มิติลับ สัมผัสสยอง ตอน เสียงเตือน
‘ปาน’ เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเธอเลือกเรียนสาขาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาต่างประเทศ ดังนั้นการสอบวัดระดับภาษาจึงจำเป็นที่นิสิตจะต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์ ในปีที่แล้วเธอได้ลงสอบไปรอบหนึ่ง แต่คะแนนก็ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยต้องการ เธอเลยลงสอบใหม่อีกครั้ง โดยเลือกสนามสอบเดียวกันกับครั้งก่อนคือ สอบที่กรุงเทพมหานคร เพราะใกล้บ้านที่สุดแล้ว
ปานตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเช็กสิ่งของที่จำเป็น พวกบัตรยืนยันตัวตนต่างๆ ที่ต้องใช้ อีกทั้งเธอยังจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก่อนเวลาสอบราวๆ สองชั่วโมง เธอกะจะออกเดินทางเลยเพราะเวลาเหลือไม่มากแล้ว
ปานเดินออกไปจากบ้านแล้วล็อกประตู ระหว่างนั้นแม่ของเธอก็โทรมาพอดีเพื่ออวยพรให้ลูกสาวสอบผ่าน ทว่าอยู่ๆ ก็มีเสียงบางอย่างร้อง เสียงนั้นอยู่เหนือศีรษะพอดี แต่ปานไม่ทันได้สนใจเพราะกำลังรีบ
ที่บ้านไม่มีรถเหลือสักคันเพราะพ่อกับแม่ใช้ขับไปทำงาน ปานเลยต้องเดินทางด้วยรถตู้แทน ซึ่งการโดยสารรถตู้เป็นไปอย่างราบรื่นดี แม้คนขับจะขับเร็วไปหน่อย แต่มันกลายเป็นเรื่องปกติของการนั่งรถตู้ไปแล้ว เพราะนั่งรถตู้ทีไรน้อยครั้งนักที่จะเจอคนขับรถใจเย็นๆ ไม่รีบร้อนเอารถไปต่อเพื่อให้ได้ทันผู้โดยสารในรอบต่อไป
ปานได้นั่งฝั่งขวาของรถตู้ ส่วนคนข้างๆ ที่นั่งติดกับกระจกเป็นผู้หญิงอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า พูดคุยกันไปมาจึงได้รู้ว่าเธอมีจุดหมายเดียวกัน คือเดินทางเพื่อไปสอบที่กรุงเทพมหานคร
ปานเอียงหน้าไปมองกระจกด้านข้าง พบว่าอีกราวๆ สองกิโลก็จะเดินทางถึงที่หมาย เธอจึงได้เปิดกระเป๋าเคียงเพื่อตรวจเช็กอุปกรณ์ ในจังหวะที่กำลังควานหาสิ่งของในกระเป๋าปานก็เผลอทำปากกาตก ปากกามันกลิ้งไปที่ใต้เบาะของหญิงสาวที่นั่งข้างๆ หล่อนจึงอาสาก้มเก็บให้
เวลาเพียงเสี้ยววินาทีอยู่ๆ รถกระบะบรรจุแท่งเหล็กไว้เต็มกระบะหลังก็เสียหลักแล้วพุ่งมาทางรถตู้คันที่ปานนั่ง ยังไม่ทันได้เตรียมใจรถกระบะก็พุ่งชนเข้าที่ด้านข้างของรถตู้ทันที
แท่งเหล็กแท่งหนึ่งเสียบเข้าทะลุกระจกรถตู้ หากหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ปานไม่ได้ก้มเก็บปากกา แน่นอนว่าเธอจะโดนแท่งเหล็กนี้อย่างจัง แต่โชคช่วยเลยทำให้ปลอดภัย
ด้วยแรงกระแทกทำให้รถตู้เบี่ยงเข้าข้างทางแล้วจอดแน่นิ่ง ส่วนรถกระบะก็เสียหลักจอดอยู่ใกล้ๆ กัน เวลาต่อมาเสียงไซเรนทั้งของรถพยาบาลทั้งของกู้ภัยดังระงมไปทั่วพื้นที การจราจรติดขับจนแทบไม่ขยับ คนเจ็บถูกทยอยช่วยเหลือให้ออกมาจากรถทีละคน จากอุบัติเหตุนี้ทั้งคนขับรถกระบะกับผู้โดยสารในรถตู้โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนมากบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะมีก็แต่นักศึกษาสาวคนหนึ่งผู้โชคร้าย เธอถูกเหล็กเสียบเข้าที่กลางอกจนหมดสติไป พยาบาลชุลมุนช่วยกันห้ามเลือดแล้วให้ออกซิเจนทันที
รถพยาบาลนำตัวผู้บาดเจ็บสาหัสออกจากพื้นที่เพื่อมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล ชีพจรคนเจ็บเริ่มอ่อนลงจนเข้าขั้นโคม่า ในรถเต็มไปด้วยความวุ่นวายและลุ้นระทึก พยาบาลช่วยสุดความสามารถเพื่อยื้อชีวิตคนเจ็บเอาไว้จนกระทั่งส่งถึงมือหมอได้สำเร็จ
ภายหลังทราบชื่อคนเจ็บจากบัตรประจำตัวนิสิต เธอชื่อว่า ‘ปานทอง’ จึงได้ติดต่อญาติ พ่อกับแม่ของปานทองทิ้งงานแล้วบึ่งมาหาที่โรงพยาบาลทันที พอได้ทราบข่าวว่าลูกสาวปลอดภัยแล้วก็โล่งใจ ยกมือไหว้ขอบคุณหมอกับพยาบาลทั้งน้ำตา
ปานหลับไปหนึ่งวันเต็มๆ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องไอซียู มีสายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด อีกทั้งยังถูกแทงสายออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ เธอจึงหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความรู้สึกโกรธแค้นโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอจนเกือบตาย
พ่อกับแม่ก็ได้ปลอบและให้กำลังใจ คอยเฝ้าลูกสาวจนกระทั่งอาการทรงตัว จนถูกย้ายตัวออกมาที่ห้องพักฟื้น อาการของปานเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้เป็นแม่เริ่มสงสัยว่าทำไมรถตู้เกิดอุบัติเหตุทั้งคัน แต่กลับมีแค่ลูกสาวของเธอคนเดียวที่เจ็บหนัก คิดไปคิดมาจึงนึกขึ้นได้ว่าตอนที่โทรหาลูกสาวในเช้าวันนั้นเธอได้ยินเสียงจิ้งจกร้อง แต่ไม่คาดคิดว่าจิ้งจกจะร้องบอกเหตุร้าย หากเชื่อคำโบราณที่ว่าจิ้งจกร้องทักให้เลื่อนการเดินทาง เหตุร้ายครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นบทเรียนราคาแพงในชีวิตของปาน แม่จึงได้กำชับกับเธอว่า ต่อไปเธอจะจำไว้เสมอว่าหากมีจิ้งจกร้องถ้าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศีรษะ เป็นตายร้ายดียังไงก็จะไม่ออกเดินทางในวันนั้นเด็ดขาด เพราะโบราณบอกไว้ว่าให้เลื่อนออกไปแล้วให้เดินทางในวันรุ่งขึ้นแทน การเดินทางจึงจะราบรื่น
สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ aplay.tv https://bit.ly/3emyx5H