ให้เป็นไปตามคุณสมบัติของปืนไรเฟิลจู่โจมของ Alexei Sudayev
โดยใช้ปืนไรเฟิลจู่โจม Sturmgewehr Stg-44 เยอรมันนี
นำมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพ/ประสิทธิผลในการใช้งานภาคสนาม
ต่อมาภายหลังจากที่มีการทดสอบที่สลับซับซ้อนและยาวนาน
คณะกรรมการจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ปืนไรเฟิลจู่โจม
Kalashnikov 7.62 มิลลิเมตร (AK) หรือ AK-47
หมายเหตุ
Reverse Engineering วิศวกรรมย้อนกลับ
มีหลายชาติชอบทำกัน เช่น รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยิว อิหร่าน
ด้วยการวัดรายละเอียดทุกชิ้นส่วน รื้อถอด ประกอบใหม่ ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
แล้วค่อย ๆ พัฒนาปรับปรุงชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
จนแทบเป็นของใหม่ถอดด้ามแทบไม่เหมือนของต้นฉบับ
2. AK-47 ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1947
มักจะมีความเชื่อกันมานานแล้วว่า
ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
ปรากฏตัวขึ้นใช้งานในกองทัพสหภาพโซเวียตรัสเซียในปี 1947
แต่เรื่องจริงมันใช้เวลานานมากในการปรับปรุง/พัฒนา
ก่อนจะนำเข้าสู่กระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรม
และนำเข้าประจำการในกองทัพสหภาพโซเวียตรัสเซีย
เช่นเดียวกับอาวุธสงคราม PPSh-41, SKS-45 และปืนรุ่นอื่น ๆ
แม้ว่า ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov รุ่น 1947
จะได้รับการขนานนามว่า AK-47 ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ในปี 1949 ปืนรุ่นนี้จะเข้าสู่กระบวนการผลิต
และนำเข้าประจำการกองทัพสหภาพโซเวียตรัสเซียในปี 1949
ในปี 1956 ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ถูกใช้ในงานรบเป็นครั้งแรก
ในการรบในยุทธการ Vikhr (Whirlwind)
ซึ่งกองทัพสหภาพโซเวียตรัสเซียได้เข้าแทรกแซงในฮังการี
เพื่อโจมตีฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเดือนพฤศจิกายน 1956
ในปี 1957 ชาวบ้านรัสเซียจึงได้เห็นปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov เป็นครั้งแรก
ในละครชวนหัวของโซเวียตรัสเซีย Maxim Perepelitsa
3. Kalash เป็นปืนยอดนิยมเพราะการประกอบง่าย
บ่อยครั้งเมื่อมีการพูดถึงประโยชน์ของปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
หลายคนมักจะพูดถึงความเรียบง่ายและความน่าเชื่อถือของอาวุธนี้ - และนี่เป็นเรื่องจริง
แต่อย่างไรก็ตาม Kalash ต้องใช้เวลาร่วม 10 ปีจึงจะบรรลุเป้าหมายนี้
ในปี 1959 การออกแบบและพัฒนาปืนจึงสรุปลงตัว
ได้ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov AKM โดยอักษร M คือ สมัยใหม่ modernized
ปัญหาเบื้องต้นของปืนไรเฟิลจูโจม AK-47
คือ การผลิตตามแบบรุ่นแรกเป็นเรื่องยากมาก
และมีราคาแพงมากในการผลิตออกมาแต่ละครั้ง
เพราะต้องมีการตรวจสอบและส่งกลับไปกลับมาระหว่างโรงงานผลิต
กอปรกับกระบวนการผลิตที่สลับซับซ้อนมาก
ทำให้การผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมขาดช่วงเป็นพัก ๆ
และปัญหาการขาดแคลนอาวุธปืนจู่โจมภายในกองทัพ
ทำให้ต้องใช้ปืนไรเฟิล Simonov เป็นการชั่วคราวไปก่อน
เรื่องที่จำเป็นและเร่งด่วนมากที่สุดในโรงงานผลิตอาวุธปืน
คือ ต้องลดความสลับซับซ้อนในการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
โดยมีเป้าหมายใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่และวัตถุดิบที่เป็นเหล็ก
ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอาวุธในหลายจุดมาก
และรีดน้ำหนักของปืนไรเฟิลจู่โจมลงได้ถึง 600 กรัม
รวมทั้งมีการติดตั้งดาบปลายปืนแบบมาตรฐานเป็นครั้งแรก
ทำให้เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของปืนรุ่นใหม่นี้
เมื่อเปรียบเทียบกับปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 รุ่นต้นแบบ
คือ กระบวนการผลิตที่ใช้เครื่องจักรกล
และผลิตได้คุณภาพและปริมาณจำนวนมากทำให้มีต้นทุนต่ำ
Fyodor Tokarev นักออกแบบอาวุธของโซเวียตรัสเซียที่รู้จักกันดี
ในการออกแบบปืนพก TT และปืนไรเฟิล SVT-40
ได้ให้คำอธิบายปืนไรเฟิลจู่โจม AKM ว่า
" ปืนรุ่นนี้มีความน่าเชื่อถือในการใช้งาน มั่นใจได้ถึงความแม่นยำสูง
และการยิงที่แม่นยำและมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ”
ในปี 1960-1976 ปืนไรเฟิลจู่โจม AKM
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีการผลิตกันมากที่สุด
และนำเข้าประจำการในกองทัพโซเวียตรัสเซีย จนถึงปัจจุบัน
โดยปืนไรเฟิลจู่โจม AKM ยังคงประจำการในกองทัพอากาศของโซเวียตรัสเซีย
และมีการติดตั้งอุปกรณ์เก็บเสียงปืนแบบถอดประกอบได้
ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ติดตั้งในปืนไรเฟิลจู่โจม AK-74
ที่ยังเป็นความลับทางรัฐการและมีการใช้งานในวงจำกัด
4. Kalash มีเอกลักษณ์
ภายใต้กติกาสัญญาวอร์ซอ
มีการใช้อาวุธแบบเดียวกันที่ออกแบบมาให้ใช้กระสุนแบบเดียวกัน
และให้มีอุปกรณ์บางชิ้นส่วนที่ใช้ทดแทนกันได้
ในปี 1958 กองทัพ Czechoslovak ได้บรรจุปืนไรเฟิลจู่โจม Čermak CZ SA Vz.58
ซึ่งมีเอกลักษณ์คล้ายกับปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
เพียงแต่มีรูปทรงและการออกแบบที่แตกต่างกันอย่างมาก
แม้ว่าปืนไรเฟิลรุ่นนี้จะมีคุณภาพสูงในการผลิต
แต่ความน่าเชื่อถือยังด้อยกว่าปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
อนึ่ง Czechoslovakia เป็นประเทศนักออกแบบอาวุธปืน
และมีพัฒนาการการผลิตอาวุธปืนมายาวนานแล้ว
5. ปีนไรเฟิลจู่โจม AKS74U เป็นอาวุธโจมตี
ปืนไรเฟิลจู่โจม AKS74U ซึ่งมีขนาดสั้นลงพร้อมกับพานท้ายปืนแบบใหม่
ผลิตขึ้นมาสำหรับใช้ในกองทัพอากาศโซเวียตรัสเซียเท่านั้น
แต่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
เพราะจริง ๆ ปืนรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาสำหรับการใช้งานใน
หน่วยทหารยานรบ หน่วยทหารปืนใหญ่ และหน่วยทหารสื่อสาร
ซึ่งบรรดาทหารเหล่านี้มักจะไม่ได้อยู่ในแนวหน้าการรบ
แต่รูปแบบอาวุธปืนแบบนี้จะมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น
และมีการทดสอบปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ในสนามรบจริงในปี 1982-83
ปืนไรเฟิลจู่โจม AKS74U ถูกนำไปประจำการทหารโซเวียตรัสเซีย
ที่กำลังสู้รบในอัฟกานิสถาน แล้วแพ้ยับเยินในเวลาต่อมา
แม้ว่าปืนนี้จะมีความแม่นยำในระดับหนึ่ง
แต่ก็มีชื่อเล่นที่ไม่น่าพึงพอใจมากนักเพราะแพ้รบในอัฟกานิสถาน
ข้อเสียหลัก ๆ ของปืนรุ่นนี้ที่ผ่านสนามรบมาแล้วคือ
รูปแบบตัดลำกล้องปืนที่ย่อส่วนของปืนรุ่นนี้
ทำให้ความแม่นยำลดลง ยิงได้ในระยะสั้นลง
และลำกล้องปืนร้อนและขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ทำให้กระสุนไม่รีดเกลียวภายในลำกล้อง
ในปี 1989 กองทัพโซเวียตรัสเซียได้ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน
ปืนไรเฟิลจู่โจม AKS74U จึงถูกถอดออกจากประจำการ
แล้วนำไปเก็บไว้ที่คลังแสงอาวุธเป็นการเบื้องต้นก่อน
แต่ต่อมามีสถานการณ์ด้านอาชญากรรมรุนแรงภายในประเทศ
ทางรัฐบาลโซเวียตรัสเซียจึงได้จัดส่งปืนไรเฟิลรุ่นนี้
ซึ่งเหมาะสมกับการสู้รบในเมือง การสู้รบระยะประชิดตัวมากกว่า
โดยมอบให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบภายในประเทศ
และหน่วยงานรักษาความสงบภายในท้องถิ่นด้วย
ปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวของ Kalashnikov ที่ผลิตใน Tula
ในขณะที่การผลิตปืน Kalash รุ่นอื่น ๆ มักจะผลิตกันใน Izhevsk
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/ec1ET8
https://goo.gl/YHXMVK
AKS74U
20 เรื่องราวของปืน AK47 หรือ Kalashnikov
ค้างคาใจคับ ทำไมคนไทยถึงเรียกปืนตระกูล AK ว่า อาก้า
Credit : หมายเลข 19
ภาษารัสเซีย A= ah K= kah
ภาษาฝรั่งเศส A= อา K= กา
บางท่านว่าน่าจะมาจากภาษาฝรั่งเศส
เพราะครั้งหนึ่งเวียตนามเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
และช่วงหนึ่งเวียตนามรับการสนับสนุนอาวุธจากโซเวียตรัสเซีย
การออกเสียงตัวสะกดบางคำก็คล้ายเคียงกัน
https://goo.gl/bAQ9G3
https://goo.gl/x9TukX
https://goo.gl/uw2nXf
https://goo.gl/NzJnka
https://goo.gl/xsqwmR
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://pantip.com/topic/37762106
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์"ไข่ครอบ" ความอร่อยแบบดั้งเดิมจากแดนใต้ของไทยเรา ที่น่าลิ้มลอง...Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า